ความเป็นมาสถาบันการอาชีวศึกษา
ปัจจุบันโลกก้าวมาสู่ยุคโลกาภิวัตน์ ความต้องการกำลังคนในการพัฒนาประเทศ ทางด้านเศรษฐกิจ สังคม เปลี่ยนแปลงมาสู่การใช้ความรู้เป็นฐาน(Knowledge Based)ในการพัฒนา และมีลักษณะเป็น Multi Skill โดยเฉพาะอย่างยิ่งความต้องการกำลังคนระดับช่างฝีมือ ระดับช่างเทคนิค และนักเทคโนโลยี ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสถานศึกษาในสังกัด มีภารกิจโดยตรงในการผลิตกำลังคนดังกล่าว และสืบเนื่องจากพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา 2550 เปิดโอกาสให้การดำเนินการจัดการเรียนการสอนด้านอาชีวศึกษา สามารถรวมสถานศึกษา เพื่อจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา โดยการสร้างความเข้มแข็ง และคุณภาพผู้สำเร็จการศึกษาด้านวิชาชีพ จากการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมด้วยหลักธรรมาภิบาล โดยสภาสถาบัน เป็นนิติบุคลและมีอิสระในการดำเนินการ ซึ่งมีการสรรหาผู้อำนวยการสถาบัน จากผู้ที่มีความรู้ความสามารถ มีวิสัยทัศน์ และมีภาวะผู้นำ เปิดโอกาสให้ผู้อำนวยการสถาบันสามารถเลือกทีมบริหารงานเพื่อสร้างความเป็นเอกภาพในการบริหารสถาบันการอาชีวศึกษา ทั้งนี้มีการใช้ทรัพยากรร่วมกัน เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด สามารถพึ่งพาและเสริมจุดแข็ง จุดอ่อนซึ่งกันและกันจากทรัพยากรของสถานศึกษา ทั้งด้านบุคลากร สินทรัพย์ อาคารสถานที่ และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ตลอดจนการกำหนดวิสัยทัศน์ร่วมกันจากทุกภาคส่วน เพื่อนำพาสถาบันการอาชีวศึกษาไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ตามปรัชญาของการอาชีวศึกษามุ่งเน้นการผลิตผู้สำเร็จการศึกษาที่มีปริมาณและคุณภาพ มีสมรรถนะ ทักษะฝีมือเป็นที่ยอมรับของสถานประกอบการ และกลุ่มอุตสาหกรรม สอดคล้องความต้องการกำลังคนด้านอาชีวศึกษา ทั้งในระดับพื้นที่และระดับประเทศ ทั้งนี้การดำเนินการจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษาในปัจจุบันได้ดำเนินการตาม หลักเกณฑ์ ใน มาตรา 13 มาตรา 14 ของ พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา ซึ่งมี 2 แนวทางคือ การยึดหลักภูมิศาสตร์ (Area Based) โดยรวมกลุ่มจังหวัดที่อยู่ใกล้เคียงมาจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา ส่วนอีกแนวทางหนึ่งคือการรวมกลุ่มวิทยาลัยที่มีลักษณะการจัดการเรียนแบบเดียวกัน (Excellent Based)มาจัดตั้งสถาบันการอาชีวศึกษา
การเรียนรู้ด้านอาชีวศึกษา
สถานศึกษาสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ได้ดำเนินการัดการเรียนการสอนออกเป็น 2 ระดับ คือ ระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ(ปวช.) และระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง(ปวส.) อย่างไรก็ตามพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา เปิดโอกาสให้มีการรวมตัวของสถานศึกษา เปิดการเรียนการสอนได้ถึงระดับปริญญาตรี ซึ่งเป็นปริญญาตรีสายเทคโนโลยี ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความต่อเนื่องในการพัฒนาสมรรถนะและศักยภาพของนักศึกษา ตั้งแต่ระดับฝีมือ ระดับเทคนิคและนักเทคโนโลยี ซึ่งในการดำเนินการจัดการเรียนการสอน มีการจัดหลักสูตรฐานสมรรถนะตอบสนองความต้องการกำลังคนระดับกลาง ในระดับ ปวช. และปวส. จำนวน 6 ประเภทวิชาได้แก่ ประเภทวิชาอุตสาหกรรม ประเภทวิชาพาณิชกรรม/บริหารธุรกิจ ประเภทวิชาคหกรรม ประเภทวิชาศิลปกรรม ประเภทวิชาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว และ ประเภทวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ยกเว้นประเภทวิชาเกษตรกรรม ที่มีการแยกดำเนินการจัดการเรียนการสอนเป็นเอกเทศต่างหาก ซึ่งรวมกลุ่มจัดตั้งเป็นสถาบันการอาชีวศึกษาเฉพาะทาง สำหรับการเปิดหลักสูตรปริญญาตรีสายเทคโนโลยี นั้นเป็นการตอบสนองตามความต้องการกำลังคนระดับนักเทคโนโลยี ซึ่งมีการจัดการศึกษาในระบบทวิภาคีที่เน้นการปฏิบัติจริงในสถานประกอบการ เป็นการเรียนต่อเนื่องจากระดับประกาศนียบัตรชั้นสูง อีก 2 ปี โดยเรียนในสถาบันการอาชีวศึกษา 1 ปี และฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ อีก 1 ปี
แผนภูมิแสดงองค์ประกอบการเรียนรู้ด้านอาชีวศึกษา (ฉัตรชัย เรืองมณี ,2551)
จากแผนภูมิแสดงให้เห็นถึงองค์ประกอบคุณภาพการจัดการเรียนรู้ด้านอาชีวศึกษา ที่ต้องการปัจจัยก็คือศักยภาพของผู้เรียน คุณภาพครูผู้สอน งบประมาณการลงทุนตลอดจนอาคารสถานที่ ห้องปฏิบัติการ ครุภัณฑ์ และวัสดุฝึก ขณะเดียวกัน กระบวนการจัดการเรียนรู้ การบริหารหลักสูตรฐานสมรรถนะก็เป็นสิ่งจำเป็นรวมทั้งการฝึกปฏิบัติงานในสถานประกอบการ และระบบควบคุมคุณภาพ ซึ่งจะส่งผลผลิตต่อจำนวนช่างฝีมือ ช่างเทคนิคและนักเทคโนโลยี ที่มีผลสัมฤทธิ์ต่อคุณภาพและสมรรถนะผู้สำเร็จการศึกษาสายปฏิบัติการและผลลัพท์สุดท้ายคือ ความพึงพอใจของสถานประกอบการ และความ
เพียงพอต่อความต้องการกำลังคนของท้องถิ่นและประเทศ
กระบวนทัศน์ในการพัฒนาการอาชีวศึกษา
ดังกล่าวข้างต้นองค์ประกอบคุณภาพการจัดการเรียนรู้ด้านอาชีวศึกษา ต้องการปัจจัย และกระบวนการเพื่อส่งผลที่ได้รับ บรรลุตามวัตถุประสงค์ จำเป็นจะต้องปรับกระบวนทัศน์ เพื่อพัฒนาการอาชีวศึกษา ไปสู่จุดหมายปลายทางที่วางไว้ คือ
การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา(Intellectual Infra-Structure Development) เพื่อสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ(Vocational Learning Organization) มุ่งสู่สังคมแห่งปัญญา(Wisdom Society)
แผนภูมิกระบวนทัศน์ในการพัฒนาการอาชีวศึกษา (ฉัตรชัย เรืองมณี ,2551)
1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางปัญญา(Intellectual Infra-Structure)
1.1 การใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ในการจัดการอาชีวศึกษา
การนำเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ตามแนวทาง ยุทธศาสตร์อิเลคทรอนิคส์( e-Strategy ) มาสนับสนุนการจัดการอาชีวศึกษา ทั้งการเรียนการสอนและการบริหารจัดการ เช่นการจัดหาและพัฒนาระบบ Virtual Classroom การจัดระบบ Learning System Management: LMS โดยการจัดการเรียนการสอน บนชุมชนอวกาศ (Cyber Community) ผ่านเครือข่ายระบบอินเตอร์เน็ต จัดการเรียนการสอน e-Learning การเรียนการสอนบนเว็บ (WBI) การฝึกอบรมบนเว็บ (WBT) การส่งเสริมการเรียนการสอนบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ การจัดตั้งห้องปฏิบัติการ Cyber ปลายทางในทุกสถานศึกษา จัดหาและพัฒนา สื่อ ICT เพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ให้ครอบคลุมสาขาวิชาชีพหลัก จัดหาและพัฒนา e-Book, e-Library, Self Access Learning จัดหาและพัฒนา Internet Mobile เพื่อเผยแพร่ความรู้ให้ประชาชนและหลักสูตรแกนวิชาชีพระดับมัธยมศึกษา การจัดทำระบบ e-Office จัดหาระบบ VDO Conference
1.2 พัฒนาคุณภาพการอาชีวศึกษาเพื่อการแข่งขันของประเทศ
จัดหาและพัฒนาเครื่องมือ อุปกรณ์ และชุดฝึกทันสมัยในสาขาวิชาที่สอดคล้อง กับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ จัดหาและพัฒนาห้องเรียนจำลองและห้องปฏิบัติการทันสมัย จัดหาครุภัณฑ์ยานพาหนะสนับสนุนการจัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และการส่งเสริม การพัฒนาอาชีพแก่ประชาชนในท้องถิ่น พัฒนาสถานศึกษาที่มีความเป็นเลิศเฉพาะทางเพื่อสนับสนุนขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พัฒนาระบบบริหารจัดการอาชีวศึกษาแบบมีส่วนร่วมและหลักบูรณาการ
1.3 พัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรอาชีวศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลง ด้วยรูปแบบวิธีการทันสมัย
พัฒนาศักยภาพบุคลากรร่วมกับสถานประกอบการทั้งในและต่างประเทศพัฒนาต่อยอดและเพิ่มคุณวุฒิครูรองรับการจัดการเรียนการสอนสาขาวิชาชีพด้านเทคโนโลยีสายปฏิบัติการ พัฒนาระบบ e-Training เพื่อการฝึกอบรมพัฒนาครูและผู้บริหาร
1.4 พัฒนาองค์ความรู้เทคโนโลยีวิชาชีพเชื่อมโยงภูมิปัญญาท้องถิ่น
พัฒนาขีดความ สามารถด้านการวิจัยและพัฒนา การสร้างสิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรมและสร้างองค์ความรู้ใหม่ ๆ ด้านวิชาชีพเพื่อส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ส่งเสริมความเป็นเลิศในการสร้างสรรค์นวัตกรรมและองค์ความรู้ใหม่ที่นำไปใช้ประโยชน์ในการพัฒนาประเทศรวมทั้งการพัฒนาศูนย์การเรียนรู้วิชาชีพ
2. การสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้วิชาชีพ(Vocational Learning Organization)
2.1 พัฒนามาตรฐานการอาชีวศึกษาและการเรียนรู้ด้านวิชาชีพตลอดชีวิต
พัฒนามาตรฐานอาชีพ พัฒนาหลักสูตรฐานสมรรถนะหลักสูตรวิชาชีพเฉพาะทาง หลักสูตรวิชาชีพทั้งในและนอกระบบให้มีความหลากหลาย เชื่อมโยงกับระบบคุณวุฒิวิชาชีพและการพัฒนาคุณภาพอาชีวศึกษา บ่มเพาะให้เยาวชนใฝ่หาความรู้ มีค่านิยมให้มุ่งสู่การเรียนสายอาชีวศึกษาเพิ่มมากขึ้น เสริมสร้างให้เยาวชนมีสมรรถนะ ด้านการสื่อสาร ภาษา IT การคิดวิเคราะห์ ทักษะอาชีพ รองรับการแข่งขันด้านเศรษฐกิจของประเทศ มีคุณธรรม จริยธรรม มีจิตสาธารณะ มีศีลธรรม และวุฒิภาวะทางอารมณ์
2.2 พัฒนาศักยภาพในการเรียนรู้ดานวิชาชีพของเยาวชนและประชาชน
สร้างระบบการเรียนรู้อาชีวศึกษาส่งเสริมโอกาสการเรียนรู้วิชาชีพตลอดชีวิตและวัฒนธรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิตแก่เยาวชนและประชาชน เพื่อการมีงานทำ การสร้างผู้ประกอบการใหม่สอดคล้องกับภูมิสังคมอาชีพ
2.3 สร้างเครือข่ายชุมชนความรู้ด้านวิชาชีพ
พัฒนาเครือข่ายความร่วมมือในการพัฒนาองค์ความรู้ด้านวิชาชีพในชุมชน ร่วมกับ สถานประกอบการ ชุมชน บ้าน สถาบันศาสนาและสถานศึกษา
3. การสร้างสังคมแห่งปัญญา(Wisdom Society)
3.1 สถานศึกษามีศักยภาพและความพร้อมในการจัดการเรียนการสอนวิชาชีพโดยใช้นวัตกรรมใหม่ การวิจัยพัฒนาและการจัดการความรู้
3.2 ผลิตกำลังคนที่เพียงพอและมีสมรรถนะมีคุณธรรม จริยธรรม ตรงกับความต้องการตามกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมาย โดยความร่วมมือระหว่างผู้ผลิตและผู้ใช้กำลังคน
3.3 สถานประกอบการและสังคมให้การยอมรับ คุณภาพผู้เรียนอาชีวศึกษา
3.4 เพิ่มความเข้มแข็งของชุมชนจากการพัฒนาอาชีพตามภูมิสังคมอาชีพ
3.5 เพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขันของประเทศ สร้างความมั่นคง มั่งคั่งในสังคมอุดมปัญญา
เยอะจังคะ อ่านจนตาลายเลยคะ อิอิ
สำหรับนิว ๆ คิดว่า..การปรับกระบวนทัศน์ต่างๆ เหล่านี้คงไม่ใช่เรื่องใหม่เท่าไหร่ แต่ "คนเริ่มที่จะลงมือทำ กับคนที่จะทำตามและตามให้ทันต่างหาก" ที่จะทำให้มันสำเร็จได้หรือเปล่า
เป็นกำลังใจให้อาจารย์และนักศึกษาอาชีวะทุก ๆ คนนะคะ
จาก...อดีต เด็กอาชีวะ คะ (คนพันธุ์ R )
อาชีวศึกษา มีคนที่มีความสามารถมากมาย แต่เรารวมกันไม่ได้ เพราะพวกเราไม่ชอบทำงานเป็นทีม และยังไม่สะสม ระดมสมองมาช่วยกันคิด ไม่เตรียมความพร้อมในเรื่องพื้นฐาน เช่น ๔ เอ็ม
๑.คน ๒.วัสดุอุปกรณ์ ๓.เงิน ๔.การจัดการที่มีระบบ หรือ ๕.อื่นๆ
เรายังไม่มีอะไรพร้อมเลย แต่จะเปิด ปริญญาตรี คนในองค์กรมัวแต่ทะเลาะกัน แย่งกันเป็น....... หมดยุคก็เปลี่ยนแนวการพัฒนาใหม่อีกแล้ว ผมว่ายังมีอุปสรรค์อีกเยอะ ทำวิจัยแล้วมิได้นำมาแก้ไขในบริบทจริงๆเงินทองรั่วไหลไปมากมาย น่าเสียดายนะครับ
แต่ก็เป็นกำลังใจให้พี่น้องอาชีวะฯ ได้เปิด ป.ตรีนะครับ
ผมศิษย์อาชีวศึกษา เทคโนไทย-เยอรมัน(ขอนแก่น)
เรียนท่านรอง
ขอชื่นชมความรู้ ความสามารถของท่าน หลักทฤษฏีกับการปฏิบัตินั้น บุคลากรทางอาชีวคงมีคุณภาพเยี่ยมทุกคน ขอให้กำลังใจ ถ้าเขารู้ว่าเขามีผู้นำที่ดีเลิศอย่างท่าน
ด้วยความเคารพ
ใบบัว
หากจะพัฒนาอาชีวศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นเป้าหมาย โดยให้สถานศึกษามีโอกาสทำโครงการโดยตรงน่าจะสนับสนุนในประเด็น หรือ เรื่องอะไรดีครับ