งานนี้ งานแรก ที่ .. เป็นชิ้น >> เป็นอัน >> เป็นของตัวเอง

ยอมรับคะว่า .. งานนี้ ถือเป็นงานแรก ที่ค่อนข้างเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะจากบันทึกที่ผ่าน-ผ่านมา โดยมากจะเป็นการขอช่วย เพื่อไปร่วมงาน >> คือไปมีส่วนร่วม แต่ไม่ได้ลงไม้ลงมือทั้งกระบวนการ ..

หนึ่งเดือนครึ่ง พอดีกับการทำงาน ที่ใหม่ .. และ วันนี้ (วันที่ >> 15 มกราคม 2552) ก็เป็นวันที่เราเลือกใช้ในการจัดอบรมตามโครงการป้องกันและควบคุมโรคที่นำโดยแมลง

อันที่จริงโครงการนี้ก็ถูกกำหนดไว้แบบกว้าง-กว้าง (เหมือนไม่มีกำหนดดีดีนี้เอง..) คือ ระยะเวลาในการดำเนินการ เดือน ตุลาคม 2551-กันยายน 2552 แต่ที่หยิบ เอางานชิ้นนี้ขึ้นมาดำเนินการ เนื่องจากได้รับ หนังสือจากทางศูนย์ดำรงธรรมศาลากลางจังหวัดภูเก็ตมา สองถึงสามฉบับ ในเวลาเดือนเดียว เรื่องการตรวจสอบดูแล ผู้ประกอบการที่มีแรงงานต่างด้าวพักอาศัยอยู่ในลักษณะที่พักชั่วคราวกึ่งถาวร (แคมป์)

อีกทั้ง .. หากดูจากปัจจัยและกลุ่มที่เกิดการระบาดของโรคในปีที่ผ่านมา ก็มักจะมาจากกลุ่มเหล่านี้ เราเองก็ยอมรับว่ายังไม่เคยลงไปสัมผัส ไปเห็นสภาพที่แท้จริง เพราะการสำรวจ และขึ้นทะเบียนไว้นั้น พี่สุวิทย์ได้ดำเนินการไว้ตั้งแต่ช่วงเดือนตุลาคม และดำเนินการ ร่างระเบียบเทศบาลตำบลวิชิต ว่าด้วยการจัดสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว (แคมป์) ไว้แล้ว เช่นกัน

ขั้นตอนแรก ผู้เขียน เลยต้องนั่งทำความเข้าใจกับ ข้อระเบียบดังกล่าว .. แล้ว ก็มาดำเนินการบูรณาการเข้ากับโครงการป้องกันและควบคุมโรคที่นำโดยแมลง โดยจัดอบรม ให้ความรู้และชี้แจงข้อระเบียบ (ซึ่งผู้เข้าร่วมสามารถซักถามท้วงติง และขอให้ดำเนินการปรับได้) คือเน้นไปที่การเปิดเวที แห่งการเรียนรู้ >> สู่ การเสนอแนะ และหาแนวทางในการดำเนินงานร่วมกัน

กำหนดการอบรม

08.30-09.00 น. ลงทะเบียน รับเอกสาร

09.00-09.30 น. พิธีเปิดการอบรม โดย นายกเทศมนตรีตำบลวิชิต (นายกรีฑา แซ่ตัน)

09.30-10.30 น. ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการโรคติดต่อในกลุ่มที่พักอาศัยในลักษณะชั่วคราวกึ่งถาวร ของแรงงานต่างด้าว

10.45-12.00 น. แนวทางในการดำเนินการในการควบคุมและป้องกันโรคติดต่อ

12.00-13.00 น. พักรับประทานอาหารกลางวัน

13.00-14.30 น. ระเบียบเทศบาลตำบลวิชิต ว่าด้วยการจัดสร้างที่พักอาศัยชั่วคราว ปี 2551

14.45-15.30 น. แบ่งกลุ่มระดมสมอง เพื่อจัดทำแผนออกประเมินผลตรวจแคมป์
15.30-16.30 น. วิทยากรให้คำแนะนำเพิ่มเติม อภิปราย และสรุปผลการประชุม

ในการอบรมครั้งนี้ ทางผู้เขียนได้มีการทำแบบประเมินความพึงพอใจของผู้เข้ารับการอบรมไว้ด้วยผลของการประเมินก็ออกมา เป็นที่ น่าพอใจ (ผลการประเมินความพึงพอใจ) ก่อนจะปิดท้ายด้วยการค้นหาอาสาสมัครแคมป์นำร่อง 3 แห่ง ที่จะนำความรู้และข้อระเบียบที่ได้รับในวันนี้ นำไปใช้ในการพัฒนา แคมป์โดยให้ทางกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลวิชิต และภาคีเครือข่าย จะเข้าไป ดำเนินการเยี่ยม/ตรวจประเมิน ช่วงต้นเดือน มีนาคม 2552 ซึ่งเป็นแผนงานที่จะรองรับกิจกรรม ต่อไป ในโครงการนี้นั่นเอง

ยอมรับคะว่า .. งานนี้ ถือเป็นงานแรก ที่ค่อนข้างเป็นชิ้นเป็นอัน เพราะจากบันทึกที่ผ่าน-ผ่านมา โดยมากจะเป็นการขอช่วย เพื่อไปร่วมงาน คือไม่ต้องเตรียมการอะไรมากมาย ต่างกันงานนี้ต้องดำเนินการเองในทุกขั้นตอน อีกทั้ง มีเวลาเตรียมและดำเนินการที่ กระชั้นชิดหน่อย แต่ทีมงานก็สามารถประสาน และรันงานจนผ่านไปได้ด้วยดี สรุปและถอดบทเรียน ของกระบวนการดำเนินงานได้ .. ดังนี้ ;

ข้อดี / สิ่งที่ส่งผลให้งานสำเร็จ
1. ผู้บริหารขององค์กร เห็นความสำคัญ และเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดประชุมครั้งนี้
2. มีการแบ่งหน้าที่ และแจ้งบทบาทรับผิดชอบที่ชัดเจน โดยประสานด้วยวาจา ขอช่วย เชิง พี่-น้อง
3. ได้รับการสนับสนุน เป็นอย่างดีจาก งานควบคุมโรค สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ต
4. เจ้าหน้าที่ธุรการที่ดูแลงานเอกสารการเบิกจ่าย อธิบายขั้นตอนการดำเนินงานอย่างละเอียด ทั้ง การเอกสารหลักฐาน อะไร ได้ หรือไม่ได้อย่างไร อย่างชัดเจน จึงไม่ต้องมีการแก้ไขเอกสาร หรือทำงานซ้ำซ้อน รวมถึงมีการพูดคุย เมื่อพบ ปัญหา และร่วมประสาน หาแนวทางเพื่อปรับเปลี่ยนกระบวนการทำงานอย่างทันท่วงที
5. เจ้าหน้าที่ ที่ได้รับมอบหมายส่วนใหญ่ (ไม่ใช่ทุกคน 55+) มีความกระตือรือร้น .. ในการทำหน้าที่ของตนและเจ้าหน้าที่ในกองเดียวกัน ที่ไม่ติดภาระกิจ ก็เข้ามาช่วย และมีส่วนร่วม

ข้อบกพร่อง / สิ่งที่ต้องดำเนินการแก้ไขในครั้งต่อไป
1. ระยะเวลาในการประสานงาน(กลุ่มเป้าหมาย) ค่อนข้างน้อย ไม่ได้มีการเชิญถึงตัวเจ้าของกิจการ ทำให้ ผู้เข้าร่วมประชุมส่วนมากจะเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการซึ่งไม่สามารถ มีอำนาจในการตัดสินใจในการดำเนินการต่าง-ต่าง ได้ บรรยากาศจึงออกไปในทาง อบรม ฟังวิทยากรเป็นส่วนใหญ่
2. ในส่วนของการดำเนินการ ด้านเทคนิค เนื่องจากผู้รับผิดชอบหลัก(กองช่าง) ไม่อยู่ดังนั้น การจัดให้มีคนเข้ามาเรียนรู้ ก็จำเป็นไม่น้อยเพื่อจะได้ดำเนินการได้เในกรณีที่ผู้รับผิดชอบติดภารกิจ
3. การเลือกใช้สถานที่จัดประชุม ทั้งนี้ เนื่องจากกลุ่มเป้าหมาย มีเพียง 50 คน แต่ใช้ห้องประชุมระแงง ซึ่งเหมาะสำหรับจัดงานเลี้ยง หรือการประชุมอบรมที่ สามรถจุคนได้ถึง 250 คน จึงทำให้ห้องดูโล่ง .. สำคัญ และส่งผลกับบรรยากาศ ในการประชุม
4. อีกนิดนึง .. ส่วนของอาหารและเครื่องดื่ม จริงอยู่ เวลาเบรค คือตอน 10.30 น. แต่จำเป็นต้องเตรียมไว้
สำหรับวิทยากร ประธานและแขกผู้มีเกียรติท่านอื่นๆ ไว้ก่อน งานนี้เลย ฉุกละหุก นิดหน่อยคะ ..

'งานนี้ .. ต้องขอบคุณ พี่-พี่ ในกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลตำบลวิชิต ทุกคน ทุกอย่าง ผ่านไปได้ด้วยดี เพราะ ได้รับความร่วมมือจากทุกคน "ร่วมด้วย-ช่วยกัน" นะคร๊า