เล่าเรื่องระหว่างวันที่ ๑๕ - ๑๙ ธันวาคม ๒๕๕๑


    Merry  Christmas  25  ธันวาคม

Season’s Greetings– May love and laughter fill your life at Christmas and throughout the New Year.

เทศกาลแห่งการอวยพร ขออวยพรให้ความรัก และเสียงหัวเราะเติมเต็มชีวิตของคุณ ในวันคริสต์มาสตลอดไปถึงวันปีใหม่

  

วันที่ ๒๐  ธันวาคม  ๒๕๕๑

เรียน  เพื่อนครู ผู้บริหารที่เคารพรักทุกท่าน

วันจันทร์ที่ ๑๕  ธันวาคม  ๒๕๕๑  ออกจากบ้านเมืองนนท์ตี ๕ เพราะต้องไปเปิดงานการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือ-เนตรนารีสามัญ  กลุ่มโรงเรียนเครือข่ายหนองศาลา  ที่ศูนย์พัฒนานักเรียนและบุคลากร กรมสามัญศึกษา ในเวลา ๐๘.๓๐ น.  การขับรถเช้ามืดก็สะดวกดีเพราะถนนโล่ง แต่บางครั้งก็ง่วงนอนเหมือนกัน เพราะนอนไม่เต็มอิ่ม  ถึงบ้านพักที่ท่ายางเวลา ๐๖.๓๐ น. จัดแจงแต่งเครื่องแบบผู้บังคับบัญชาลูกเสือ  จนเวลา ๐๘.๐๐ น. รถสำนักงานมารับ คุณสายใจ   จิรชีพพัฒนา ประชาสัมพันธ์เขต ติดตามไปถ่ายภาพทำข่าวด้วย  ใช้เส้นทางคลองสาย ๒ เข้าหาดปึกเตียน  เลี้ยวขวาไปโรงเรียนโตนดหลวงวิทยา  ศูนย์แห่งนี้อยู่ซ้ายมือฝั่งตรงข้ามกับโรงเรียน  พอรถจอดจึงรู้ว่ามาเร็วไปประมาณ ๑ ชั่วโมง  ท่านผู้อำนวยการโกศล  จุ้ยมี  ประธานเครือข่ายมาต้อนรับและบอกว่าเชิญผิดเวลา ความจริงพิธีเปิดเวลา ๐๙.๐๐ น. ความจริงท่านก็บอกผมด้วยปากเปล่าแล้วเมื่อประชุมผู้บริหารโรงเรียนแต่สมองมันจำที่เป็นหนังสือขึ้นปฏิทินนัดหมาย  เมื่อมีเวลาประกอบกับยังไม่ได้ทานอาหารเช้า จึงชวนกันไปหาข้าวกินที่ร้านป้าเหลียว  บ้านท่า ที่เลยออกไปประมาณ ๕ กม.  ร้านยังไม่เปิดกำลังหันรีหันขวางแม่ครัวมาพอดี  จึงเป็นครั้งแรกที่ทานอาหารตามสั่งในเวลาเช้า มีต้มยำกุ้ง  ผัดฉ่าประหลาดุกทะเล และหอยหวาน  แพทย์แนะนำว่าการทานอาหารเช้าช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์ได้ นอกจากจะเป็นร้านอาหารแล้วร้านป้าเหลียวยังเป็นแพปลาสำหรับขายส่งอาหารทะเลอีกด้วย แต่วันนี้ยังไม่มีสินค้ามาจำหน่าย  กลับไปศูนย์อีกครั้งได้เวลาพิธีเปิดพอดี หลังสักการะอนุสาวรีย์ล้นเกล้าฯรัชกาลที่ ๖  รับการกล่าวรายงานจากประธานกลุ่มโรงเรียน ผมกล่าวตอบและเปิดการอยู่ค่ายพักแรม ก็เสร็จพิธี   ในเวลา ๑๐.๐๐ น. ไปร่วมพิธีเปิดการอยู่ค่ายพักแรมของลูกเสือ กกต. ที่ค่ายศรียานนท์  มีท่านประธาน กกต.จังหวัดเพชรบุรี นายปริญญา  อุดมทรัพย์ เป็นประธาน  พ.ต.อ.นนทวัชร์  ปานแก้ว กกต.จังหวัด และผู้อำนวยการ กกต.จังหวัดเพชรบุรี ร่วมพิธีเปิด   ผมกับ พ.ต.อ.นนทวัชร์  ปานแก้ว เคยทำงานด้วยกันที่อำเภอ สังขละบุรี  จังหวัดกาญจนบุรี เมื่อ ๑๕ ปีที่แล้ว จึงนั่งคุยความหลังกันได้อย่างได้รสชาติ ที่สำคัญอยู่ในชมรมคนใต้ด้วยกันจึงสามารถพูดเสียงในฟิล์มกันได้ ย้ายมาเพชรบุรีคราวนี้ไม่ว้าเหว่ ได้พบเพื่อนสนิทมิตรสหายมากมาย แต่ละคนก็มีตำแหน่งใหญ่โตที่สามารถพึ่งพาอาศัยกันได้ทั้งฝ่ายบู๊และฝ่ายบุ๋น  เสร็จพิธีเดินทางกลับบ้านพักเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดทำงานปกติ  บ่ายทำงานแฟ้มเอกสารจนเย็น  ได้ทราบข่าวจากผู้หวังดีว่าหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นของเพชรบุรี ซึ่งจะออกวางจำหน่ายพรุ่งนี้  มีบทความมที่เขียนโจมตีบุคคลที่เกี่ยวข้องในการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ายาง  หลายฝ่ายเข้าใจว่าเรื่องมันจบไปแล้วเห็นเงียบกลับประทุขึ้นอีกเหมือนอัพเตอร์ช็อคของสึนามิ  สายข่าวบอกว่ามีคนในสำนักงานเขตชักใยเรื่องนี้อยู่  ก็ฟังหูไว้หูเพราะมีถึงสองหู   ต้องตรวจสอบกันต่อไปเราต้องให้ความเป็นธรรมยึดหลักธรรมกาลามสูตรกังขานิยฐาน 10  อย่างเคร่งครัด กล่าวคือ (๑)  อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการฟังตามกันมา (มา อนุสฺสเวน)  (๒) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการถือสืบ ๆ กันมา (มา ปรมฺปราย) (๓)  อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการเล่าลือ (มา อิติกิราย)  (๔) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการอ้างตำรา หรือคัมภีร์ (มา ปิฏกสมฺปทาเนน) (๕) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะตรรก (มา ตกฺกเหตุ)  (๖) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะอนุมาน (มา นยเหตุ)  (๗) อย่าปลงใจเชื่อ ด้วยการคิดตรองตามแนวเหตุผล (มา อาการปริวิตกฺเกน) (๘) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะเข้าได้กับทฤษฎีที่พินิจไว้แล้ว (มา ทิฏฐินิชฺฌานกฺขนฺติยา)  (๙) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะมองเห็นรูปลักษณะน่าจะเป็นไปได้ (มา ภพฺพรูปตาย)  (๑๐) อย่าปลงใจเชื่อ เพราะนับถือว่า ท่านสมณะนี้เป็นครูของเรา (มา สมโณ โน ครูติ)  ตกเย็นพรรคพวกที่รู้ข่าวทั้งใกล้ไกลมาชุมนุมวิพากษ์วิจารณ์กันที่บ้านชุมเพชรมากหลาย บอกเขาไปว่าเป็นปรากฏการณ์ปกติ แต่เสียดายบรรยากาศและโอกาสแห่งการพัฒนา อย่าห่วงผมเลยสามารถอธิบายได้ทุกขั้นทุกตอน 

วันอังคารที่ ๑๖  ธันวาคม  ๒๕๕๑  พบกันยามเช้าวันแรก กลุ่มอำนวยการเป็นเจ้าภาพ เจ้าหน้าที่มาเตรียมการตั้งแต่เช้า ต้มน้ำร้อน เตรียมขนมและข้าวต้ม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขต และหัวหน้ากลุ่มเริ่มทยอยกันมาจนเต็มที่นั่งในศาลา  ทานกันไปคุยกันไปหลาย ๆ เรื่อง จน ๐๘.๓๐ น. ก็ทยอยกันกลับไปทำงาน  เข้าที่ทำงานวันนี้มีแฟ้มเอกสารให้พิจารณาหลายเรื่องเหมือนกัน  ก่อนเที่ยงชวนคุณสุรพล  ทิมวัฒน์  หัวหน้ากลุ่มนโยบายและแผน  คุณอุดม  เทศนุ่ม  หัวหน้ากลุ่มนิเทศฯ และคุณอุไร  แจ่มจันทร์  ศึกษานิเทศก์  เดินทางไปอำเภอบ้านลาดเพื่อเยี่ยมโรงเรียน  ไปแวะทานข้าวเที่ยงที่ร้านเปลญวนด้วยเหตุผลว่าร้านนี้อร่อยและราคาถูก อิ่มแล้วเดินทางไปโรงเรียนบ้านหนองโสน กำลังพักเที่ยงคุยกับนักเรียนบ้างครูบ้างตามแต่จะพบใครก่อน  โรงเรียนนี้ไม่มีผู้บริหารเพราะคนเดิมลาออกในโครงการเกษียณอายุก่อนกำหนด  ครูบ่นให้ฟังว่าโรงเรียนเข้าโครงการเรียนรวมชั้น สอนลำบาก จะเลิกก็ไม่ได้เพราะทะลุฝาแล้ว  ก็แนะนำให้ใช้ดุลยพินิจของครูที่จะเป็นประโยชน์กับลูกศิษย์ให้มากที่สุด ไปชมบ้านตัวอย่างของคนไทยทรงดำที่สร้างไว้มุมสนามของโรงเรียน เป็นบ้านมุงหญ้าแฝก ใต้ถุนสูง ฝาขัดแตะ ฟากไม้ไผ่  ตัวอาคารดูโทรมเพราะขาดการบำรุงรักษา  หากปรับปรุงให้ดีจะเป็นของแปลกทางวัฒนธรรมเผ่าชน เหมือนที่เวียดนามเขาแสดงไว้  ไปดูห้องคอมพิวเตอร์จัดเป็นรูปตัวยูในอาคารหอประชุมขนาดกลาง มีประตูเหล็กแข็งแรง  เครื่องคอมพิวเตอร์ใช้การได้เชื่อมอินเตอร์เน็ตและมีการเรียนการสอนเป็นประจำ  จากนั้นเยี่ยมชั้นเรียน ให้นักเรียนอ่านหนังสือให้ฟัง อ่านคล่องบ้างช้าบ้างสลับกันไป  สิ่งที่ครูและนักเรียนต้องการมากที่สุดคือผู้บริหารโรงเรียนคนใหม่   ออกจากโรงเรียนบ้านหนองโสน กลับออกมาแวะที่โรงเรียนบ้านลาดวิทยา โรงเรียนนี้ก็ไม่มีผู้อำนวยการโรงเรียนเช่นกัน คนเก่าย้ายไปอยู่ประจวบคีรีขันธ์ เขต ๒  แต่มีรองผู้อำนวยการโรงเรียนรักษาราชการแทน  ผังโรงเรียนจัดได้ดี เพราะสมัยก่อนกรมสามัญศึกษา เขามีกองออกแบบและก่อสร้างช่วยจัดมาสเตอร์แปลนให้  นั่งคุยกับรองผู้อำนวยการโรงเรียน ทั้ง ๒ ท่าน และหัวหน้าสายชั้นอีก ๕ – ๖ คน  คุยทั้งเรื่องการเรียนการสอน  ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียน โรงเรียนนี้ทำดีมีบันทึกการเชิญผู้ปกครองมาพบทุกรายไว้ในสมุดบันทึก  ทำให้ทราบประวัติพฤติกรรมของนักเรียน   ครูภาษาอังกฤษชวนผมมาร่วมงานในวันที่ ๑๙  ธันวาคม  ๒๕๕๑  ยังแบ่งรับแบ่งสู้อยู่เพราะภาระค่อนข้างมาก   กลับสำนักงานทำงานเอกสารจนเย็น  ผู้บริหารโรงเรียนนำหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นที่มีบทความเกี่ยวกับการแต่งตั้งผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่ายาง  เป็นการลงทุนหน้า ๓ ทั้งหน้าวิพากษ์วิจารณ์อย่างละเอียดยิบ แต่จะยกประเด็นเชิงลบมาเสนอ สำหรับผมเองก็ถูกหางเลขเหมือนกัน สุดท้ายก็ลงเอยด้วยการบอกว่าจะฟ้องศาลปกครองและฟ้องคดีอาญามาตรา ๑๕๗  การฟ้องร้องต่อศาลเป็นสิทธิพื้นฐานของประชาชน  การเขียนการตีพิมพ์ก็เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานเช่นเดียวกัน  หน้าที่ของส่วนราชการเมื่อปรากฏเป็นข่าวก็ต้องสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่าที่เขากล่าวหาโฆษณาให้เราฟรีมีมูลหรือไม่และเป็นอย่างไร  ในเบื้องต้นจะศึกษาว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรจริงอะไรเท็จ  จะไม่สนใจว่าใครและทำไม  กลับเข้าบ้านท่านรองฯบุญรอด  พุทธารักษ์  คุณสมศักดิ์  ศักดิ์ทอง และคุณพนม  นักการโรงเรียน  มาช่วยกันซ่อมแซมประตูบ้าน ต่างซื้อหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นมานั่งอ่านวิพากษ์วิจารณ์กันไป  ทั้ง ๆ ที่บทความมีคนเขียนใช้นามปากกาชัดเจน แต่ก็มีการคาดการณ์ถึงแหล่งข่าว  สุดท้ายสรุปว่างานนี้ไม่ใช่ “โจรสุพรรณบุรีแน่  แต่เป็นโจรสองพี่น้อง”

 

วันพุธที่  ๑๗  ธันวาคม  ๒๕๕๑     เช้านี้มีรายการพบกันยามเช้าของจังหวัด วันนี้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต ๑ และเขต ๒ เป็นเจ้าภาพ ใช้สนามกีฬาหน้าเขต ๑ เป็นที่จัดเลี้ยง  บอกตามตรงวันนี้ไม่อยากไปเลย เพราะข่าวที่ออกเมื่อตอนเย็นคงแพร่หลายไปแล้ว รู้สึกอับอายขายขี้หน้าส่วนราชการอื่นเขา ที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต ๒ ดูวุ่นวายไม่รู้จักจบยิ่งกว่าเลือกตั้งนายก อบต. เสียอีก  แต่จะไม่ไปร่วมก็ไม่ได้เพราะเป็นเจ้าภาพ เดี๋ยวพรรคพวกจะหาว่าหลบลี้หนีหน้าผู้คน  สงสัยจะจริงตามที่เขาเขียนไว้  คิดอย่างนี้ก็ต้องไป  ผมเคยพบเหตุการณ์ทำนองนี้มาแล้วเมื่อปี พ.ศ. ๒๕๔๕ ขณะนั้นดำรงตำแหน่งศึกษาธิการจังหวัดชุมพร  สำนักงานได้รับคัดเลือกเป็นสำนักงานศึกษาธิการจังหวัดดีเด่นระดับประเทศ  ต้องไปจัดนิทรรศการที่คุรุสภา ปล่อยให้ผู้ช่วยศึกษาธิการจังหวัดรักษาราชการแทน  วันที่จัดนิทรรศการหนังสือพิมพ์ฉบับยักษ์ใหญ่ตีพิมพ์ว่าเจ้าหน้าที่สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดชุมพรยักยอกเงินค่าหนังสือวัฒนธรรมท้องถิ่น พาดหัวไม้ตัวเท่าหม้อแกง  หากมีรูอยากจะดำดินหนีไปในบัดนั้น  ถามคนในสำนักงานที่มาด้วยเขาเล่าว่าเป็นเรื่องที่เกิดมานานแล้ว ก่อนผมมาดำรงตำแหน่ง และบุคคลในข่าวก็ย้ายไปที่อื่นแล้ว  แต่คนในสำนักงานที่ไม่รักองค์กรกลับให้ข่าวเพื่อลดเครดิตหน่วยงาน  มาบัดนี้ ผู้กระทำการก็ไม่ค่อยมีใครยอมรับนับถือและคบหาเท่าที่ควร  วันนี้เหตุการณ์ทำนองนี้ก็เวียนมาบรรจบครบรอบอีกครั้งหนึ่งจึงไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับผม   ถึงสถานที่จัดเลี้ยงผู้คนหนาตา ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมาแล้ว  แต่ไม่มีใครสอบถามเรื่องข่าว คงยังไม่ได้อ่านหรือไม่อยากพูด  เมื่อมีโอกาสแนะนำเจ้าภาพ ผมได้กล่าวถึงเรื่องนี้เล็กน้อยเพื่อย้ำให้หัวหน้าส่วนราชการทราบว่า การตัดสินใจเป็นไปอย่างถูกต้องตามหลักนิติธรรม และคำนึงถึงประโยชน์สาธารณะแล้ว  กลับถึงเขตเกือบ ๑๐.๐๐ น.  จัดทำคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง เชิญกรรมการมารับทราบแนวทาง ส.ส.กำพล  สุภาแพ่ง มาเยี่ยม จากนั้นไปเป็นประธานประชุมคณะกรรมการจัดทำแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๒  ที่ห้องประชุม   ภาคบ่ายเห็นการพิจารณาไปได้ค่อนข้างช้าจึงตั้งคณะทำงานคณะเล็ก ไปกลั่นกรองมานำเสนอต่อในวันพรุ่งนี้  สัสดีอำเภอทับสะแก  จังหวัดประจวบคีรีขันธ์  มาพบด้วยธุระส่วนตัวของเขา   ขึ้นห้องทำงานจัดการกับแฟ้มเอกสารจนหมดเวลาทำการ    เวลา ๑๙.๐๐ น. เดินทางไปวัดสหธรรมิการาม (หนองแขม) ตั้งอยู่หน้าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต ๒ เพื่ออ่านตราตั้งจากพระอธิการเชน  จิรธมฺโม  เจ้าอาวาสวัดหนองหงส์พัฒนา  ตำบลไร่ใหม่  อำเภอชะอำ  เป็นพระครูสัญญาบัตร  ตามที่รับปากพระครูวิวิตสมาจาร (หลวงพ่อผล) ไว้  ผู้คนทั้งจากไร่ใหม่และหนองแขมมากันมาก เสียงดนตรีสำหรับแห่พัดยศและตราตั้งมาเตรียมการดังลั่นวัด  โรงเลี้ยงก็มีอาหารการกินบริการ ผมก็ได้อาศัยข้าววัดเป็นอาหารเย็นของวันนี้  คณะที่ไปรับตราตั้งจากวัดพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรีมาถึงประมาณ ๒๐ นาฬิกา ชาวบ้านช่วยกันแห่รอบอุโบสถใช้เวลาเกือบครึ่งชั่วโมง  จึงอัญเชิญเข้ามาทำพิธี  ผมทำหน้าที่อ่านตราตั้ง จากนั้นคณะสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา เสร็จพิธีกลับเข้าบ้านพักผ่อน หลับดีกว่าเมื่อคืนที่ผ่านมา สงสัยว่าคนให้ข่าวเขาจะหลับดีหรือเปล่า

 

วันที่  ๑๘  ธันวาคม  ๒๕๕๑  เช้านี้ตื่นมาลองปั่นจักรยานไปตามซอยใกล้ ๆ ลัดเลาะไปตามทุ่งนาเห็นเขากระจิวอยู่ใกล้ ๆ อากาศดีมาก แต่เงียบไปหน่อย   ได้เวลาทำการเข้าสำนักงานมีเจ้าหน้าที่มาคุยด้วย ๒ – ๓ ราย   วันนี้ไม่มีความเครียดเรื่องหนังสือพิมพ์ลงข่าวอีกแล้ว ได้จัดการไปตามที่ควรจะทำ เห็นเว็บบอร์ดรุนแรงไม่เกิดผลดีต่อภาพรวม มอบนโยบายกับเว็บมาสเตอร์ หากเป็นการใช้คำไม่สุภาพให้ลบออกไปทันที  ส่วนการกล่าวหาอย่างรุนแรงโดยปราศจากหลักฐานหรือพยานแวดล้อมให้คงไว้ ๑ วัน เพื่อให้เจ้าตัวได้เห็นความเป็นไปว่าคนอื่นเขาคิดกับเราอย่างไร ก่อนลบก็ให้พิมพ์ไว้เป็นหลักฐานด้วย ทุกถ้อยกระทงความจะได้รับการจัดการตามที่ควรจะเป็น จึงไม่ต้องกังวลว่าลบเพื่อหนีความจริง  แต่ลบเพื่อรักษาระดับคำว่า “ครู” เอาไว้  ก่อนเที่ยงลงไปประชุมเรื่องแผนปฏิบัติราชการต่อจนบ่ายจึงแล้วเสร็จ ปีนี้งบประมาณน้อย จึงต้องแบ่งโครงการออกเป็น ๓ ประเภท  ประเภทแรกจัดเงินให้  ประเภทที่สองรอเงินแลกเป้า  ประเภทที่สามเขียนไว้ก่อน บ่ายอภิปรายรายละเอียดกันต่อและต่อเนื่องไปถึงการดำเนินงานบางเรื่องที่ติดขัดไม่ลงตัว สรุปว่าการทำงานยังเอกเทศกันมาก มักหวงงานไม่ให้คนอื่นเข้าเกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ อย่างนี้ก็ปล่อยไว้ไม่ได้ ต้องแก้ไขจัดระบบใหม่  ต้องให้รองฯ ให้หัวหน้ากลุ่มมีส่วนรับรู้และรับผิดชอบ  แต่ก็เคยถามเจ้าของงาน เขาก็บ่นว่าไม่มีใครมาช่วยมาสนใจเลยเช่นกัน  เลิกประชุมขึ้นไปทำงานเอกสารต่อ  เย็นขับรถไปเที่ยวอำเภอบ้านลาด เพราะมีตลาดนัด เป็นตลาดนัดหน้าสหกรณ์การเกษตร ไม่ใหญ่โตนักแต่มีของพื้นบ้านมาขาย ทั้งผักทั้งขนม  เห็นปลาทูย่างสวย ๆ เลยซื้อมา ๒๐ บาท ขากลับลัดเลาะตามคลองส่งน้ำมาออกถนนเพชรเกษมตรงป่ายางใกล้วัดถ้ำรงค์  ถึงบ้าน เข้าครัวแกงไตปลาแบบปักษ์ใต้ ๑ หม้อเล็ก ไม่ได้เข้าครัวมานานรสชาติก็พอทานได้ พรรคพวกบอกว่าอร่อยดี  แกงไตปลาสูตรของผมง่าย ๆ เริ่มด้วยหาไตปลาที่เขาใส่ขวดขายทั่ว ๆ ไปจะเป็นปลาทูหรือปลาช่อนก็ได้  ถ้าจะให้ได้แบบใต้แท้แต่โบราณต้องปลากระดี่   กะปิปลา คือกะปิที่เขานำปลามาคลุกเกลือหมักไว้จนกลิ่นตุ ๆ ผึ่งแดดพอแห้ง นำมาตำปั้นเป็นก้อนใส่ถุงขายในร้านเครื่องแกงปักษ์ใต้ในตลาดสด  นำทั้งสองอย่างมาใส่หม้อเติมน้ำต้มให้เดือด ใส่ใบตะไคร้และใบมะกรูดลงไปด้วย  เมื่อเดือดดีแล้วจึงใช้กะชอนกรองเอาแต่น้ำ กากทิ้งไป  จากนั้นนำน้ำแกงมาต้ม เติมน้ำอีกตามสมควร ใส่เครื่องแกงเผ็ดและกะปิกุ้ง  ปลาย่าง มะเขืออ่อนทั้งลูก(ไม่ต้องผ่า)  ข่าทุบ ต้นตะไคร้ทุบ และใบมะกรูด  รอจนเดือด ปรุงเค็มปรุงรสตามชอบ เป็นอันว่าได้แกงไตปลาแบบปักษ์ใต้ดั้งเดิม

วันศุกร์ที่ ๑๙  ธันวาคม  ๒๕๕๑  เช้ามอบหมายงานพิเศษให้ท่านรองฯ ยรรยง  เจริญศรี  ท่านรองฯ นิวัต  กำไลแก้ว ท่านรองฯ สุรจิต สุขกันตะ  และคุณสมศักดิ์  ศักดิ์ทอง ช่วยจัดทำข้อมูลเชิงประจักษ์สำหรับผู้บริหารโรงเรียน  ผม ท่านรองฯโสภณ  จิตมุสิก  คุณสิริรัตน์  จันทร์เจริญยศ และคุณสายใจ  จิรชีพพัฒนา  เดินทางไปโรงเรียนหนองจอกวิทยา เพื่อร่วมงานทำบุญ “หนองจอกวิทยารวมใจ”  โรงเรียนหนองจอกวิทยา เป็นโรงเรียนมัธยมประจำตำบล  อยู่ทางทิศตะวันออกของถนนเพชรเกษม ท่าน ผอ.ร้อง  มะเจี่ยว ได้เชิญผมไปเป็นประธาน  ถึงโรงเรียน ๑๐.๓๐ น. คณะสงฆ์มีพระครูวิสิฐวีรกุล เจ้าคณะอำเภอท่ายาง เจ้าอาวาสวัดหนองจอก เป็นประธานสงฆ์พร้อมแล้ว  จึงเริ่มพิธีสงฆ์  ตักบาตร  ถวายภัตตาหารเพล  รับพรแล้วก็ทำตัวเป็นลูกศิษย์พระ ทานข้าวกลางวันที่โรงเรียน  งานนี้มีผู้บริหารโรงเรียน  กรรมการสถานศึกษา นายก อบต. และผู้ปกครองมาร่วมงานกันมาก  กลางคืนจะมีการแสดงของนักเรียน  บ่ายประชุมคณะกรรมการจัดกรอบอัตรากำลัง เพื่อจัดบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา ๓๘ ค (๒) ลงตำแหน่ง ต่อด้วยคณะกรรมการจัดสรรงบประมาณวัสดุกีฬาโรงเรียนขนาดเล็ก และโรงเรียนกีฬาดีเด่น การจัดสรรคณะกรรมการมีวิธีการ ๒ ขั้นตอน คือ จัดเป็นเงินพื้นฐานเท่ากันทุกโรงเรียนหนึ่งยอด  อีกยอดจะแบ่งตามคุณลักษณะของโรงเรียน เช่น จำนวนนักเรียน ระดับที่ส่งกีฬาเข้าแข่งขันและได้รับรางวัล ใช้เวลาไม่นานนักก็เลิกประชุม ขึ้นไปลงชื่อในแฟ้มเอกสารจนเย็น เก็บเอกสารที่ต้องอ่านเตรียมการประชุมสัปดาห์หน้าขึ้นรถกลับบ้านไปด้วย  ข่าวใหญ่ที่ต้องติดตามในสัปดาห์นี้คือการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเกี่ยวข้องกับมนุษย์เงินเดือนอย่างพวกเรา ฟังแล้วพอจะเชื่อมั่นได้ว่าเมืองเพชรบุรี จะมีรัฐมนตรีอย่างน้อยหนึ่งคน  การที่บ้านเราจะมีรัฐมนตรีย่อมเกิดประโยชน์ทั้งทางตรงและทางอ้อม  ประโยชน์ทางตรงคือการดูแลด้านงบประมาณการพัฒนาจังหวัด ประโยชน์ทางอ้อมคือเราพลอยได้หน้าตาไปกับเขาด้วย เวลาเมืองอื่นเขาคุยเรื่องการบ้านการเมืองเราไม่ต้องนิ่งฟังอย่างเดียว พอจะโม้กับเพื่อนได้บ้างว่าท่านรัฐมนตรีของเราท่านว่าอย่างโน้นอย่างนี้    ก่อนจากไปอ่านเรื่องขำขันบันเทิงใจมาเรื่องหนึ่ง อ่านแล้วก็เบา ๆ สมองดีแม้ไม่ชอบรายละเอียดแต่ชอบชื่อเรื่องมาก  คือเรื่อง  ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง    เรื่องมีอยู่ว่า กระทาชายสามนายมี : คนไทย : คนพม่า : คนอินเดีย ทั้งสามคนเป็นเพื่อนเรียนหนังสือด้วยกัน ซึ่งชายทั้งสามคนทราบถึงประวัติศาสตร์ของประเทศตนเองแต่ก่อนว่า คนไทยไม่ถูกกับพม่า คนอินเดีย ไม่ถูกกับพม่า ทั้งสามคนมักจะคุยเบ่งทับซึ่งกันและกันเสมอเป็นประจำมีอยู่วันหนึ่งชายทั้งสามคนกำลังนั่งคุยกัน เกี่ยวกับบ้านเมืองของตนเองว่ามีสิ่งของแปลก ๆ ที่เมืองคนอื่นไม่มี
**********
อินเดีย : เมืองของฉันนะเป็ดออกไข่เป็นไก่
พม่า+ไทย : มีจริงหรือ ?
อินเดีย : ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงนั่นแหละ !

**********
พม่า : สู้เมืองฉันไม่ได้หรอก เมืองฉันนะไก่ตัวผู้ออกไข่ได้
อินเดีย+ไทย : มีจริงหรือ ?
พม่า : ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงนั่นแหละ !

**********
ไทย : ที่ท่านทั้งสองเล่ามานะไม่เท่าไหร่หรอก เมืองฉันนะผู้หญิงออกลูกทางตู..ด
พม่า+อินเดีย : มีจริงหรือ ?
ไทย : ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียงนั่นแหละ !


ปัญหาที่เกิดในสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต ๒  มีการคาดเดากันไป หลายคนก็สรุปว่า ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง


กำจัด  คงหนู
ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพชรบุรี เขต ๒

 

 

หมายเลขบันทึก: 229844เขียนเมื่อ 16 ธันวาคม 2008 07:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 20:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (9)

อยู่ในสถานการณ์ที่เครียดยังมีนิทานดี ๆ มาเล่าให้ฟังอีก ติดใจคำว่า "ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง"

11. ไม่แสดงตน

เมื่อ จ. 22 ธ.ค. 2551 @ 00:03

1022618 [ลบ]

แต่งเสียสวย เสียเวลา เดี๋ยวก็ย้าย

หมายเหตุ อ่านเจอมาจาก "บ้านชุมเพชร"

พูดให้ชัด ๆ หน่อยซี ว่าใครที่ "ต้องย้าย" หรือ "ถูกย้าย"

เอาหัวใจแห่งความสุขมาฝากนะคะ

  • ตามมาทักทาย
  • ดีใจที่ ผอ  ตอบความคิดเห็นคนอื่นๆๆ
  • มีหลายประเด็นที่น่าศึกษานะครับ
  • มีอะไรพอช่วยได้ยินดีนะครับ
  • ขอบคุณครับ
  • ไปเยี่ยมทองผาภูมิมา
  • เลยเอามาฝาก
  • จำได้ว่าเคยอยู่สังขละบุรี
  • ม. เกษตรศาสตร์ ยินดีต้อนรับนะครับ

เปิดเวบนี้ได้ฟังเพลงในเทศกาลแห่งความรักแล้วทำให้อารมณ์แจ่มใส ขอบคุณท่านผอ.มาก ๆ

ยินดีด้วยค่ะ

ให้พี่น้อง รวย อย่าเจ็บอย่าจน

ชอบ..... ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท