ชีวิตที่ขาด Online Social Network ไม่ได้


มาช่วยกันดูครับว่า Online Social Network อย่างเช่น Hi5 เข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตประจำวันของวัยรุ่นอย่างเราได้อย่างไร

ทุกวันนี้เวลาผมเปิดคอมพิวเตอร์เพื่อใช้งานอินเตอร์เน็ต นอกจากจะเช็ค E-Mail และอ่านข่าวตาม Blog ต่างๆ แล้ว สิ่งหนึ่งที่เพิ่มขึ้นมาราวกับเป็นกิจวัตรประจำวันที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การเปิดดู Hi5 (http://www.hi5.com) ของตัวเอง เพื่อที่จะดูว่า วันนี้มีใครมาเม้นต์ (Comment) เราบ้าง แล้วก็จะตามไปเม้นต์ตอบให้คนโน้นคนนี้ต่อ ผมใช้เวลากับ Hi5 ประมาณ 5-10 นาทีต่อครั้ง ...และในวันๆ หนึ่งผมก็เปิดดูมันหลายครั้งเสียด้วย จนรู้สึกว่าผมกำลังจะเป็นวัยรุ่น ม.ปลาย หรืออย่างไร (555)

ผมจำได้ว่า Hi5 มีมานานมากแล้ว เมื่อก่อนเวลาเช็ค E-Mail จะมีส่งมาจาก Hi5 ประจำ เช่น xxxx invite you to join hi5 อะไรประมาณนี้ ซึ่งเมื่อก่อน Hi5 ไม่ดังนะครับ แต่พอประมาณปีสองปีที่ผ่านมา คนไทยปลุกกระแส Hi5 ขึ้นมาจนแพร่หลายและเล่นกันทั่วบ้านทั่วเมือง แม้แต่นักการเมืองชื่อดัง ดารา หรือผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการต่างๆ ก็ยังมี Hi5 เป็นของตัวเองกันถ้วนหน้า อืม...แล้ว Hi5 มันมีข้อดียังไงละ

จริงๆ แล้ว Hi5 ถือเป็นระบบ Online Social Network อันหนึ่ง ซึ่งในระดับโลกนั้นมีอีกหลายเจ้าที่ดังๆ และคนเล่นเยอะๆ อย่างที่ขึ้นชื่อมากๆ เลยก็คือ Facebook (http://www.facebook.com) ผมเคยอ่านเจอใน Blog ไหนสักแห่ง เขาบอกว่า Facebook นี่ดังมากในต่างประเทศ เพราะมันเริ่มมาจากเครือข่ายของพวกนักศึกษาตาม U ต่างๆ ที่ใช้ติดต่อหาเพื่อนเก่าและเพื่อนใหม่ มันดังจนกระทั่งทำให้ Mark Zuckerberg ผู้สร้าง Facebook กลายเป็น CEO ที่รวยกระฉูดตั้งแต่อายุยังน้อย (หนังสือแนวๆ คู่สร้างคู่สมชอบเอาเรื่องแนวนี้ไปลงอยู่บ่อยๆ) แต่ในทางกลับกัน Hi5 ในต่างประเทศที่อยู่อันดับท้ายๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเล่นกัน ซึ่งผมก็คิดเองว่า Hi5 มีข้อด้อยหลายๆ อย่างเมื่อเทียบกับตัวดังอย่าง Facebook เช่น

- ความเรียบง่ายในการใช้งาน

- ความเสถียรของระบบ (เคยเม้นต์แล้วไม่ติดมั้ยครับ)

- ความปลอดภัยของระบบ (เช่น ถั่วด๋อย)

- Interface ก็น่าจะมีผลด้วยแหละ

แต่ทำไมในประเทศไทย Hi5 จึงยึดหัวหาดได้ทั่วถึงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ? นี่เป็นคำถามซึ่งผมก็อยากรู้เหมือนกันครับ แต่เอาเป็นว่าในบทความนี้จะไม่ขอพูดถึงในส่วนที่ว่าละกัน ประเด็นที่ผมอยากจะบอกในวันนี้ก็คือ ทำไม Online Social Network ถึงมีผลกับชีวิตเราจนทำให้เรามากมายขนาดที่ว่า :

- เวลา Online MSN แล้วมีข้อความว่า มี E-Mail จาก Hi5 ไม่ว่าจะทำงานอะไรอยู่ก็จะหยุดและรีบไปเปิดดูก่อน

- เวลามีคนมาเม้นต์ (Comment) เราแล้วส่วนใหญ่เราต้องไปตอบ

- นักเรียนนักศึกษารุ่นใหม่ๆ ใช้ CSS แต่ง Skin Hi5 เป็นก่อนที่จะใช้ Microsoft Word เป็นซะอีก

- เวลาแนะนำตัวกับใครต้องบอก URL Hi5 ของเราไปด้วย

- แลยังมีเหตุผลอื่นๆ อีกมากมายที่นึกไม่ออกแต่คุ้นตาอยู่

โดยพื้นฐานแล้ว มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่ต้องการสังคมนะครับ การที่มีคนรับรู้ว่าเรามีตัวตนอยู่นั้นเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตเรายังคงดำเนินต่อไปได้อย่างปกติสุข ไม่ว่าคนๆ นั้นจะรักสันโดษเพียงใดก็ตามแต่ แต่อย่างน้อยก็อยู่คนเดียวในโลกไม่ได้ โดยสัญชาติญาณบางทีเราอาจจะอยากให้มีใครๆ รับรู้ในสิ่งที่เป็นเรา และสิ่งต่างๆ ที่เกี่ยวกับเราก็เป็นได้

เมื่อ Life Style ของคนปรับเปลี่ยนมาสู่สังคมออนไลน์ที่มีอินเตอร์เน็ตเป็นส่วนเชื่อมต่อ การแสดงตัวตนก็สามารถทำได้ง่ายขึ้น การติดต่อสื่อสารระหว่างกันและกันเป็นไปอย่างสะดวกง่ายดายและรวดเร็ว คนเราก็เลยเริ่มกล้าที่จะแสดงตัวตนของตัวเองออกมามากขึ้น (อินเตอร์เน็ตเป็นสื่อกลางที่คล้ายกับโทรศัพท์ เพราะผู้ติดต่อสามารถติดต่อกันได้ไม่ต้องเจอหน้ากัน) ซึ่งตรงนี้เองละมั้งครับที่ทำให้เราต้องการเครื่องไม้เครื่องมือในการสร้างข้อมูลที่ช่วยให้ตัวตนของเราได้ปรากฏในโลกอินเตอร์เน็ตอันกว้างใหญ่นี้ ในสมัยก่อนถ้าเป็นคนที่พอเล่นคอมฯ เก่งๆ หน่อยก็จะทำ Homepage ของตัวเองกัน แต่ในปัจจุบัน Tools ต่างๆ ที่อำนวยความสะดวกให้ง่ายขึ้นอย่างเช่น Webboard, Blog ก็ทำให้การสร้างข้อมูลตัวตนของคนเราง่ายขึ้นไปอีก จนกระทั่งมาถึงยุคของ Microblog และ Online Social Network ที่ตอบโจทย์นี้ได้ตรงใจคนมากที่สุดครับ

ผมมองว่า จุดเด่นของ Online Social Network ไม่ได้อยู่ที่กระบวนการหาเพื่อน เช่น การส่ง E-Mail ไป Invite คนโน้นคนนี้ที่อยู่ใน Contact List ของเรา หรือการที่เพื่อนของเพื่อนของเพื่อนๆๆๆ ที่อยู่ใน Contact เราจะเป็นเพื่อนเก่าเพื่อนแก่ในอดีตที่ได้มาเจอกันอีกครั้ง ..ผมคิดว่าส่วนสำคัญของมันน่าจะเป็น การที่มีเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกในการสร้าง Profile ของเราเองในระบบของมันมากกว่า เหมือนอย่างที่ Hi5 เมื่อก่อนที่ไม่ค่อยมีอะไรมากมายนัก ต่อมาก็เริ่มมีการพัฒนา เพิ่มของเล่นเข้าไปเช่น Application (อันนี้ Hi5 ทำทีหลัง Facebook อยู่นานโข) หรืออย่างล่าสุดก็คือ What are you doing ? (หรือ Scrapbook เดิม) ที่ดูยังไงก็เหมือนกับเอาแนวทางของ Microblog อย่าง Twitter หรือ Noknok มาใช้เห็นๆ .. เครื่องมือเหล่านี้ช่วยให้การแสดงตัวตน หรือการเพิ่มความละเอียดอ่อนให้กับ Profile ของเราทำได้ดีขึ้นและละเอียดมากขึ้น --- เพื่อบอกในสิ่งที่เป็นเราให้ชัดเจนขึ้น ครับ

สุดท้ายขออนุญาตสรุปเลยละกันนะครับ ว่า ไม่ว่าจะเป็น Hi5 หรือ Facebook หรืออื่นๆ แต่สิ่งที่ Online Social Network ได้มอบให้กับผู้อยู่บนโลกอินเตอร์เน็ตที่ไม่มีชีวิตอย่างเราๆ ก็คือ การที่ทำให้เรารู้สึกว่า เราไม่ได้อยู่อย่างโดดเดี่ยว และยังมีคนอื่นๆ ที่ยังรับรู้ถึงการมีตัวตนของเรานั่นเองครับ

ขอตัวไปเม้นต์ก่อนนะครับ เหอๆๆๆๆ

คำสำคัญ (Tags): #hi5#social network
หมายเลขบันทึก: 226385เขียนเมื่อ 30 พฤศจิกายน 2008 15:03 น. ()แก้ไขเมื่อ 29 พฤษภาคม 2012 20:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

แล้วเจ้าhi-5 , space ,อื่นๆอีกมากมาย มันต่างยังไงกับ gotoknow อันนี้ครับ

รบกวนขอความรู้หน่อยครับ

555 สาวก SN นะครับเนี้ย ^^ คาดว่า ไม่นานเกินรอนี้ อาจจะลามขึ้นไปผูกติดกับอุปกรณ์เคลื่อนที่หลายๆ อย่าง ๆ นะครับ อย่างเช่น Mobile เป็นต้น

ในอารมณ์ ที่อยากบอกให้โลกรับรู้วาเราคิดอะไร http://twittervision.com/ <== ลองเข้าไปดูนะครับเจ๊งดี

Say Something To WOrld ??

และถ้าตอนนี้ คุยอยากจะบอกให้คนทั้งโลกรับร้คุณจะบอกว่าอะไรครับ ???

ตอบคุณ พูนชัย ครับ

คือผมคิดว่าน่าจะแบ่ง Social Network กับ Blog เป็นคนละกลุ่มกันน่ะครับ

Blog : ก็อย่าง Gotoknow นี่แหละครับ ที่อื่นๆ ก็พวก Windows Live Space (http://spaces.live.com), Blogger (http://www.blogger.com), Wordpress (http://www.wordpress.com) หรืออย่างของไทยก็ Exteen (http://www.exteen.com) ครับ

Microblog : ก็เป็นรูปแบบการนำ Blog ไปใช้เพื่อจุดประสงค์อีกแบบครับ เน้นเขียนข้อความสั้นๆ ก็เลยถูกใช้เป็นเครื่องมือแสดงตัวตนอีกอันหนึ่งได้ อย่างเช่น Twitter (http://www.twitter.com) ของไทยก็มี Noknok (http://www.noknok.in.th) ครับ

Social Network : อย่างเช่น Myspace (http://www.myspace.com),Hi5 (http://www.hi5.com), Facebook (http://www.facebook.com) พวกนี้จะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกในการสร้าง Profile แสดงตัวตน และการ Import Contact หรือ Invite ผู้ใช้อื่นๆ เพื่อสร้างสังคมร่วมกันครับ

ที่แบ่งๆ มานี่คืออาศัยอ่านจากตามเว็บต่างๆ + คิดเองนะครับ อาจจะเชื่อถือไม่ค่อยได้เท่าไร 5555

น่าสนใจดีครับ

แต่ผมว่าชีวิตออนไลน์ก็ยังเป็นแค่ส่วนหนึ่งของชีวิตจริงอยู่ดี

ถึงจะ Blog หรือ SNS มันก็ Social network เหมือนกัน ลองแปลดูสิครับ "เครือข่ายเชิงสังคม" ทั้งหมดคือเทคโนโลยีที่เราจะนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร จะดีจะร้ายก็ขึ้นอยู่ที่คนใช้แหละครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท