คุณลองดูภาพนี้ แล้วลองอธิบายว่า เป็นภาพอะไร หลายคน (รวมทั้งผมด้วย) ต้องบอกว่ามันเป็นวงเส้นขาวดำพันกันเป็นเกลียว สไปรอล สู่จุดศูนย์กลาง เรียกว่า Fraser Spiral ซึ่งค้นพบโดยนักจิตวิทยาชาวอังกฤษชื่อ James Fraser ในปี 1908 แต่ความจริงแล้วภาพนี้คือ วงกลมหลายๆขนาดซ้อนกันโดยมีจุดศูนย์กลางร่วมกัน มันไม่ใช่วงเกลียวอย่างที่ประสาทตารับรู้ ถ้าไม่เชื่อก็ลองเอานิ้วชี้บนเส้นของวงกลมวงใดวงหนึ่งที่ภาพหน้าจอ แล้วใช้อีกนิ้วลากจากจุดนั้นไปเรื่อยในที่สุดมันจะมาบรรจบครบรอบที่นิ้วแรกชี้อยู่
ภาพต่อไปคือ
6. ประสาทตา น่าจะถูกลวงด้วยภาพนี้ จะเห็นว่า เส้นแนวนอนโค้งเอียงไปมา แต่ความจริง คือเส้นแนวนอนทุกเส้นในภาพนี้ขนานกัน ภาพลวงตานี้เรียกว่า cafe wall illusion ค้นพบโดย Dr. Richard Gregory ขณะที่มองที่ผนังกระเบื้องร้านกาแฟในเมือง บริสตอล ภาพนี้จะลวงเฉพาะเมื่อแต่ละแผ่นสี่เหลี่ยมเล็กๆมีเส้นกรอบในที่นี้ คือเส้นสีเทา คลิกเปิดดูภาพ
7. สีแดงในภาพต่อไปนี้ มีระดับความเข้มเท่ากัน แต่ถ้ามีพื้นเป็นสีเข้มจะดูจางกว่า ถ้ามีพื้นมีสีเข้ม เรียกว่า Bezold effect ตามชื่อของ ศ. Wilhelm von Bezole ผู้ค้นพบ คลิกเปิดดูภาพ
8. วงกลมสีส้มตรงกลางเท่ากัน เมื่ออยู่ในท่ามกลางวงกลมใหญ่มันจะดูเล็กลง แต่ถ้ามันอยู่ท่ามกลางวงกลมเล็กอื่นๆ มันจะดูใหญ่ ดังนั้นมันจะรับรู้โดยขนาดสัมพัทธ์ว่า วงด้านซ้ายใหญ่กว่าทางด้านขวา แต่ถ้าคุณวัดจากหน้าจอจะรู้ว่าจริงมันเท่ากัน เรียกว่า Ebbinghaus illusion คลิกเปิดดูภาพ
9. ภาพนี้ ประสาทตาสามารถบอกได้ว่า โดยรวมๆ เป็นภาพของรูปทรงเหลี่ยมลูกบาศ์ก แต่จริงๆถ้ามององค์ประกอบบางชิ้นจะบอกไม่ได้ว่าชิ้นไหนอยู่หน้า ชิ้นไหนอยู่หลัง คลิกเปิดดูภาพ
10. ในภาพนี้เส้นตามยาว ขนานกันหรือไม่ การทีมีเส้นตั้งเล็กๆเอียงทำมุมอยู่ ทำให้มองเห็นราวกับว่า ไม่ขนานกัน คลิกเปิดดูภาพ
ภาพลวงตาเหล่านี้ จริงๆถูกนำมาประยุกต์ใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน เช่นที่รู้ๆกัน คือ การเลือกเสื้อผ้าลายแนวตั้งหรือแนวนอนสำหรับ ให้ดูออกเพรียวหรือดูท้วมสุขสมบูรณ์ สีเข้มหรือสีอ่อน ลายดอกขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก ก็เป็นศิลปะของการแต่งกาย ที่สามารถซ่อนรูปร่างที่แท้จริง ให้ดูสวยงาม รวมทั้งใช้กับงานสถาปัตยกรรมและการออกแบบ (รายละเอียดต้องปรึกษาสถาปนิกและนักออกแบบครับ)
มาชมภาพลวงตาต่อครับ
ภาพนี้ละครับ สมองบอกคุณว่า มันมีการเคลื่อนที่ภายในภาพ
แต่จริงๆมันเป็นภาพนิ่งครับ
ภาพต่อไปนี้ ประสาทตาจะบอกว่า รูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทาเล็กๆทางซ้ายมือ เป็นสีเทาอ่อนกว่ารูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าสีเทาด้านขวามือ คุณเชื่อหรือไม่ว่า ความเป็นจริงคือ สีเทาทั้งหมดในภาพนี้ทั้งหมดมีเฉดสีเทาเท่ากัน ถ้าสีเทาบนพื้นสีดำมันจะดูสว่าง ขณะที่สีเทาบนพื้นสีขาวใกล้ๆกันจะถูกเปรียบเทียบและรับรู้ว่ามันเข้มกว่า เรียกว่า white's illusion
11. ภาพ A และ B
นี้มีขนาดเท่ากันหรือไม่
คลิกดูภาพ
ภาพนี้จริงๆแล้วเท่ากันครับ
ลองหาเชือกอะไรก็ได้มาวัดดูครับ ค้นพบโดยนักจิตวิทยาชาวอเมริกัน ปี
1889 ชื่อ Joseph Jastrow ดังนั้นจึงเรียกภาพนี้ว่า Jastrow
illusion
12. ดูภาพทางซ้าย คุณคิดว่าส่วนล่างของเส้นสีดำเป็นเส้นสีแดงหรือน้ำเงิน(ในกรณีผมว่าสีแดง) แต่เขาว่าคนทั่วไปจะบอกว่าเป็นสีน้ำเงิน เรียกว่า Poggendorff illusion ค้นพบโดย Johann Poggendorff, 1860 คลิกดูภาพ
Reference and more illusions
(อ้างอิงของทั้ง 3 parts เป็นภาพลวง 20 อันดับแรก ผมนำมาไม่หมดขาดไม่กี่ภาพ ลองแวะไปที่เว็บของหนังสือพิมพ์เทเลกราฟครับ)
http://www.telegraph.co.uk/news/newstopics/howaboutthat/3520448/Optical-Illusions---the-top-20.html?
เคยเห็นมาบ้างค่ะแต่ส่วนใหญ่จะไม่มีคำอธิบายภาพ
เมื่อู้ที่มาแบบนี้แล้วรู้สึกเข้าใจมาขึ้นเยอะเลยค่ะ
มันทำให้จำง่ายดี
ผู้ที่สนใจอื่นๆอีกสามารถหาได้ทั่วไปตามห้างสรรพสินค้า..เอ้ยไม่ใช่ค่ะ
เพียงแค่พิมพ์ว่า ภาพลวงตา หรือ ภาพสามมิติ ในเวบยอดฮิต กูเกิล
มันจะออกมาสองกรณีค่ะ
คือเป็นรูปภาพที่วาดอย่างอื่นแล้วออกมาในสิ่งที่เราเคยมีประสบการณ์พบเจอมาแล้วเราจะคิดว่าเป็นแบบนั้น
และอีกอย่างคือภาพแบบที่ คุณพันคำ ได้เสนอมาค่ะ
ขอให้มีความสุขกับการเรียนรู้นะคะ
ขอบคุณครับ ภาพชุดนี้อยู่ใน 20 อันดับแรก จากหนังสือพิมพ์ The Telegraph ภาพอื่นๆคงจะอยู่ในลำดับยอดนิยมถัดๆไป ก็คงสำหรับผู้สนใจเฉพาะทาง