Thin Client ยิ่งเล็กยิ่งดี

Thin Client ทำงานได้เร็วโดยไม่ต้องมี CPU เร็วหรือ Memory ใหญ่ได้อย่างไร

Thin Client ยิ่งเล็กยิ่งดี

หากมีคำพูดประโยคหนึ่งของชาวญี่ปุ่นที่อธิบายความเป็นญี่ปุ่นได้ดี และสะท้อนถึงคุณภาพและนวัตกรรมที่เป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลก คุณจะนึกถึงคำพูดอะไรบ้าง หลายคนอาจจะนึกไม่ออกแต่คนยุคหนึ่งจะได้ยินบ่อยครั้งว่า Big Things Come in Small Packages ที่นี้คนที่นึกไม่ออกก็ต้องร้องอ๋อกันหล่ะ

คำพูดนี้มีพลังมหาศาลกระทั่ง Honda ก็ยังต้องนำมาใช้เป็นคำโฆษณาสินค้า ช่างเป็นประโยคที่แสดงตัวตนได้ดีมีเอกลักษณ์และสวยงามจริง ๆ เข้าใจว่าที่มาคือญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ไม่ใหญ่มีขนาดเล็กกว่าประเทศไทยของเราประมาณ 30% แต่มีประชากรมากกว่า 2 เท่า ความหนาแน่นของประชากรประกอบกับในอดีตคนญี่ปุ่นค่อนข้างตัวเล็ก จึงต้องมีที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างเล็ก และยังนิยมสิ่งของเล็ก ๆ เป็นพิเศษเช่น บอนไซ ของเล่นของสะสม เป็นต้น จนกลายเป็นวัฒนธรรมเด่นของชาวญี่ปุ่น และติดมาสินค้าที่เป็น Hi-Technology ในโลกปัจจุบันด้วย ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดคือ Sony Walkerman ที่ริเริ่มทำเครื่องเล่นให้มีขนาดเล็กกระทัดรัดจนผู้ผลิตญี่ปุ่นเท่านั้นที่ผูกขาดการผลิตเครืองเล่นชนิดนี้ตลอดอายุของผลิตภัณฑ์

คำพูดอันทรงพลังนี้ได้ก่อให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ มากมายที่ให้ประโยชน์แก่มนุษย์ชาติ นักวิจัยและผู้ผลิตชาติอื่น ๆ ก็ได้ยืมแนวคิดนี้ไปคิดค้นนวัตกรรมใหม่ตลอดมา

Thin Client ก็เป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่เข้ากับแนวคิดนี้เป็นอย่างดี แต่เดิมเราคุ้นเคยกับการใช้ PC จนลืมไปว่าถ้าขาด PC เราจะอยู่กันอย่างไร เมื่อ PC ในที่ทำงานของเราเก่าลงไม่สามารถใช้กับโปรแกรมใหม่ ๆ หรือ ใช้ร่วมกับระบบปฏิบัติการของวินโดส์ที่ออกมาใหม่ เราก็มักจะได้ PC  เครื่องใหม่หรือไม่ก็ต้องอดทนสักหน่อยยอมให้เครือง PC ของเราทำงานช้าลงบ้าง จนกระทั่งทนไม่ไหวแล้วองค์กรก็จำต้องเปลี่ยน PC เครื่องใหม่ให้เราอยู่ดี เป็นวัฐจักรเช่นร่ำไป ทุก ๆ 3-4 ปีขึ้นอยู่กับประเภทขององค์กรและลักษณะการใช้งาน บ่อยครั้งเมื่อพิจารณาดูแล้วสภาพของเครื่องก็ยังดีอยู่เพียงแต่ CPU เร็วไม่พอแล้ว Harddisk มีขนาดเล็กเกิน และ RAM ก็เล็กเกินไป ลักษณะเช่นนี้เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าเป็น Fat Client คือส่วนประกอบสำคัญต้องเร็วและมากไว้จะดี

แต่เมื่อคิดอีกทีหนึ่ง ถ้ามีวิธีประมวลผลที่ไม่ต้องอิงกับประสิทธิภาพของCPU Harddisk และ RAM เราก็คงไม่ต้องเข้าสู่วงจรหรือวัฐจักรที่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเช่นนี้ทุกครั้งไป วิธีประมวลผลนี้เป็นที่นิยมมากในองค์กร เราเรียกว่า Thin Computing โดยมีเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เรียกว่า Thin Client

การทำงานแบบ Thin Computing จะมุ่งเน้นให้ใช้การประมวลผลที่เครื่องคอมพิวเตอร์แม่ข่ายแทน ซึ่งเป็นเครื่องที่มีสมรรถนะสูง มีประสิทธิภาพในการใช้ทรัพยากรต่าง ๆ อย่างดี จึงสามารถทำหน้าที่ประมวลผลแทน เครื่องคอมพิวเตอร์ Thin Client จำนวนมากในคราเดียวกัน ในขณะที่ Thin Client ทำหน้าที่เช่นเดียวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า ในลักษณะเปิดปุปติดปัป แสดงผล และ นำสัญญาณแป้นพิมพ์และเม้าส์เข้าไปประมวลผลที่เครื่องแม่ข่าย เพียงเท่านี้เราก็สามารถตัดภาระต่าง ๆ ที่เคยมีกับ Fat Client ลงไปได้

แล้วหลายท่านคงสงสัยว่า Thin Client สามารถทำงานได้เร็วโดยไม่ต้องมี CPU เร็วหรือ Memory ใหญ่ได้อย่างไร จริง ๆ แล้ว Thin Client ไม่ได้ประมวลผล แต่การประมวลผลเกิดขึ้นที่เครื่องแม่ข่ายที่สามารถประมวลผลโปรแกรมและข้อมูลได้เร็วอยู่แล้ว Thin Client ที่ได้รับการออกแบบมาอย่างดีจะมีระบบปฏิบัติการ (Operating System) กะทัดรัดทำหน้าที่เพียงแสดงผลให้เร็วที่สุดก็เป็นอันใช้ได้ แต่ระบบปฏิบัติการที่ว่านี้หาได้ทั่วไปหรือไม่ ถ้าไม่มีใช้ระบบปฏิบัติการอื่น ๆ ได้หรือไม่

ระบบปฏิบัติการที่ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ Desktop ที่มีอยู่ในโลกแบ่งเป็น 2 ค่าย คือค่ายวินโดส์ และ ลินุกซ์ ด้วยความที่เป็นระบบปฏิบัติการที่มีผู้ใช้กันมากจึงมีความสามารถมากมายและมีขนาดใหญ่ จึงต้องการทรัพยากรบนเครื่องคอมพิวเตอร์มากพอสมควร หากนำมาใช้ก็พอใช้ได้แต่ไม่ได้ถูกออกแบบให้ทำงานแบบ Thin Computing อย่างเหมาะสม แล้วทีนี้เราจะหาระบบปฏิบัติการในอุดมคติของเราได้หรือเปล่า มีจริง ๆ หรือ

โชคดีที่ระบบปฏิบัติการที่ว่านี้มีจริง ๆ แต่ไม่ได้มีให้เราหาซื้อกัน ระบบปฏิบัติการทีว่านี้ได้รับการพัฒนาจากผู้ผลิต Thin Client จึงมาพร้อมกับ Thin Client เลย ระบบปฏิบัติการที่ได้รับความนิยมมากที่สุดเรียกว่า Thin OS จาก Wyse Technology ซึ่งเป็นผู้ผลิต Thin Client อันดับหนึ่งของโลก

กล่าวกันว่าในบรรดาระบบปฏิบัติการที่มีใช้กัน ผู้นำคือ ระบบปฏิบัติการตระกูลวินโดส์ (Windows OS)ต่าง ๆ ทีน่าสนใจคือระบบปฏิบัติการ Thin OS จาก Wyse ถือเป็นระบบปฏิบัติการที่ไม่ใช่ตระกูลวินโดส์ (non-Windows OS) ที่มีผู้ใช้มากที่สุดในโลก แสดงให้เห็นถึงว่า การทำสิ่งที่เล็กก็จะให้ผลลัพธ์เป็นนวัตกรรมที่ยิ่งใหญ่ได้