สังคมไทยเป็นสังคมที่จะต้องสร้างความรู้อีกมากมาย ที่จะนำเอาทรัพยากรธรรมชาติ ออกมาให้เป็นประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ให้มากที่สุด ทั้งนี้ต้องอาศัยความคิด ความอ่าน และความตั้งใจของอาจารย์ มาสร้างองค์ความรู้ ทำวิจัย เพื่อทำให้สังคมไทยพัฒนามากขึ้น การที่เราออกไปบริการวิชาการ ออกไปสัมพันธ์กับท้องถิ่น กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็จะเกิดโจทย์วิจัยขึ้น
ต่อจาก....วิสัยทัศน์ ท่านอธิการสุจินต์ : ๓ รักที่จะเปลี่ยนแปลง
ก้าวไปสู่วิสัยทัศน์ (2) : ความร่วมมือของอาจารย์และบุคลากรทุกท่าน
วาดภาพโดย อ.นรเศรษฐ์ ไวศยกุล
นกในร่างแห : ความร่วมมือของอาจารย์ และบุคลากรทุกท่าน
รู้รักสามัคคี จะทำให้เราหลุดพ้นไปจากหายนะได้
ผมอยากให้พวกเราชาวมหาวิทยาลัยนเรศวร ร่วมมือร่วมใจกันในการสร้าง Brand Name ของมหาวิทยาลัยนเรศวร ให้เป็นสถาบันอันเป็นที่รักและศรัทธาของประชาชน
ผมต้องการจะให้บุคลากรของมหาวิทยาลัย ยึดพระจริยวัตรของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นำมาเป็นแนวทางในการทำงาน ต้องเก่งทั้งด้านสังคม และเก่งด้านการสร้างองค์ความรู้ เพื่อให้สังคมเป็นไท จากความไม่รู้
-
เก่งด้านสังคม
- ต้องรู้และเข้าใจภูมิสังคม จะรู้จะเข้าใจได้ต้องลงพื้นที่ ต้องลงไปทำความรู้จักกับชุมชน
- ต้องเกื้อกูลและสร้างความแข็งแกร่งให้กับโรงเรียน ซึ่งเป็นตัวป้อนที่สำคัญของระดับอุดมศึกษา
- ต้องเป็นกลางทางการเมือง รักษาระยะกับฝ่ายการเมืองให้เหมาะ ใกล้ไป ไกลไปก็ไม่ดี เพราะเราต้องพึ่งพิงงบประมาณจากรัฐบาล
- ต้องช่วยกันรับมือกับวิกฤติเศรษฐกิจ และพลังงาน
- งานประชาสัมพันธ์ ต้องเป็นมวยแย๊บ ต่อยตลอด!!!!!!!!! ทำให้สังคมได้รับรู้กิจกรรมของมหาวิทยาลัยที่เป็นประโยชน์
- อยากเห็นนิสิตของมหาวิทยาลัยมีโอกาสในการแสดงออกเต็มที่ ทั้งด้านกีฬา การแสดง ดนตรี ให้มีการแสดงของนิสิตเป็นประจำ ไหนๆ ก็มีโรงละครแล้ว ทุก 3 เดือน น่าจะมีการแสดงของนิสิต แล้วเปิดให้ประชาชนได้เข้าชม ไม่ใช่ปิดไว้เฉยๆ ทำอย่างไรจะให้ประโยชน์กลับคืนชุมชน ให้ช่วยกันคิด แต่ไม่ควรเอาโรงละครไปหาความร่ำรวย จากการใช้เป็นเวทีที่กระทบต่อคุณธรรมศีลธรรมของนิสิตและประชาชน นิสิตนั้นต้องให้เขาแสดงออก อยากจะเดินแฟชั่นก็ให้เดิน จะรอให้เขาอายุ 70 - 80 แล้วค่อยมาเดินหรือ ???????
-
เก่งด้านการสร้างองค์ความรู้ และเผยแพร่องค์ความรู้
-
การคิดโจทย์วิจัย สังคมไทยเป็นสังคมที่จะต้องสร้างความรู้อีกมากมาย ที่จะนำเอาทรัพยากรธรรมชาติ ออกมาให้เป็นประโยชน์ ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม ให้มากที่สุด ทั้งนี้ต้องอาศัยความคิด ความอ่าน และความตั้งใจของอาจารย์ มาสร้างองค์ความรู้ ทำวิจัย เพื่อทำให้สังคมไทยพัฒนามากขึ้น การที่เราออกไปบริการวิชาการ ออกไปสัมพันธ์กับท้องถิ่น กับโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ ก็จะเกิดโจทย์วิจัยขึ้น
- กรอบของการวิจัย ที่สนองความต้องการด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ไม่หนีประเด็นดังต่อไปนี้
-
Food
-
Fuel
-
Feeds
-
Fiber
-
Fertilizer
-
Furniture
- โจทย์วิจัยในแง่คุณสมบัติ เช่น
-
Anti Virus
-
Anti Fungus
-
Anti Inflamatory
-
Anti Oxidant
-
Anti Aging
- นอกจากนี้ ยังมีสูตรคิดงานวิจัยอีกสูตรหนึ่ง คือ S2 Q E2
-
S - Safty
-
S - Speed
-
Q - Quality
-
E - Efficiency
-
E - Economy
- งานวิจัยที่เกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม หรือจรรยาบรรณ เช่น
- ต้องไม่โฆษณาเกินไป จนขาดจรรณยาบรรณ
- ไม่รุกล้ำป่า ตัดไม้ทำลายป่า
- งานวิจัยทาง Biology ก็มีสูตรที่น่าสนใจในการคิดกรอบหัวข้อวิจัย key word ก็เป็น H I P P O
- H - Habitat Destruction
- I - Invasive Species
- P - Pollution
- P - Population
- O - Over Havesting
-
รวมทั้งเทคโนโลยี 4 ด้านที่จะเป็นประโยชน์ในทาง เศรษฐกิจ และสร้างความมั่งคั่งได้ ก็จะมีเรื่องของ
- Information Technology
- Biotechnology
- Nanotechnology
- Neurotechnology
-
Platform งานวิจัย
- ในการเข้าถึงแหล่งทุน ต้องรู้นโยบาย ยุทธศาสตร์ และ Plateform ของแหล่งทุนวิจัยต่างๆ
-
การเขียน Proposal ต้องตอบคำถามสำคัญ คือ
- แหล่งทุนวิจัยจะเน้นงานวิจัยที่เป็นบูรณาการ เน้นโครงการวิจัยที่มีการทำงานเป็นทีม (สิงห์ปืนเดี่ยว ไม่มีทางรอด!!!)
เราเสมือนนกที่อยู่ในแหที่นายพรานนำมาครอบไว้ แต่ถ้าเราร่วมมือกัน ทำความเข้าใจวิสัยทัศน์ที่วางไว้ ช่วยกันคิดมาตรการที่ละเอียด ลึกซึ้งมากกว่าที่ผมได้ให้ไว้ และนำมาทำเป็นแผนปฏิบัติงานร่วมกัน ทำนโยบาย 3 ด้าน คือความเป็นเลิศ งานวิจัย บัณฑิตที่มีคุณภาพ รวมทั้งเรื่องศิษย์เก่าและการบริหารจัดการ เราก็จะไปสู่จุดหมายปลายทางที่เราคาดหวังไว้ได้ เปรียบเสมือนนกที่หลุดพ้นจากแหนายพรานได้.......