ศูนย์ท้อง (สัญชาตญาณ)
Lust ตัณหา ลักษณ์ 8 เจ้านาย
Laziness ขี้เกียจ ลักษณ์ 9 นักประสานไมตรี
Anger โกรธ ลักษณ์ 1 คนเนี๊ยบ/นักปฏิรูป
ลักษณ์ 8 มีกิเลส “ตัณหา”
ในที่นี้หมายถึงการมีพลังชีวิตที่จะทำอะไรสุดโต่ง มีความเป็นผู้นำตามสัญชาตญาณที่จะควบคุมสภาพแวดล้อมมิให้มีผลกระทบต่อตัวเอง ชอบพึ่งตัวเอง ไม่ชอบความอ่อนแอ กล้าได้กล้าเสีย ตอบโต้ต่อสิ่งที่เข้ามากระทบได้ว่องไว อารมณ์ที่มักครอบงำตนเองคืออารมณ์โกรธ และเวลาโกรธจะเร็วและแรงที่อาจเรียกว่า “โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ” และก็มีอารมณ์อาฆาตมาดร้ายแก้แค้นได้หาก “ไม่รู้ตัว”
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันชอบความท้าทาย ฉันกล้าได้กล้าเสีย… ฉันตรงไปตรงมา ฉันรักความยุติธรรม ฉันเป็นนักต่อสู้…ฉันไม่กลัวอำนาจ…ฉันโกรธง่ายหายเร็ว”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลักษณ์ 9 มีกิเลส “ขี้เกียจ” ในที่นี้คือความเฉื่อยชา หลงลืมตนเอง หรือแปลกแยกจากอารมณ์ความรู้สึกตัวเอง สูญเสียการรับรู้เรื่องสำคัญของตนเอง โดยจะเข้าไปกลมกลืน รับรู้อารมณ์ความรู้สึกของคนรอบข้างแทน จัดลำดับความสำคัญไม่ค่อยได้ ..เป็นลักษณ์ที่เก็บกดอารมณ์โกรธ แต่มีอาการ “ดื้อเงียบ” แทน ที่ได้ชื่อขนานนามลักษณ์ว่านักประสานไมตรี เพราะไม่ชอบมีเรื่องกับใคร คำว่า “ไม่เป็นไร” “เข้าใจผู้อื่น” ไปหมดก็เพราะ ขี้เกียจมีเรื่อง
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันชอบความสามัคคี ฉันเข้าใจทั้งเขาและเธอ...ฉันไม่ชอบปฏิเสธใคร.ไม่เป็นไร…ฉันชอบอยู่เฉย ๆ สงบ ๆ…ฉันเห็นทุกอย่างสำคัญเท่ากัน”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลักษณ์ 1 มีกิเลส “ความโกรธ” ในที่นี้คือหงุดหงิด ขุ่นเคือง เข้มงวดกับตัวเอง มีวินัย และชอบบังคับตัวเองมาก มีอุดมกาณ์และตั้งมาตรฐานให้ตัวเอง เคร่งเครียด เคร่งครัด เอาจริงเอาจังกับชีวิต ชอบตัดสินและวิพากษ์วิจารณ์ จู้จี้จุกจิก สไตล์เหมือนครูดุๆ เจ้าระเบียบ หาก “ไม่รู้ตัว” ก็จะดูเหมือนคนที่เจ้าอารมณ์ ไม่มีความสุข เพราะรู้สึกว่าอะไรก็ “ไม่ถูกต้อง” “ไร้ระเบียบวินัย” “ไม่ได้มาตรฐาน” ไปหมด
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันชอบความถูกต้อง ฉันต้องการให้ทุกอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย..ฉันยึดมั่นอุดมการณ์..ฉันอยากเปลี่ยนแปลงให้มีมาตรฐาน”
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ใจ ( ความสัมพันธ์)
Pride หยิ่งยะโส ลักษณ์ 2 ผู้เสียสละ
Deceit ความหลอกลวง ลักษณ์ 3 นักสร้างแรงจูงใจ
Envy อิจฉา ลักษณ์ 4 ศิลปิน
ลักษณ์ 2 มีกิเลส “ความยะโส” ในที่นี่คือความถือตัวว่าตัวเองสนองความต้องการของคนทั้งหลายได้ดีกว่าใคร ๆ มีความไวเป็นพิเศษในการรับรู้และจับอารมณ์ของคนอื่นได้…เน้นความสัมพันธ์ และแคร์คนอื่น อารมณ์ที่มักครอบงำคือความหลงใหล… ขี้หึง… หวง… ต้องการ “ให้” “เสียสละ” “เอาใจ/ประจบ/ทำเพื่อคนอื่น โดยหวังผลตอบแทนเป็น “ความรักและเป็นที่ต้องการของคนอื่น” หาก “รู้ตัว” ก็จะให้โดยไม่หวังผลตอบแทนแม้แต่ความรักจากผู้อื่น
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันทำเพื่อพวกเขา..ฉันทำเพื่อสังคม..ฉันเข้าใจคนอื่นดี..ฉันเห็นคุณค่าของความสัมพันธ์มิตรภาพ…ฉันมีความสุขที่เห็นรอยยิ้มทุกคน....”
…………………………………………………………………………………………..
ลักษณ์ 3 กิเลส “ความหลอกลวง” ในที่นี้คือหลอกลวงตัวเอง โดยยึดถือในบทบาทหน้าที่ที่ตัวเองมีอยู่และเล่นบทนั้น ๆ เพื่อให้เป็นที่ยอมรับนับถือของสังคม เป้าหมายคือ “ความสำเร็จ” ตามที่มุ่งหวัง ไม่ว่าจะเป็นด้านอะไรก็ตาม…ชอบการแข่งขัน มุ่งเอาชนะ ตัดขาดจากการรับรู้ความรู้สึก ความต้องการตนเอง เพราะมุ่งมั่นในบทบาทหน้าที่ที่สวมอยู่ไม่ว่าจะเป็นบทบาทในครองครัว สังคมหรืออะไรก็ตาม และเป็นคนที่ชอบเลียนแบบให้ “เป็น “ ตาม model ที่ตนอยากจะเป็น
คำพูดที่มักได้ยิน(ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันมุ่งมั่นที่จะทำงานให้สำเร็จ… ฉันทำงานหนัก…ฉันต้องทำนู้นทำนี้...ฉันชอบกระตุ้นให้ทุกคนทำงาน...ฉันรับผิดชอบต่อหน้าที่ ฉันไม่มีเวลา”
…………………………………………………………………………………………..
ลักษณ์ 4 กิเลส “ความอิจฉา” ในที่นี้มาจากความรู้สึกลึก ๆ ว่าตนเองมีอะไรขาดหายไป และอยากหามาเติมเต็ม โดยพยายามขวนขวายหาอัตลักษณ์แบบฉบับของตนเองให้แปลกแยกแตกต่างจากคนทั่วไป เพราะไม่ชอบความธรรมดา จึงทำให้ตัวเองมีความเป็นพิเศษ ไม่ว่าการแสดงออกให้ปรากฎ หรืออารมณ์ความรู้สึกที่ “เข้าถึง” สรรพสิ่งได้มากกว่าใครๆ …จึงไม่ใช่การอิจฉาคนใดคนหนึ่งโดยเฉพาะแต่เป็นความรู้สึกว่า “ตนไม่มี” อะไรบางอย่าง จึงพยายามดึง “ความพิเศษ” “ความงดงาม” ของบางสิ่งบางอย่างมาสร้างเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันเป็นตัวของตัวเอง..ไม่มีใครเข้าใจฉัน..ฉันเข้าใจถึงอารมณ์ลึกซึ้งได้ดี..ฉันดื่มด่ำในธรรมชาติ..ฉันเห็นในสิ่งที่คนทั่วไปมองข้าม.ความงดงาม”
…………………………………………………………………………………………..
ศูนย์สมอง
Avarice “greed” โลภ ลักษณ์ 5 นักสังเกตการณ์
Fear ความกลัว ลักษณ์ 6 นักปุจฉา
Gluttony “overeating” ตะกละ ลักษณ์ 7 นักผจญภัย
ลักษณ์ 5 กิเลส “ความโลภ” ในที่นี้ไม่ใช่โลภ วัตถุสิ่งของ แต่เป็นเรื่องความรู้สึกขาดความมั่นคง ไม่ปลอดภัย โลกนี้ขาดแคลน จึงต้องการสะสมเครื่องมือต่างๆ ให้เกิดความมั่นคง ได้แก่ “ความรู้” “ข้อมูล” หลากหลายรูปแบบ บุคลิกมักเป็นคนตะหนี่ในเรื่องพลังงาน วัตถุ และเวลาที่จะทุ่มเทอะไรให้ใคร มีพื้นที่อาณาเขตของตัวเอง (นามธรรมและรูปธรรม) แสดงออกมาให้เห็นโดยมีความต้องการน้อย พอเพียง ชอบสังเกต สำรวจสิ่งภายนอก ใช้ความคิดโดยไม่ชอบแสดงอารมณ์ส่วนตัวออกมา มีความเป็นกลาง
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันชอบสันโดษ ฉันพอเพียง ไม่ต้องการอะไรมาก..ฉันอึดอัดเมื่อคนถามเรื่องส่วนตัว..ฉันชอบแสวงหาความรู้ ฉันต้องคิดจนมั่นใจก่อนลงมือทำ ฉันชอบวิเคราะห์..”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ลักษณ์ 6 กิเลส “ความกลัว” ในที่นี้คือความลังเลสงสัย ไม่ไว้ใจสิ่งต่าง ๆ มีความวิตกกังวลสูง มักประเมินสถานการณ์ภายนอกต่าง ๆล่วงหน้าเพื่อให้เกิดความมั่นใจ มั่นคงปลอดภัย มีนิสัยระมัดระวังภัยและตั้งคำถามกับทุกสถานการณ์ อาการตอบสนองต่อความกลัวจะมีสองรูปแบบหลัก “บุคลิกสู้” กับ “บุคลิกหนี” มองภายนอกอาจจะต่างกันคือแบบสู้ดูจะไม่กลัวอะไร แต่ลึก ๆ คือกลัวแล้วปกป้องตัวเองด้วยการโต้ตอบภายนอกก่อน ส่วนแบบหนีคือกลัวแบบหลบเลี่ยงไม่เผชิญกับสิ่งนั้น หรือหากต้องเผชิญก็เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว
คำพูดที่มักได้ยิน (ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา อาจเป็นเสียงภายใน) “ฉันสงสัยว่า..ฉันไม่เชื่อว่า..มันจะเป็นไปได้หรือ..ทำไม..ฉันยากที่จะไว้ใจใคร..ฉันมักถูกเพ่งเล็ง..ก่อนที่จะเกิดอะไร เราต้องเตรียมตัวให้พร้อมก่อน..ระวังเรื่องนี้ให้ดี ๆ นะ..”
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------