เทคนิคการทำข้อสอบภาษาอังกฤษให้ได้คะแนนดีขึ้นเรื่อยๆ


วันนี้พี่วั้นได้รับข่าวดีทางโทรศัพท์ จากการสอบที่ตัวเองก็ลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่า เป็นการสอบที่เขามีรางวัลกันด้วย ฟังลูกเล่าแล้วก็นึกขำไปด้วยว่า คงจะไม่มีใครถามกลับคนโทรมาแจ้งแบบที่พี่วั้นถามแน่ๆ เพราะลูกถามไปว่า "เขาตรวจข้อสอบผิดไหมครับ" เพราะการสอบครั้งนี้นั้นทุลักทุเลมากสำหรับพี่วั้น จนกระทั่งไม่ได้คิดจะติดตามดูผลเอาเสียเลย พี่ที่โทรมาแจ้งบอกว่าประกาศทางเว็บไซต์มาหลายวันแล้วด้วย

ได้ยินพี่วั้นพูดบ่อยๆว่า มันฟลุ้คนะแม่ แต่พอฟลุ้คบ่อยๆนี่คุณแม่ก็เลยต้องถามวิธีการของลูกดูซิ เผื่อจะเป็นประโยชน์กับคนอื่นบ้าง เห็นลูกไปสอบอะไรที่ไหนทีไรก็ไม่ได้เคร่งเครียดมากมาย ดูจะสนุกกับการไปเรียนรู้ข้อสอบเสียมากกว่า แต่สิ่งที่เห็นสม่ำเสมอก็คือ พี่วั้นขยันอ่านมากๆ หนังสือหนังหาที่ขอซื้อทั้งหลายนั้น ดูเหมือนจะไม่เคยต้องเสียดายเงินเลย เพราะพี่วั้นอ่านจนหมด และอ่านเป็นประจำ ไม่เคยไปเรียนพิเศษอะไรที่ไหน อันนี้น่าจะเป็นเทคนิคพื้นฐานที่ทุกคนคงต้องสร้างให้ตัวเอง และเวลาเขาสงสัยเรื่องอะไร จะสอบอะไรที่ไหน เขาจะปรึกษาคุณครูให้ช่วยเก็งข้อสอบ พี่วั้นบอกว่า คุณครูจะยินดีช่วยเสมอหากเด็กๆเข้าไปปรึกษา เพียงแต่เด็กๆไม่คิดถึงเรื่องนี้เอง

สำหรับวิชาภาษาอังกฤษ ที่แม้ว่าพี่วั้นจะมีต้นทุนดีอยู่แล้ว แต่ก็มีจุดอ่อน ซึ่งวิธีการที่พี่วั้นเล่าให้ฟังเป็นสิ่งที่คุณแม่เองก็เคยสังเกตเห็นและได้ช่วยแนะนำหลานมาแล้ว คิดว่าน่าจะเอามาเล่าสู่กันฟัง นั่นคือ

ให้ตรวจสอบดูว่า คำถามแบบไหนที่เรามักจะทำผิดเป็นประจำ จะเห็นได้ว่าพวกเราส่วนใหญ่ เวลาสอบภาษาอังกฤษ ไม่ว่ากี่ครั้งๆคะแนนก็จะดีขึ้นจากเดิมเล็กน้อยเท่านั้น เพราะฉะนั้นการกลับไปวิเคราะห์ดูว่า เราทำผิดซ้ำๆในเรื่องอะไร แล้วทำความเข้าใจกับจุดนั้นๆ หาข้อสอบแบบที่เป็นจุดอ่อนของเรามาทำให้มากๆ จนกระทั่งเราไม่ผิดในเรื่องนั้นๆอีก

วิธีนี้คุณแม่เคยใช้กับหลาน ให้เขาทำข้อสอบภาษาอังกฤษ 3-4 ชุด แล้วพอเราเอามาดูจะเห็นจุดที่เขาผิดซ้ำๆบางจุดที่แก้ได้ทันที พอเราอธิบายให้เขาเห็นว่า ผิดอะไร ที่ถูกควรเป็นอย่างๆไร ครั้งต่อๆมาเขาก็ลบจุดอ่อนในเรื่องนี้ไปได้ หากเราทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ โอกาสที่คะแนนจะดีขึ้นๆก็จะเป็นไปได้แน่นอน สมัยนี้หาข้อสอบภาษาอังกฤษพร้อมเฉลยได้เยอะแยะมากมาย นอกจากทำแล้ว ลองหัดกลับไปตรวจดูแบบนี้แล้วพัฒนาสิ่งที่เราอ่อนทีละจุด รับรองว่าจะมีจุดอ่อนมากมายที่สามารถแก้ได้ค่ะ สอบครั้งใหม่ก็จะต้องได้คะแนนดีขึ้นๆแน่นอน

หมายเลขบันทึก: 224204เขียนเมื่อ 19 พฤศจิกายน 2008 23:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 03:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)

ดีจังค่ะ เป็นเทคนิคที่ดีมากๆ เลย

มาชื่นชมน้องวั้นค่ะ ได้ที่สิบสองของประเทศ ที่หนึ่งของภาคใต้ เป็นปลื้มแทนคุณแม่โอ๋จริง ๆ ค่ะ แค่น้องเจนเป็นที่หนึ่งของห้อง อักษรก็ปลื้มแย่แล้ว ไม่รู้ว่าน้องวั้นเก่งเพราะตัวเขาเอง หรือเพราะเป็นลูกคุณแม่โอ๋ หรือเพราะทั้งสองอย่าง เขาเก่งบวกกับคุณแม่ให้โอกาสและการสนับสนุน

แวะมาอ่าน  ขอบคุณค่ะ

มีแต่สิ่งดีๆนะคะ

  • ยินดีด้วยครับ
  • คุณแม่เก่งครับ
  • ลูกไม้หล่นไม่ไกลต้นครับ
  • ขอบคุณครับ

+ ยินดีด้วยค่ะพี่วั้น...

+ แบบพี่วั้นนี่เรียกว่า ดี มีสุข และเก่งค่ะ...

+ น้าอ๋อยภูมิใจในตัวพี่วั้นและแม่โอ๋มากค่ะ...เพราะเป็นคนดี มีสุข และเก่ง กันทั้งคู่เลยค่ะ...

+ ยินดีด้วยค่ะ....

น่าสนใจมาก จะนำมาปรับใช้ครับ

ดีใจที่คุณ mono กับคุณ ปรีดิ์ผาติ ที่ชอบเทคนิคนี้นะคะ ฟังลูกเล่าแล้วก็เห็นดีค่ะเลยอยากบอกต่อ

ขอบคุณ คุณอักษรP คุณ@..สายธาร..@ คุณป้อม น้องอ๋อย แอมแปร์~natadee แทนพี่วั้นนะคะ พี่โอ๋ก็ดีใจที่ลูกเก่ง (ทั้งๆที่เขาเองก็ยังแปลกใจอยู่ว่า ผลออกมาดีอย่างนี้ได้ยังไง เพราะตอนไปสอบขลุกขลักมาก และเขาทำข้อสอบทั้งหมดภายในวันเดียวก่อนเพื่อนๆคนอื่นที่สอบพร้อมๆกันถึง 2-3 วัน)

น้องเจนเก่งจังค่ะ คุณอักษร เป็นที่หนึ่งของห้องเนี่ย แล้วต้องให้เพื่อนๆรักด้วยนะคะ เพราะพี่วั้นจะได้รับความชื่นชมจากแม่โอ๋มากกว่าเวลาที่เขาช่วยเพื่อนๆ แข่งกันดีมีความสุขกว่าแข่งกันเก่งแน่นอนค่ะ 

มาชื่นชมน้องวั้นค่ะ ได้ที่สิบสองของประเทศ ที่หนึ่งของภาคใต้ เป็นปลื้มแทนคุณแม่โอ๋จริง ๆ ค่ะ แค่น้องเจนเป็นที่หนึ่งของห้อง อักษรก็ปลื้มแย่แล้ว ไม่รู้ว่าน้องวั้นเก่งเพราะตัวเขาเอง หรือเพราะเป็นลูกคุณแม่โอ๋ หรือเพราะทั้งสองอย่าง เขาเก่งบวกกับคุณแม่ให้โอกาสและการสนับสนุน(จาก คคห ที่สอง)

ยินดีด้วยค่ะ คนเป็นแม่มีความสุขก็ที่ลูก นะคะ

(ขอแอบเล่าบ้าง)  วันไปรับลูก คุณครูถามลูกว่า บอกข่าวคุณแม่หรือยัง
คุณครูเสียงเข้มแต่ยิ้ม ๆ (แม่ใจตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ)  เพราะวีรกรรมเรื่องเฮี้ยว ๆ เขาก็ใช่ย่อยเช่นกัน

ปรากฎว่า ลูกเล่าว่า ครูให้ทำข้อสอบ วัดผลภาษาไทยในวันหนึ่ง

สักพักครูแจ้งว่า ได้เป็นตัวแทนชั้น แข่งขันวิชาภาษาไทย ฟังคุณลูก เธอยังไม่ค่อยรู้เรื่องเลยค่ะ ว่าแข่งอะไร ระดับอย่างไร  เน้นอะไร..เขาเป็นเช่นนี้เสมอ

ที่แม่ดีใจ คือ..เขาเรียนมาแต่ภาษาอังกฤษ ค่ะ (ก่อนหน้านี้มาตลอดสามปี)  ที่มาได้ภาษาไทยเพราะเขาชอบอ่านหนังสือมาก ๆ แบบพี่วั้น..(แม่เพียงแต่นำเค้าเล่นเกม สุภาษิตภาษาไทย,แต่งกลอน เล็ก ๆ น้อย ๆ)

มีพ่อเขาล่ะค่ะ ที่อ่านหนังสือให้เขาเห็นทุกเวลาที่พ่อว่าง แต่เราสองคนไม่เคยเรียกเขาอ่านค่ะ 

โอมเพี้ยงโตขึ้นเก่งและดี อย่างพี่วั้นเถอะ ...

 

สวัสดีเจ้าค่ะ ป้าโอ๋

อิอิ อยากเก่งมั่งจังค่ะ คิดถึงนะค่ะ รักษาสุขภาพด้วยเจ้าค่ะ...หนูจิ

ให้ป้าโอ๋ทำนายจากโหงวเฮ้งที่เห็นน้องภูและวิธีคิดวิธีพูดของน้องภู ป้าโอ๋บอกได้ว่าน้องภูน่าจะเก่งกว่าพี่วั้นได้แน่ๆค่ะ แต่ดีนี่มาช่วยกันทำเลยนะคะ ยิ่งมากยิ่งดีไม่มีสิ้นสุดเลยค่ะ คุณแม่หมอเล็ก ภูสุภา

พี่จิเก่งหลายอย่างอยู่แล้วค่ะ ป้าโอ๋ชื่นชมอยู่เสมอเลย ส่วนเรื่องดีนี่มีคนรับรองคุณภาพได้เยอะอีกเช่นกัน เอ่ยชื่อกันไม่หมดเลยแหละ ทำต่อไปนะคะ ป้าโอ๋หายป่วยแล้วค่ะ ขอบคุณนะคะ 

เพิ่งได้เห็นว่า ที่เว็บไซต์สอนภาษาอังกฤษของชาวเยอรมัน ego4u เขามีแนะนำเทคนิคนี้ไว้ แถมมีลิสต์ของปัญหาที่คนเรียนภาษาอังกฤษมักจะผิดพลาด ทำเป็นหัวข้อเอาไว้ให้เราวิเคราะห์จากข้อสอบที่เราเคยทำไปแล้วว่าอะไรที่เรามีปัญหา ก็ให้กลับไปทบทวนหัวข้อนั้นๆที่เขามีคำอธิบายไว้ให้พร้อมแบบฝึกหัด ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้จุดต่างๆที่เราเคยบกพร่อง ก็จะเป็นที่เข้าใจมากขึ้น อยู่ที่นี่ค่ะ หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับหลายๆคนนะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท