ความยืดหยุ่นมักจะมาคู่กับความยุ่งยาก
ข้อความด้านบนนี้เป็นจริงเสมอ
สมัยผมเรียนปริญญาตรี สมัยนั้นผมเรียนอยู่ในคณะวิศวกรรมศาสตร์ ความสนใจของผมค่อนข้างเบนไปในด้านของงานวิจัยเป็นหลักโดยที่ตัวผมไม่ค่อยมีความสนใจเกี่ยวกับการทำงานบริษัทเท่าไหร่นัก แต่คณะวิศวกรรมศาสตร์ที่ผมเรียนอยู่นั้นมีบังคับให้นักศึกษาเข้าร่วมฝึกงานกับบริษัทเป็นเวลา 3 เดือน สำหรับผมแล้วเป็นเรื่องที่ painful มาก เบื่อแทบตาย ไปทำก็ไปนั่งหลับๆตื่นๆ... ความคิดของผมในขณะนั้นคือ
ขณะนั้นผมก็ได้ทราบมาว่าเพื่อนผมที่เรียนอยู่ที่อเมริกานั้น การฝึกงานไม่ได้เป็นการบังคับ และสำหรับบางมหาวิทยาลัยที่บังคับ ก็มีการอนุโลมให้นักเรียนทำวิจัยกับห้องวิจัยของอาจารย์ทดแทนได้
ตอนนั้นผมรู้สึกว่าการศึกษาไทยงี่เง่าเหลือเกิน บังคับ บังคับ บังคับ ไปซะทุกอย่าง เด็กไม่ต้องคิดเองซักอย่าง
พอมาอยู่ที่อเมริกา
ก็ได้เห็นว่า ในบางครั้งความยืดหยุ่นนั้นก็ทำให้พนักงานธุรการทำงานหนักขึ้นหลายเท่าตัว ความยุ่งยากซับซ้อนมากมายเป็นหลายเท่า ต้องมีการเก็บข้อมูลเด็กทุกคนอย่างละเอียดในทุกด้าน ระบบฐานข้อมูลต้องออกแบบมาอย่างดีไม่ให้เกิดความผิดพลาดขึ้น เพราะทุกสิ่งทุกอย่างมีข้อยกเว้น ในบางครั้งความมึนงงที่เกิดขึ้นต้องใช้เวลาแก้ไขตรวจสอบเอกสารกันนานพอดู
เลยนั่งคิดขึ้นมา ว่าบังคับหรือยืดหยุ่น อะไรจะดีกว่ากันแน่? แล้วทำไมการศึกษาที่อเมริกาจึงเลือกที่จะให้ยืดหยุ่นแบบสุดขั้วแลกกับการทำงานหนักขึ้น? ทำไมการศึกษาไทยจึงมักจะเลือกการบังคับสุดขั้ว? เด็กไทยขาดวิจารณญาณกว่าเด็กอเมริกัน?
สวัสดีค่ะ บังเอิญแวะผ่านมา
อ่านแล้วรู้สึกว่าน่าจะอยู่สายกลางๆ น่าจะดีที่สุด
บังคับมากไปก็หงุดหงิด เครียด
ยืดหยุ่นมากไป ก็อาจจะต้องเพิ่มภาระงาน ช้า
ส่วนเรื่องจะเครียดรึเปล่าขึ้นอยู่กับตนเอง เพราะฉะนั้นกลางๆ น่าจะดีที่สุด แต่ปัญหาก็คือ กลางอย่างไรจึงจะพอดีระหว่างการบังคับกับยืดหยุ่น??
ความจริงแล้วเรื่องนี้คล้ายๆ กับการเลี้ยงลูกนะค่ะ เลี้ยงแบบบังคับหรือยืดหยุ่นดี???