หน้าแรก
สมาชิก
UraiMan
สมุด
UraiMan
โรงเรียนชาวนา จ.น...
UraiMan
อุไรวรรณ เทิดบารมี
สมุด
บันทึก
อนุทิน
ความเห็น
ติดต่อ
โรงเรียนชาวนา จ.นครสวรรค์ (๓/๓) : การเคลื่อนต่อ
บันทึกต่อจาก
โรงเรียนชาวนา จ.นครสวรรค์ (๒/๓)
: การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
การเคลื่อนต่อ
ปัจจุบันนี้ยังตอบไม่ได้ว่าชาวนานครสวรรค์มีจำนวนเพิ่มขึ้นจากเดิมหรือไม่ (รุ่นลูกมาเป็นชาวนาหรือไม่) เพราะมีปัจจัยเรื่องเงิน เรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นหลัก ซึ่งก็มีบ้างที่คนหนุ่มสาวมาเป็นเกษตรกร แต่ในภาพรวมยังเป็นเรื่องของวิกฤตในอาชีพชาวนา เพราะข้อมูลที่มีอยู่นั้นคนที่จะต้องทำนาต่อเป็นรุ่นลูก แต่ตอนนี้คนทำนายังเป็นรุ่นพ่อแม่อยู่ จึงมีการเคลื่อนต่อไปอีกคือ กลุ่มโรงเรียนชาวนาแกนนำต่างๆ ตกลงกันไว้ว่าจะตั้งเป็นมูลนิธิในวันที่ ๒๐ ก.พ. ๕๒ ชื่อ
มูลนิธิจัดการความรู้โรงเรียนชาวนานครสวรรค์
ซึ่งจะเป็นนิติบุคคลทำให้เวลาติดต่อกับหน่วยงานของรัฐ หรือ ต้องการขับเคลื่อนงานของกลุ่มจะได้ไม่ต้องอยู่ในร่มคนอื่น ไม่ต้องใช้มูลนิธิอื่น ทำให้มีความเป็นอิสระ ความเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น สำหรับเรื่องอื่นๆ ก็ค่อยๆ ขยับไป ส่วนใหญ่ชาวบ้านที่นั้นก็ตื่นตัวกันมากและเป็นกำลังให้กัน
หลังจากสร้างมูลนิธิฯ สักพักเราก็จะให้เขายืนด้วยตัวของเขาเอง เคลื่อนเอง เพราะตอนนี้เขาก็มั่นใจมากขึ้นแล้ว
บันทึก โรงเรียนชาวนา จ.นครสวรรค์ ทั้ง ๓ ตอนที่ดิฉันได้บันทึกไว้นี้ . . . เป็นเรื่องที่ดิฉันได้เรียนรู้จากการพูดคุยกับ คุณไพศาล ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดทำให้เห็นวิธีคิด กระบวนการ ที่มาที่ไป และเทคนิควิธีการต่างๆ ในการทำงานภาคประชาสังคม เราต้องทำให้เขาเป็นผู้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ให้อิสระในการตัดสินใจ ปล่อยให้เรียนรู้ สัมผัส และเห็นด้วยตัวเอง ไม่ใช้วิธีบังคับหรือสั่งการ (ถึงแม้จะเป็นแนวทางที่ดีก็ตาม) และการทำงานกับชาวบ้านต้องใช้ระยะเวลาไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ในระยะเวลาอันสั้น
เขียนใน
GotoKnow
โดย
UraiMan
ใน
UraiMan
คำสำคัญ (Tags):
#ชาวนา
#นครสวรรค์
#โรงเรียนชาวนา
หมายเลขบันทึก: 238379
เขียนเมื่อ 29 มกราคม 2009 15:53 น. (
)
แก้ไขเมื่อ 18 มิถุนายน 2012 13:31 น. (
)
สัญญาอนุญาต:
จำนวนที่อ่าน
จำนวนที่อ่าน:
ความเห็น (1)
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
เขียนเมื่อ 18 กรกฎาคม 2009 03:20 น. (
)
เจริญพรคุณอุำำไรวรรณ
ขออนุญาตเรียกคุณก็แล้วกันนะ อาตมาทำนาตั้งแต่ที่อำเภอหนองบัีว นครสวรรค์ยังไม่มีรถเกี่ยวข้าวโน่นแนะ ใช้เคียวเกี่ยวข้าว ลงแขกเกี่ยวข้าวมีคนเป็นร้อย
ไถก็ใช้ควาย มีรถไถบ้างแต่เป็นรถไถนาคันใหญ่ รถอีแต๋นยังไม่มีที่หนองบัว
การขนส่งข้าวก็คือเกวียนโดยเอาแรงกันเข็นข้าวฟ่อน เหนื่อยมาก ๆ
เลิกทำนามาปีนี้เป็นปีที่ ๒๙ แล้วเพราะบวชปี ๒๕๒๓ พันธุ์ข้าวเมื่อก่อนก็ใช้พันธุ์ข้าวพื้นบ้าน
ตอนที่ทำนั้นเกือบไม่ใช้สารเคมีอะไรเลย คือน้ำในทุ่งนาหนองบัวยังกินได้ ไปนาไม่ต้องเอาน้ำไปจากบ้าน ขุดบ่อในนาก็ได้น้ำกินแล้ว หรือน้ำตามปลักควายก็กินได้นะ
นึกถึงตอนนี้แ้ล้วมีแต่อันตรายทุกอย่างเลย เมื่อก่อนน้ำในนาจะใสมาก ๆ กุ้งหอยปูปลาชุกชุมไปหมด ปัจจุบันเขาว่าปลาหอยกุ้งสัตว์ต่าง ๆ ไม่มีเลยน่าเศร้าเนาะ
โรงเรียนชาวนา
ชื่อเท่ดีจัง เคยไ้ด้ยินไหมถ้าลูกหลานไปเรียนต่อมหาวิทยาัลัยคณะเกษตรศาสตร์ละก็พวกผู้ใหญ่จะพูดกันว่าพวกมึงจะไปเรียนทำไมเกษตรนะ ก็กูจะให้มึงไม่ทำนานะซิที่ส่งมึงเรียนเนี่ย(ขออภัยนะที่ใช้คำพูดแบบนี้เพราะชาวบ้านเขาพูดกันแบบนี้แหละ) ก็น่าสนับสนุนส่งเสริมชาวนาเพราะชาวนั้นหมดเรียวหมดแรงหมดเนื้อหมดตัว หมดนา
แต่หนี้ไม่หมดสักกะที
ขอเจริญพร
พระมหาแล ขำสุข(อาสโย)
ชื่อ
อีเมล
เนื้อหา
จัดเก็บข้อมูล
หน้าแรก
สมาชิก
UraiMan
สมุด
UraiMan
โรงเรียนชาวนา จ.น...
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID
@gotoknow
สงวนลิขสิทธิ์ © 2005-2023 บจก. ปิยะวัฒนา
และผู้เขียนเนื้อหาทุกท่าน
นโยบายความเป็นส่วนตัว (Privacy Policy)
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท