ช่วงวันหยุดสงกรานต์เรากลับ กทม.ไปทำบุญกับพี่ชาย น้องชายและหลานๆ
ให้พ่อกับแม่
ที่ปทุมธานีที่ไว้กระดูกพ่อและแม่
ทำให้เราคิดถึงตอนเป็นเด็ก
เมื่อเรายังเด็กมีหน้าที่ใส่บาตรกับน้องชาย
เราคิดว่าแม่คงไม่อยากให้เราเป็นด็กนอนตื่นสาย
เลยมอบหน้าที่นี้ให้ แต่แม่บอกว่า แม่อยากให้เราได้หัดทำบุญตั้งแต่เด็กๆ
จะได้ติดเป็นนิสัย
ตอนเด็กเราเรียนโรงเรียนใกล้บ้าน พอโรงเรียนเลิกก็กลับบ้าน
ไม่ต้องไปเรียนพิเศษ
มีเวลาได้เล่นเยอะดี ที่ชอบเล่นกันก็มี เล่นซ่อนหา วิ่งไล่จับ หลับตาควาน ลิงชิงหลัก ขี่ม้าส่งเมือง หว่งเชลย
เล่นกับเพื่อนๆพี่ๆและน้องไปเล่นกันที่สนามใหญ่ไม่ไกลจากบ้าน บางครั้งเล่นกันสนุกมากจนมืดค่ำ
แม่ต้องถือไม้เรียวมาตามกลับบ้าน
อาบน้ำกินข้าวเสร็จแล้วเตรียมตัวเข้านอน เรานอนตอน 2 ทุ่ม
เพราะไม่มี TV ให้ดู,ไม่มีเกมส์กด comp ให้เล่น
แม่สอนให้ไหว้พระสวดมนต์ก่อนนอนทุกคืน
แม่บอกว่าคุณพระคุณเจ้าจะได้คุ้มครองเรา ให้เราหลับสบาย
ไม่ฝันร้าย
ตื่นเช้าไม่ง่วงงัวเงีย เราต้องตื่นก่อนสว่าง
ล้างหน้าแปรงฟันแล้วก็มายืนคอยพระที่ระเบียงหน้าบ้าน
แม่จะเตรียมข้าวสวยใส่ถ้วย 2 ใบ
ไข่ดาว 2 ฟอง
ใส่เหมือนกันทุกวันจนพระจำได้ไม่เคยเปลี่ยนเลย พระมา 2 รูป
พร้อมกับเด็กวัด 1 คนหิ้วปิ่นโตมา 2 เถา
เรากับน้องชายใส่ข้าวในบาตรพระคนละองค์
ส่วนไข่ดาวเอาให้เด็กวัดใส่ปิ่นโต ใส่บาตรเส็จก็มาอาบน้ำ กินข้าว
เตรียมตัวไปโรงเรียน
เราได้ทำหน้าที่นี้นานพอควร
เมื่อเราย้ายโรงเรียนต้องขึ้นรถไปเรียน
เราก็ไม่ได้ใส่บาตรตอนเช้าอีกเลย
จนกระทั่ง.............เรามาอยู่
มอ.นี่แหละที่มีเหตุเอื้ออำนวยให้เราได้มีโอกาส
ใส่บาตรตอนเช้าอีกครั้ง
ถึงแม้ตอนนี้........เราจะเป็นลูกกำพร้าแล้วก็ตาม
เราคิดว่าแม่และพ่อต้องดีใจที่เรายังคงทำหน้าที่นี้ต่อไป
และไม่ลืมทำสิ่งดีๆที่แม่เคยสอนไว้