การออกนอกระบบจากข้าราชการไปเป็นพนักงานมหาวิทยาลัย ถ้าเราวิเคราะห์แล้วจะเห็นว่าในแต่ละมหาวิทยาลัย จะมีข้าราชการจำนวนมากที่เงินเดือนเต็มเพดานในซีที่ตนเองครองอยู่ ดังนั้นข้าราชการเหล่านี้ก็จะไม่ได้รับเงินเดือนเพิ่มในแต่ละ6เดือน
เมื่อเป็นเช่นนี้การที่มหาวิทยาลัยมีการออกนอกระบบ ก็เป็นทางเลือกทางหนึ่งที่ทำให้ข้าราชการที่เงินเดือนตันหรือที่เราเรียกกันว่าเงินเดือนเต็มขั้น ตัดสินใจได้ง่ายกว่าข้าราชการที่เงินเดือนยังไม่ตัน หรือซีสูง(เช่นซี8หรือซี9) เพราะจะเป็นทางเดียวที่จะทำให้ได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้นถึงแม้ว่าจะได้รับการเพิ่มเพียงครั้งเดียว(เงินเดือนข้าราชการตันเมื่อออกนอกระบบเป็นพนักงานค่าจ้างก็ตันเหมือนกันนะครับ)
แต่ก็ยังดีนะครับ สำหรับกลุ่มข้าราชการที่เงินเดือนตันแล้ว ถ้าออกนอกระบบเป็นพนักงานก็มีโอกาสได้รับค่าจ้างที่สูงขึ้น ส่วนจะมากน้อยเท่าไหร่ก็อยู่ที่แต่ละมหาวิทยาลัยว่าจะให้เท่าไหร่แต่สำหรับผม ให้เท่าไหร่ก็เอาครับ เพราะมากกว่าที่ได้รับอยู่แน่นอน และที่สำคัญเราก็ต้องทำงานหนักมากขึ้นเพราะคนทำงานน้อยลงทุกปี แต่การรับคนเข้าทำงานเพิ่มเติมนั้นคงจะน้อยลงเรื่อยๆครับ
สวัสดีค่ะ
เรียนท่าน ฅ ฅนโสต เสียดาย มข ไม่ได้ออก ครับ
+ สวัสดีค่ะ...มาทำความรู้จักด้วยคนค่ะ...
+ รู้จักท่านมาจากบันทึกของท่านพี่ดาว..(ดาวลูกไก่...ชื่นชมยินดีนะค่ะ)....
+ อืม...การที่มหาวิทยาลัยออกนอกระบบ..นอกจากเงินเดือนดีขึ้นแล้ว...อย่างอื่นเช่น การบริหารด้านการศึกษาดีขึ้นไหมค่ะ....
+ อิ อิ...ก็หนูสงสัยนะค่ะ.....
สวัสดรครับครูคิม
ขอบคุณครับที่มาทักทาย ของมช.เดือนมี.ค.2552 นี้เป็นรอบสุดท้ายที่จะรับเข้าเป็นพนักงานมหาวิทยาลัยโดยไม่มีการประเมินความรู้ความสามารถครับ
สวัสดีครับอาจารย์JJ
มข.ไม่ออกก็ไม่เป็นไรครับ ทุกอย่างอยู่ที่ผลการทำงานครับ
เดือนกุมภาพันธ์52 คงได้รับความรู้จากอาจารย์อีกครั้งที่สำนักหอสมุด มช. ครับ เมื่อวานตามไปฟังเรื่องการเขียนบล็อคทีคุณชาดาจัดที่พายัพได้ความรู้เพิ่มเติมครับ
สวัสดีครับคุณแอมแปร์~natadee
ยินดีที่ได้รู้จักครับ ออกนอกระบบคงไม่ใช่เรื่องเงินค่าจ้างที่เพิ่มขึ้นอย่างเดียวครับ การทำงานของทุกส่วนจะต้องดีและมีประสิทธิภาพด้วยเพื่อจะบรรลุเป้าหมายที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ตั้งไว้ครับ