Compound Nouns Around the House


มองหาคำนามผสมรอบ ๆ ตัว

เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาได้จัดงานฉลองวันเกิด  Jenita’s Birthday   ครบเก้าขวบให้ลูกสาว

 ทีแรกเขาไม่อยากให้จัด เพราะที่เม็กซิโกมีประเพณีแปลก ๆ คือหลังจากเป่าเทียนวัน

เกิดแล้ว เจ้าของวันเกิดจะโดนผลักเอาหน้าลงไปจิ้มใน Birthday Cake ผู้เขียนเองก็ไม่

ชอบอะไรแบบนั้นเหมือนกัน จึงตกลงกันว่าเราจะจัดงานเล็ก ๆ ชวนเพื่อนสนิทมาสัก 7-8

คนก็พอ และสัญญาว่าจะไม่ให้มีการเอาหน้าจิ้มเค๊ก......

 

 

อยากให้เพื่อน ๆ ลูก ที่มาในงานมีอะไรเล่นสนุก ๆ จึงไปติดต่อเอา Bouncy Castle มา

ั้งที่บ้านให้เด็กกระโดดเล่น

 

ลองมองไปรอบ ๆ บ้าน ปรากฏว่ามีคำนามประเภทที่เป็นคำนามผสม (Compound

Noun) มากมายไปหมด จากที่ขีดเส้นใต้ไว้ข้างบนก็สามคำเข้าไปแล้ว

คำนามผสมก็คือ การนำเอาคำตั้งแต่สองคำขึ้นไปมาผสมกัน เช่น

 

noun + noun            เช่น   Jenita’s birthday, birthday cake

adjective + noun       เช่น   bouncy castle, blackboard  

verb + noun             เช่น   searchlight

preposition + noun    เช่น   underworld

adjective + verb        เช่น   highlight 

 

คำนามผสมประเภทที่มีมากที่สุดคือ  noun + noun และ adj + noun

 

****************************************************

โครงสร้างของคำนามผสมระหว่าง noun +noun มีสามแบบคือ

 

1.   Noun + noun เช่น   birthday cake

2.   Noun + ‘s + noun เช่น  Jenita’s birthfay

3.   Noun + preposition + noun เช่น  A girl from Thailand

 

*********************************************

การเขียนก็สามารถเขียนได้เป็นสามรูปแบบคือ

1. สามารถเขียนแยก Birthday cake, middle class, real estate

   

2.  เขียนติดกัน  Schoolteacher, keyboard, notebook

 

3.  หรือมีขีดคั่นกลาง  sister-in-law, nine-year-old, x-ray

ส่วนจะทราบว่าคำไหนเขียนแบบไหนก็คงต้องเปิดดิกชั่นนารีดู

 

คำนามประสมส่วนมากออกเสียงเน้นหนักที่คำที่อยู่ข้างหน้า ไม่ว่าคำนามนั้นจะเป็นคำ

นามประสมแบบ simple compound เช่น notebook หรือ complex compound  เช่น

BIRTHday cake,

 

เรื่องคำนามประสมเป็นบทเรียนที่สนุกสนานทั้งครูและนักเรียนเพราะเด็กสามารถมองหาคำ

เหล่านี้ได้จากคำศัพท์รอบ ๆ ตัวในชีวิตประจำวัน...... ลองมองไปรอบ ๆ หาคำนามที่

เป็นคำนามผสมดูสิคะจะพบว่ามีมากมายจริง ๆ ....... เช่นคำนี้ (ที่แขวนกระดาษชำระ) มาจากคำอะไรผสมกับคำอะไรบ้างเอ่ย.....

 

 

 อ้างอิง Swan, M. ( 1995) .Practical English Usage. Oxford University Press.

 

หมายเลขบันทึก: 236889เขียนเมื่อ 23 มกราคม 2009 11:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:11 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

น่าสนใจมากกว่า อยากมีโอกาสไปต่างประเทศบ้างจังเลย แล้วจะติดตามข่าวสารที่นั่นอีกนะคะ

P  สวัสดีค่ะ นู๋ปุ้ย พี่อักษรเข้าใจความรู้สึกของคนที่มีความฝันต้องการเดินทางไปต่างประเทศค่ะ เพราะตัวเองเคยอยู่ตรงนั้นมาก่อน พยายามทำตามความฝันให้ได้นะคะ ฝันให้ไกล ไปให้ถึง สักวันต้องมีโอกาสค่ะ....ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมนะคะ

สวัสดีครับ

ผมก็ไม่ชอบ ที่เอาเค้กมาขว้าง หรือเอาหน้าจิ้มเค้ก แต่ฝรั่งอาจจะสนุก ;)

เวลานักเรียนอ่านภาษาอังกฤษ ชอบลืม compound noun ทำให้อ่านประโยคผิดๆ ถูกๆ ประจำเลย เพราะเขาไล่แปลไปทีละคำ :(

สวัสดีค่ะ คุณธวัชชัย P พวกฝรั่งชอบเล่นอะไรแปลก ๆ เสียของ...เค๊กพี่อักษรออกสวย น่าทาน อิ อิ...ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมค่ะ ห้าทุ่มกว่าแล้วพี่อักษรขอเซย์ กูดไนท์ ก่อนนะคะ

นอกจากมีการนำคำสองคำขึ้นไปมาผสมเป็นคำนามผสม  ( compound nouns )ดังกล่าวแล้ว ยังมีคำผสมที่ทำหน้าที่เป็น verbs และ adjectives อีกด้วย

 compound adjectives : เช่น well trained animal,  secondhand bag, good-looking man, middle aged lady, downtown Vancouver, buy now price, easy going child,

หมายเหตุ downtown สามารถเป็นคำนามได้ด้วย

                             

compound verbs: เช่น  to babysit, to handcuff, to tiptoe (ย่อง) , to upgrade, to downsize, to blacklist ( She has been blacklisted for fraud.)

หมายเหตุ blacklist สามารถเป็นคำนามได้ด้วย

 

มาเขียนบันทึกนี้ทำให้ตัวเองกลายเป็นคนสังเกตคำในภาษาอังกฤษไปในตัว เท่าที่สังเกตคำในภาษาอังกฤษมีสี่ประเภทคือ...........

1. Simple words (คำเดี่ยว) เช่น banana, silly, boat  (สังเกตว่ามีหลายพยางค์ก็ได้แต่คำนั้น ๆ ต้องไม่สามารถแยกย่อยและมีความหมายในตัว)

2. Compound words (คำผสม) จากตัวอย่างในบันทึก

3. Complex words (คำซ้อน) อันนี้ไม่แน่ใจว่าภาษาไทยเรียกคำซ้อนหรือเปล่า เพราะคำซ้อนของภาษาไทยคือ การนำคำที่มีความหมายเหมือนกัน ใกล้กัน มาต่อกัน เช่น “สวยงาม” “ ใหญ่โต”

แต่ของภาษาอังกฤษ คือการนำคำสองคำมาต่อกัน โดยที่คำแรกต้องมีความหมายในตัวเอง ส่วนคำที่มาเติมคือคำพวก suffixes ต่าง ๆ เช่น ion, ity, able เป็นต้น

Action ( act + ion)

Simplify ( simple + ify)

Drinkable ( drink + able )

4. Compound complex words ( อันนี้ไม่ทราบว่าภาษาไทยเรียกคำอะไร)

คือคำที่ประกอบด้วย compound word + suffix เช่น

Caretaker ( care + take + er)

Softhearted ( soft + heard + ed)

สวัสดีค่ะ

  • มาเรียนรู้ค่ะ
  • ได้ทั้งวัฒนธรรมและภาษาค่ะ
  • ขอขอบคุณค่ะ

สวัสดีค่ะ ครูคิม P เป็นปลื้มที่ครูคิมแวะมาเยี่ยมค่ะ ทั้งที่ดูแล้วงานก็ยุ่ง ไหนจะต้องตอบแฟนบล็อกที่อุ่นหนาฝาคั่งของบันทึกครูคิมเอง...น่ารัก....ขยัน และสม่ำเสมอ....อย่างนี้นี่เองถึงได้เป็นขวัญใจชาวโกทูโนว์

ไม่ค่อยเห็นคำว่า searchlight เลยนะคะ คำนี้เก๋ดีค่ะ จะได้ยืมไปใช้ คุณพี่อักษรสบายดีนะคะ ได้เวลาอาหารเที่ยงนำอาหารน่ารักมาฝากค่ะ

ขอบคุณคุณศิลาค่ะ  P ที่แวะเยี่ยมเกือบทุกบันทึก แถมคราวนี้มีอาหารหน้าตาเหมือนแกะมาฝากอีกด้วย ขอบคุณหลาย ๆ ค่ะ

ในนี้มีความรู้มากเลยค่ะ ช่วยให้หนูทำการบ้านส่งครูได้ ไม่โดนครูตี

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท