ชื่อหัวข้อคราวนี้ยาวหน่อยค่ะ เป็นหัวข้อการบรรยายที่ดิฉันได้รับเป็นโจทย์ ในวัน "รวมพลังเพื่อพัฒนาคุณภาพมาตรฐานการศึกษาไทย ประจำปี 2549" : 30 - 31 มี.ค. 49 จัดโดยศูนย์เครือข่าย สมศ. มหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งดิฉันจะต้องใช้เวลาในการบรรยายเชิงปฏิบัติการ แก่คณาจารย์และผู้สนใจที่มาจากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาในเขตจังหวัดภาคเหนือตอนล่างประมาณ 3 ชั่วโมง ของวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2549 เวลา 13.30 - 16.30 น.
ในยุคสมัยนี้ วิทยากร หรืออาจารย์ แทบทุกคน รวมทั้งดิฉันด้วย ถูกเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์กลืนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเสียแล้ว เพราะถ้าไม่ได้เตรียมสื่อการบรรยายแผ่นสไลด์สำเร็จรูปด้วยโปรแกรมคอมพิวเตอร์อันชาญฉลาดแล้วละก็ ประหนึ่งว่าจะไม่สามารถใช้เพียงคำพูดสดๆ สร้างความสนใจ หรือความเข้าใจแก่ผู้ฟังได้ฉะนั้น
อย่างไรก็ตาม ดิฉันชอบที่จะทำสไลด์เป็นรูปภาพ โดยมีคำบรรยายเพียงเล็กน้อย เพราะไม่มีเจตนาให้ผู้ฟังอ่าน ตัวหนังสือมีไว้เพียงเพื่อนำทางในการบรรยายของตนเองเป็นหลัก ฉะนั้น ถ้าท่านใดที่ขอ copy file ไปดูอีกครั้ง หรือเผยแพร่แก่ผู้อื่น ดิฉันเกรงเหลือเกินว่าท่านอาจตีความจากภาพได้เข้าใจไม่ครบถ้วน หรืออาจเข้าใจผิดไป ทีหน้า ทีหลัง ดิฉันจะต้องเพิ่มเทคโนโลยีในการบันทึกเสียงของดิฉันประกอบการบรรยายไว้ด้วย นี่เป็นอีกบทเรียนที่ดิฉันควรปรับปรุง
เพื่อเป็นการแก้ตัว ดิฉันขอนำเสนอเป็นข้อเขียนประกอบสไสด์ ไว้ ณ Blog นี้อีกครั้ง โดยจะพยายามทยอยเขียนวันละเล็กละน้อย เพื่อไม่ให้เกิดความเบื่อหน่ายนะค่ะ
ตามโจทย์ที่ได้รับเพื่อบรรยาย ดิฉันแปลเจตนาของผู้จัดว่า คงอยากให้ดิฉันอธิบายเรื่อง KM โดยอธิบายให้สัมพันธ์กับเรื่อง QA และเน้นว่า KM จะช่วย QA ในการนำผลประเมินคุณภาพในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา (44 - 48) มาพัฒนาคุณภาพของสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาได้อย่างไร?
ก่อนอื่น ดิฉันขอตั้งข้อสังเกตในเบื้องต้นว่า ผลการประเมินคุณภาพการศึกษา ระดับอุดมศึกษา ในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ตามทัศนะของดิฉันเอง มี 4 ข้อ คือ มหาวิทยาลัยส่วนใหญ่
เรื่องแรก "การขาดจุดเด่น ขาดเอกลักษณ์" สมศ.เองก็ตระหนักชัดในปรากฎการณ์ดังกล่าว ดังนั้น ในรอบการประเมินครั้งที่ 2 ของ สมศ. สมศ.จึงพยายามตีกรอบให้แก่มหาวิทยาลัย เพื่อให้เกิดจุดเด่น / เอกลักษณ์ ของสถาบันแต่ละแห่งให้จงได้ โดยให้แต่ละสถาบันกำหนดค่าน้ำหนักมาตรฐานคุณภาพการศึกษา ข้อ 1 - 4 ตามจุดเน้นของตน ทั้งนี้คะแนนรวมใน 4 มาตรฐาน ให้ได้เท่ากับ 100 มาตรฐานทั้ง 4 ได้แก่
ดังนั้น ถ้ามหาวิทยาลัยใดเป็นดังตัวอย่างในสไลด์ คือ กำหนดน้ำหนักมาตรฐานที่ 1 - 4 เป็น 35 35 20 10 ก็แสดงว่า ได้ตัดสินใจแล้วที่จะเป็นมหาวิทยาลัยที่มีจุดเด่นด้านวิจัยและผลิตบัณฑิต เป็นต้น
นี่ถ้า สมศ. ไม่บังคับอย่างนี้ จะยอมตัดสินใจให้เด็ดขาดไหมน้อ? (ข้อความนี้ไม่ได้พูดตอนบรรยายนะค่ะ)
ไม่มีความเห็น