ฉบับที่ ๕ ความหลังยังมีที่เมลเบิร์น


เมืองที่แสนรื่นรมย์

ฉบับที่ ๕  ความหลังยังมีที่เมลเบิร์น

๑๗   เมษายน  ๒๕๔๔

            เมลเบิร์นเป็นเมืองใหญ่อันดับ ๒ รองจากซิดนีย์  แต่อยู่ในรัฐวิกตอเรีย รัฐที่เล็กที่สุดของออสเตรเลีย เป็นเมืองที่แสนรื่นรมย์ที่สุดสำหรับผม ส่วนความรื่นรมย์ของกานต์อยู่ที่แคนเบอร์ร่า เมืองหลวงแห่งใหม่ มิใช่เมลเบิร์น เมืองหลวงเก่าก่อนแห่งนี้  กานต์ชอบความเป็นระเบียบ เมืองที่วางแผนเป็นสัดส่วน เหมือนดั่งที่แคนเบอร์ร่า  ส่วนผม  ชอบความอิสระ มีความงดงามของทิวไม้กระจายขึ้นครึ้มทั้งสองฝั่งริมทาง  ผมอยากเป็นเช่นนกน้อยเสรี เกาะพุ่มไม้โน่นและกิ่งนี้

            กานต์กับผมแตกต่างกันจริง ๆ แต่สิ่งที่เรามีเหมือนกัน คือ เราต่างไม่ชอบซิดนีย์เมืองที่เก่าแก่และทันสมัยที่สุด

            อากาศลดลงจากวันก่อนจนผมต้องต้องหยิบเอาเสื้อคลุมตัวเก่าตัวนั้นมาสวมใส่  อาจเป็นเพราะเมลเบิร์น เป็นเมืองที่อยู่ทางตอนใต้ของทวีป  อากาศจึงเย็นกว่าที่อื่น ๆ ในออสเตรเลีย

            ผมมุ่งหน้าสู่เส้นทางสายทองคำ  ที่เมืองบัลลารัต

            เมลเบิร์นน่าจะสงบกว่านี้นะกานต์  หากว่าในปี ค.ศ. ๑๘๕๑ จะไม่มีการค้นพบทองคำครั้งใหญ่ ซึ่งเป็นสาเหตุให้ผู้คนจากอังกฤษและยุโรปพากันมาแสวงโชค  เมืองบัลลารัต นี้ห่างจากเมลเบิร์นเพียง ๑๑๒ กิโลเมตร บนเส้นทางเวสเทิร์นไฮเวร์ และสาเหตุจากทองคำนี้เอง ที่ทำให้เกิดการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลกับชนชาวเหมือง ในปี ๑๘๕๔ เป็นสงครามในเมืองเพียงครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของชาวออสเตรเลีย ที่เรียกกันว่า  Blood  on  the Southen  Cross ผลจากการปะทะกันในครั้งนั้น  ชาวเหมืองเสียชีวิต ๒๔ คนและเป็น ทหาร ๖ นาย  กานต์คุณดุสิ ความโลภทำลายคนเสมอ

            ผมได้ข้าชม  เซอร์เวอรีน  ฮิลล์ ซึ่งจำลองอาคารบ้านเรือนและเหมืองร่อนทอง ในสมัย ๑๘๗๕  ดูกานต์ตื่นเต้นมาก  เมื่อมาที่นี่เมื่อสองปีก่อน  กานต์บอกว่า เป็นเมืองที่แสนสวยงามและน่าตื่นเต้น ผมบอกว่า ผมได้เห็นสิ่งที่ฉาบปลอมอยู่บนโฉมหน้าเมืองจำลองแห่งนี้ อย่างน้อยมันก็ดึงเงินในกระเป๋าของผมถึง  ๑๙.๕๐ เหรียญ

            กานต์ตื่นเต้นไปกับบ้านเรือนอาคารแบบเก่า  ผู้คนแต่งตัวโบราณ ตื่นเต้นกับพิพิธภัณฑ์และเหมืองทองที่ลงเยี่ยมชม  ส่วนผมไม่ใช่ ผมเห็นสิ่งปรุงแต่งมากมายในสายตา  แม้แต่เกล็ดทองที่กานต์ร่อนได้  กานต์ดีใจอย่างลิงโลด แต่กานต์ก็รู้ว่าผมไม่สามารถยอมรับกับการถูกหลอกลวงได้ ไม่ว่าในวันนั้นหรือในวันนี้

            ค่ำคืนนี้  ผมจะไปยังเกาะฟิลิป ไปดูเจ้าตัวน้อย สัตว์ที่กานต์ชื่นชอบเป็นพิเศษ เจ้านกน้อยเพนกวิน

            ระหว่างทาง  ผมแวะซื้อแอปเปิลมาหอบใหญ่  แอปเปิลหวานกรอบ  จนผมปรารถนาให้แอปเปิลที่ผมได้กัดกินในวันนี้  เป็นแอปเปิลพิษของแม่เลี้ยงใจร้ายที่ยื่นให้สาวน้อยสโนไวท์กิน ซึ่งก็คงจะทำให้  ผมได้หลับใหลอย่างมีความสุขถาวร

            Phillip  Island  ห่างจากเมลเบิร์นไปทางตะวันออกเฉียงใต้  ราว ๑๓๗  กิโลเมตร จุดชมนกเพนกวินจะอยู่ที่ชายหาด Summerland ซึ่งจะเป็นบริเวณที่เจ้านกเพนกวินว่ายน้ำเข้าฝั่ง เพื่อกลับสู่รังในค่ำคืน   นกเพนกวินที่มาทำรังอยู่ในบริเวณนี้ เรียกว่า เพนกวินนางฟ้า Fairy Penqrin

เป็นนกเพนกวินที่ตัวเล็กที่สุดในบรรดานกเพนกวินทั้งหมด  มันจะออกหากินตั้งแต่เช้ามืด โดยว่ายน้ำออกไปในทะเลและจะกลับมาที่รังเมืออาทิตย์ตกดิน

            วันนี้ผมยึดที่นั่งบนหาดทรายแถวหน้าสุดท่ามกลางผู้คนนับพัน  ยังไงวันนี้ผมจะต้องเฝ้าดูเพนกวินให้ได้  เพราะผมทราบดีว่านี่อาจจะเป็นครั้งสุดท้ายของผม เวลาผ่านไปค่อนข้างยาวนาน ควรที่จะเบื่อหน่าย ทว่าบรรยากาศรอบข้าง หาดทรายเบื้องหน้าและแสงไฟที่กระทบกับเกลียวคลื่นพร้อมสายลมเอื่อยเย็น เป็นความสุขที่หาได้ยากยิ่งสำหรับมนุษยโลกเช่นเรา และไม่นานฝูงเพนกวินนางฟ้าก็แหวกคลื่นขึ้นมา เดินเตาะแตะเข้าหาฝั่ง มันยังคงเดินเซไปเซมาเหมือนเดิม  ซึ่งกานต์บอกว่าเหมือนเด็กทารกเพิ่งหัดเดิน เพนกวินพันธ์นี้ มีความสูงเพียง ๑ ฟุต

            ผมได้มาทักทาย สัตว์ตัวน้อยที่กานต์สุดแสนรักแล้วในวันนี้

ผมทำทุกอย่างเพื่อกานต์   พรุ่งนี้ผมจะไปที่อุทยานแห่งรัฐ และจบชีวิตรักของเราที่นั่น

                        สายใยแห่งรักเรา...ใกล้ขาดลง

                        อภิษฐา

หมายเลขบันทึก: 226172เขียนเมื่อ 29 พฤศจิกายน 2008 07:18 น. ()แก้ไขเมื่อ 27 เมษายน 2012 17:10 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท