หายไปนานภาค 1 เที่ยวฮ่องกง

ฮ่องกง พระใหญ่ ตุงชุง

หายไปใหนมานานภาค 1 ไปเที่ยวฮ่องกง

ไม่ได้หายไปไหนเลยครับ แต่ลืม password เลยพาลไม่อยากเข้ามาใน gotoknow.org ไม่รู้เป็นอย่างไรเดี๋ยวนี้ อาจเป็นเพราะมีเรื่องต้องพบต้องเห็นมาก สมองเลยมีระบบการจำกัดการรับรู้โดยอัตโนมัติ ไม่ดีเลยนะครับ ในช่วงที่หายไปนี้ ก็ไปผจญภัยหลายๆอย่าง จะค่อยๆ เล่าให้ฟัง

ในช่วงที่ผ่านมาไปเที่ยวฮ่องกงอีกแล้วครับ ไปเที่ยวจริงๆ ว่าจะไม่ไปแล้ว ปกติในวันเกิดภรรยาผม จะต้องพาไปเที่ยว ปีนี้อุตส่าห์ bypass ฮ่องกงไปเนื่องจากไปเกือบทุกปี (ไม่รู้เหมือนกันว่าไปทำไมของก็แพง ไม่เคยไปซื้อของนะครับ) ในที่สุดก็ต้องไปจนได้ อาจเป็นเพราะความชอบคน ภูมิอากาศ ความสะดวกสบายในการเดินทางด้วยตนเอง และอาหาร ก็เป็นได้ ไปเที่ยวนี้มีโอกาสพักโรงแรมหรู ในสถานที่ใหม่ จะเล่าให้ฟัง

ขั้นตอนแรก ตั๋วเครื่องบิน บินมามาก ใช้บัตรเครดิตมาก เลยได้บินฟรี เสียค่าภาษีน้ำมันและภาษีเดินทาง ก็ถูกพอควร แน่นอนคงต้องไปการบินไทย เคยไปฮ่องกงชั้น Business class ก็ดูหรูดี แต่ระยะเวลาสั้นไปหน่อย ดีตรงที่มีโอกาศได้นั่ง lougue ของสายการบินไทย ก่อนไปที่สุวรรณภูมิ และก่อนกลับที่ฮ่องกง แค่นั้นเอง ที่นั่งก็ไม่รู้สบายหรือไม่ เพราะนั่งครู่เดียว แต่อาหารบนเครื่องนั้นแตกต่างแน่นอน

ขั้นที่สองการจองโรงแรมและไปโรงแรม จอง Novotel Citygate เนื่องจากมีบัตร accor ซึ่งเป็นบัตรสมาชิก chain โรงแรมเครือนี้ ได้พักฟรีหนึ่งคืน และอีกคืนหนึ่งจ่าย 50% เลย upgrade ห้องเป็น Business suite อยู่ชั้น 21 เห็นวิวสวยและชัดเจนดี เนื่องจากโรงแรมนี้อยู่ไกลติดกับสนามบินแช็บลอกกอก ของฮ่องกง เดินทางไม่ถึง 5 นาที (ปกติจะพักในเมืองบนเกาะเกาลูน เวลาลงเครื่องก็ต้องซื้อตั๋วรถไฟด่วน airport express เข้าและออกเมือง ซื้อสองเที่ยวราคาถูกกว่า รถไฟจะวิ่งจากสนามบินไปสถานีฮ่องกง และมีรถรับส่งไปยังโรงแรมปลายทางฟรี) ในชั้นนี้ จะมี high tea ให้กินฟรีตอน 14.00-17.00 และมี cocktail ให้กินฟรีอีก เวลา 18.00-20.00 แค่นี้ก็คุ้มเนื่องจากมื้อหนึ่งก็ตกเกือบ 150 ดอลล่าร์ฮ่องกงแล้ว เสียอย่างเดียวโรงแรมนี้อยู่ใกลมาก มีรถรับส่งสนามบินฟรี (แหงล่ะ ไม่มี public transport และอยู่ใกล้สนามบินมาก)

ขั้นที่สามการเดินทางจากโรงแรมไปเที่ยว ไปที่สถานีรถไฟไต้ดิน MTR จะมีที่ขายบัตร octopus บัตรนี้ดีมาก คล้ายบัตร debit  ใช้ขึ้นรถโดยสารได้เกือบทุกสาย ขึ้นรถ MTR ได้ ซื้อของ SEVEN ELEVEN ก็ได้ ไม่ต้องเสียเวลาหาเศษตังค์เวลาขึ้นรถ สามารถนำไปแลกคืนเงินได้ ถ้าใช้ไม่หมด จากโรงแรมเข้าเมืองใช้เวลา 30นาที นั่งจากสถานี ตุงชุง สุดสาย ไปยังย่านจิมซาจุ่ย มีหลายทางที่จะไปได้เลือกดีๆ ก็แล้วกัน

ขั้นที่สี่ วางแผนเที่ยว มีที่เที่ยวที่คิดว่าจะไปไม่มากนัก ภรรยาผมต้องการไปถ่ายรูป มี Canon 450 และ powershot G 10 คนละตัวไปช่วยกันถ่ายรูป สถานที่ไปครั้งนี้คือ 1. หน้าดิสนีย์แลนด์ ลงสถานีเดียวจากตุงชุงคือสถานี sunny bay แล้วต่อรถไฟฟ้าสาย Disney resort ไป ซึ่งภายในตกแต่งสไตล์คิกขุ ไปซักครั้งแล้วเอามาเล่าสู่กันฟังก็พอ หน้า Disney มีน้ำพุ สวยดี รูปร่างของสวนสนุกก็เหมือนที่อื่น เพียงแต่ขนาดเล็กลงเท่านั้นเอง ไม่ได้เข้านะ แก่แล้ว 2. บริเวณอ่าวฮ่องกง มีชื่อเสียงมาก วิวแพโนรามา มีมหาสมุทรขั้นกลางระหว่างเกาลูนและเกาะฮ่องกง มองไปทางฮ่องกงเห็นตึกระฟ้าเป็นแนวกำแพง contrast กับท้องฟ้าและทะเล สวยมาก กลางคืนมีการแสดงแสงสี เอาสปอร์ตไลท์มาติดตามตึกต่างๆ มีการยิงเลเซอร์ ดูสวยดี 3. ของผมเองคือเดินดูร้านหนังสือและร้านซีดี ตอนหนุ่มๆบ้ามากๆ เดินตั้งแต่ 10.00-22.00 ดูสองอย่างนี้แหละ มาบัดนี้ร้านพวกนี้หมดเสน่ห์ ปิดไปก็เยอะ ที่มีอยู่ก็ขายแพงกว่าเมืองไทยมาก Asia book เราหนังสือถูกกว่ามาก ซีดีเพลงบ้านเราไม่มีแต่ที่นี่ราคาก็แพง (ดู amazon ราคาถูกกว่านี้มาก) เดินดูแค่ 2 ชั่วโมงก็หมดรายการของผมแล้ว 4. ไปใหว้พระวัดหวังต้าเซียน ดูสวนและวัดนางชี  ปกติจะไป repulse bay แต่ครั้งนี้ขี้เกียจนั่งรถเมล์ไป (ใช้เวลา 45 นาที) สวนที่ว่านี้สวยมาก มีเจดีย์ทองอยู่กลางสวน ต้นไม้เขาปลูกสวยดี ติดกับสวนมีวัดนางชีเป็นวัดแบบโบราณแต่สร้างใหม่ อลังการงานสร้างมาก สรุปว่าสวย ถ้าไม่เคยไปควรจะไป เคยไปแล้ว ไปดูอีกก็ได้ วัดหวังต้าเซียนเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ของเขา มีคนไปใหว้เยอะมาก ไม่รู้ไปใหว้ขอให้มีงานทำหรือเปล่า เหมือนวัดเล่งเน่ยยี่ของเรา แต่ขนาดเล็กกว่าเล็กน้อย 5. ไปไหว้พระใหญ่เกาะลันตา เป็นพระองค์ใหญ่มาก ทางไปก็อยู่ติดโรงแรมที่พักเลย ถ้าพักในเมืองก็นั่ง MTR มาลงที่สถานีตุงชุง (จากจิมซาจุ่ยมาประมาณ 15 เหรียญ) แล้วมานั่งกระเช้าลอยฟ้า นั่งกระเช้า 20นาทีครับ ตื่นตาตื่นใจขนาดใหนพี่น้อยเอ้ย นั่งข้ามมหาสมุทร แล้วข้ามภูเขาสองลูก แล้วก็มาถึง big Buddha ที่นี้เป็นวัดโบราณอยู่บนเกาะลันเตา ปกติเคยมาสมัยก่อนต้องนั่งเรือมา และขึ้นรถต่อขึ้นเขา กว่าจะมาถึงหอบแฮ่ก กระเช้านี้เคยตกครั้งหนึ่ง แต่ตกตอนกลางคืนไม่ได้วิ่ง อยู่ดีๆก็ตกลงมา เขาปิดไป 6 เดือนเพื่อหาสาเหตุการตก พระใหญ่นี้ใหญ่จริง อยู่บนเขาเดินขึ้นใกลกว่าขึ้นดอยสุเทพประมาณครึ่งเท่า และเวลามองบนเขา ก็ต้องมองพระพุทธรูปคอตั้งบ่า รอบๆ มีนางฟ้ายืนถวายของรอบทิศ ในองค์พระมีพระบรมสารีริกธาตุอยู่ให้ขึ้นบันใดวนไปบูชา 6. รอบๆโรงแรม เป็นเมืองใหม่ตุงชุง เมืองใหม่นี้เขาทำเป็นตึกระฟ้า อยู่กันบนห้องเต็มไปหมดดูไม่น่าจะเดินเล่น แต่ขอโทษเถอะครับ แต่ละตึกร้อยเข้าด้วยกันด้วยทางเดินลอยฟ้า บวกกับต้นไม้ ต้นไม้ และต้นไม้ อากาศล่ะ ดีมาก โหย อยู่ติดทะเลนะครับ เดินดูตึกเกือบ สองชั่วโมงแนะ แต่ถ้าคิดว่าเดินดูสวยแต่ต้องอยู่ในห้องอุดอู้ ก็ขออยู่บ้านดีกว่านะ

มาคราวนี้เห็นอะไร คราวนี้เห็นในมุมมองของคนที่ต้องการภาพสวยเนื่องจากจะมีถ่ายรูป 4-5 สถานที่อย่างที่เล่ามา เมืองนี้เปลี่ยนไปพอสมควรในช่วงหนึ่งปี นั่งรถไฟ มีคนลุกให้คนแก่และเด็กนั่ง ปกติจะไม่มีแต่ครั้งนี้มีการรณรงค์ติดสติกเกอร์ให้ช่วยเอื้อเฟื้อแก่คนชราและเด็ก ดูการบริการดีขึ้นกว่าเดิมหลายๆอย่าง เรื่องการจราจรนั้นไม่ได้ดู แต่ที่นี่ใช้ระบบวันเวย์ครับ ไม่มีการกลับรถ ถ้าจะกลับรถต้องวิ่งอ้อมไปมา บางครั้งวิ่งตั้ง 5-10 นาที กลับมาที่เก่าแต่อยู่คนละด้าน ทำให้รถไม่ติด คนก็เหมือนกันในตุงชุงนั้น มีที่ให้คนข้ามร่วมกับรถจักรยานคือทำเป็นสะพานคล้ายสะพานกลับรถ โค้งมากใกลมากกว่าจะข้ามถนนได้ ไม่มีที่ให้เดินข้าม คนที่นี่เลยเดินมาก มีคนวิ่งออกกำลังกายมากมาย ดูแล้วน่าชื่นใจ เคยคิดจะพาพรรคพวกมาดูงานอาชีวอนามัยที่นี่ แต่มานั่งคิดว่าเอ จะดูอะไรดี เนื่องจากโรงงานก็ไม่รู้มีหรือไม่ ถ้าจะมีก็จะมีงานขนส่ง งานบริการ งานโรงแรม งานประมง งานร้านอาหาร แต่เมื่อเข้า web ดู จะเห็นว่า web อาชีวอนามัยของฮ่องกงนี้น่าสนใจ มีอะไรดีๆให้ download มาก เช่นแผ่นพับสวย ๆ   การกำหนด prescribe โรคจากการทำงาน เหมือนอังกฤษ ไม่ตะบี้ตะบันลอก ILO เหมือนเมืองไทย เขากำหนดโรคตามที่เมืองเขาน่าจะมี ทำให้พอกำหนด ก็สามารถทำการป้องกันต่อไปเลยได้ มาครั้งนี้เห็นงานก่อสร้าง แต่ไม่เห็นคนงานเลย เนื่องจากเข้าปิดหมด คลุมไม่ให้ฝุ่นหรือมีอันตรายต่อคนเดิน ซึ่งคล้ายสิงค์โปร์ ที่นี่ดูเศรษฐกิจไม่สะเทือนนัก

สรุป ฮ่องกงไม่น่ามาซื้อของ แต่ถ้าจะ intrend หรือซื้อเสื้อผ้า ก็มาเถอะ อะไรที่นั่นมี บ้านเราก็มี ที่ไม่มีเพียงแต่บรรยากาศ วัฒนธรรม และความรู้สึก ที่ได้ไปต่างประเทศนั่นเอง