เส้นทางเมี่ยงอม
การเก็บใบเมี่ยง
ใบเมี่ยงควรเก็บใบที่มีลักษณะระยะปานกลาง ไม่อ่อนหรือไม่แก่เกินไป ก้านจะมีสีเหลือง ถ้าก้านมีสีแดง ใบเมี่ยงจะแก่ แต่ให้เหลือไว้ประมาณ ๑-๒ ใบ
การฮอมเมี่ยง หรือมัดเมี่ยง
หลังจากเก็บมาแล้ว ก็จะนำใบเมี่ยงมาฮอม หรือมัดให้สวยงามเพื่อเตรียมนึ่ง โดย ๑ กิโลกรัม จะได้ประมาณ ๕-๖ มัด
การนึ่งเมี่ยง
นำใบเมี่ยงที่มัดแล้ว มาใส่ในไหๆ ละประมาณ ๘๐-๑๐๐มัด (ตามขนาดของไห) ใช้ความร้อนจากไฟ ประมาณ ๑๐๐ องศาเซลเซียล ใช้เวลานึ่ง ๓๐-๔๐ นาที
การผึ่งเมี่ยง
นึ่งแล้ว นำเมี่ยงมาผึ่งให้เย็น ประมาณ ๓๐ นาที และจัดระเบียบกำให้สวยงาม หลังจากนั้น เก็บเรียงในตะกร้าไม้ไผ่ ประมาณ ๒ คืน สังเกตจะมีเชื้อราขาวขึ้น (รากินได้) ราจะทำให้เมี่ยงอ่อนนุ่มน่ากินมากยิ่งขึ้น
การหมักเมี่ยง
การหมักเมี่ยง คนสมัยก่อนจะหมักในบอก (ทำจากไม้) แต่เนื่องจากปัจจุบันหาได้ยาก และการดูแลรักษาค่อนข้างยาก ทำให้คนในปัจจุบันได้ปรับเปลี่ยนมาหมักในโอ่งมังกร
ขั้นตอนการหมัก
๑. ล้างเมี่ยงให้สะอาด
๒. นำพลาสติกปูในโอ่ง
๓. นำเมี่ยงมาเรียงทีละชั้น (นำเกลือและน้ำโรยทุกชั้น พร้อมกดให้แน่น)
๔. นำใบเหมียด (เป็นพืชชนิดหนึ่งมีรสชาติเปรี้ยว) ที่นึ่งแล้วมาเติมให้เต็มโอ่งเพื่อป้องกันอากาศเข้า ซึ่งเป็นสาเหตุให้เกิดเชื้อรา และนอกจากนั้นใบเหมียดจะช่วยให้เมี่ยงมีรสชาติเปรี้ยวขึ้นด้วย
๕. นำพลาสติกหรือใบตองคลุมไว้ ใช้ก้อนหินทับพลาสติกไว้อีกทีหนึ่ง
๖. หมักทิ้งไว้ประมาณ ๑๕ วัน ก็สามารถนำเมี่ยงมาอมได้
**หมายเหตุ: สามารถหมักทิ้งไว้ได้นาน ๑-๒ ปี แต่เมี่ยงจะมีรสชาติเปรี้ยวมาก ข้อแนะนำ คือ ระหว่างที่หมักทิ้งไว้ต้องมีการเปลี่ยนใบเหมียดที่ใช้คลุมข้างหน้าตลอด (หากไม่มีใบเหมียด สามารถใช้ใบส้มป่อง ส้มกบ และส้มปูแทนได้)
การทำเมี่ยงอม
หลังจากหมักได้ที่แล้วก็จะนำเมี่ยงขึ้นมาจากบอกเมี่ยง หรือโอ่งที่หมักไว้ บางคนขายส่งเป็นกำให้กับพ่อค้าแม่ค้าต่างหมู่บ้านที่มารับซื้อถึงบ้าน บางคนก็จะทำเป็นเมี่ยงอมขายถุงละประมาณ ๑๐ บาท และโดยส่วนใหญ่ทุกบ้านก็จะมีเมี่ยงอมไว้ประจำบ้าน เพื่อไว้ต้อนรับแขกที่ไปมาหาสู่กัน นอกจากนั้นในงานบุญต่างๆ เมี่ยงอมก็จะเป็นหนึ่งในเมนูของว่างที่ขาดไม่ได้เลย ประเภทของเมี่ยงอมที่มักจะทำกัน เช่น เมี่ยงหมี่ เมี่ยงเค็ม เมี่ยงหวาน ส่วนไส้เมี่ยงที่นิยมกันจะมีทั้งเกลือ น้ำตาล ขิง หมี่ มะกอก จะแยกหรือผสมกันก็ได้แล้วแต่ความนิยมชมชอบ
ถ้าจะนับว่า เมี่ยง เป็นหนึ่งในวัฒนธรรมการกินอยู่ของคนพื้นเมืองทางภาคเหนือก็คงนับได้ เป็นของกินเล่นขบเคี้ยวหลังอาหาร อมแก้ง่วงได้ดีไม่แพ้กาแฟ และไม่เสพติดอย่างบุหรี่
การพันเมี่ยงให้เป็นอม เมี่ยงอม
ขอขอบพระคุณผู้ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล และรูปภาพ
- แกนนำศูนย์บริการท่องเที่ยวเชิงเกษตร ตำบลเรือง
- นางวริญญา นรินทร์ เจ้าพนักงานธุรการ2 อบต.เรือง
- นายคัทธราวุธ สนิทศรี ผู้ช่วยช่างโยธา อบต.เรือง
สวนเมี่ยง => ป่าเมี่ยง
วิถีการผลิตของชุมชนที่สอดคล้องกลมกลืนกับธรรมชาติ
เคยไปแถวอ.แม่ลาว เชียงราย กับอ.เชียงดาว เชียงใหม่
ถ้าไม่สังเกตให้ดีจะไม่รู้เลยว่านั่นคือสวนเมี่ยงของชาวบ้าน
คิดว่าเป็นป่าธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์อยู่