ในการพัฒนาคุณภาพการศึกษาของเขตพื้นที่ในแต่ละรอบปี สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา(สพท.)มีการกำหนดกลยุทธ์หรือแนวปฏิบัติหลัก ๆ ในการพัฒนาการศึกษาของเขตพื้นที่ ซึ่งโดยทั่วไป พบว่า เขตพื้นที่มักจะกำหนดกลยุทธ์สอดคล้องกับกลยุทธ์ของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) เช่น ในปี 2551-2552 สพฐ.ได้กำหนดกลยุทธ์ 5-6 ประการการ ในการนี้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ก็มักประกาศกลยุทธ์อย่างสอดคล้องกัน 5-6 ประการ เช่นกัน
เนื่องจากเขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ มีบริบทที่แตกต่างกัน ปรากฏสภาพปัจจุบัน-ปัญหาที่แตกต่างกัน ในขณะที่กำหนดกรอบกลยุทธ์สอดคล้องกับ สพฐ. เขตพื้นที่การศึกษาต่าง ๆ ควรกำหนดจุดเน้นพิเศษที่แตกต่างกันตามบริบทของเขตพื้นที่ เขตพื้นที่ที่ประสบปัญหา เช่น คุณภาพการศึกษาต่ำ ก็จะต้องประกาศจุดเน้นพิเศษในเชิงมุ่งแก้ปัญหาวิกฤติๆ ในรอบปี ในขณะที่เขตพื้นที่ที่มีคุณภาพสูงก็ควรประกาศจุดเน้นเพื่อก้าวสู่ความเป็นเลิศเฉพาะทางหรือ มีเอกลักษณ์เป็นของตนเอง
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2551 ผมได้ไปเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการเขตพื้นที่การศึกษา กทม.เขต 2 ในที่ประชุมได้พูดถึงจุดเน้นในการพัฒนางานของเขตพื้นที่การศึกษาในปีงบประมาณ 2552ซึ่งได้ร่างจุดเน้นหลายประการที่เห็นว่าสอดคล้องกับบริบทของเขตพื้นที่ ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. ส่งเสริมให้เด็กในเขตพื้นที่ ได้เรียนในโรงเรียนใกล้บ้าน อย่างทั่วถึงและเสมอภาค
2. ส่งเสริมการพัฒนาคุณธรรมพื้นฐาน ให้ความสำคัญกับจิตสาธารณะ หรือการทำกิจกรรมเพื่อสังคม ผ่านกระบวนการเรียนรู้ในสถานศึกษา
3. ส่งเสริมการสร้างนิสัยรักการอ่าน และสร้างเยาวชนยอดนักอ่านช่วงชั้นที่ 3-4
4. ส่งเสริม พัฒนาสมรรถนะเยาวชน ก้าวสู่ระดับสากล(ความสามารถด้านภาษา และทักษะวิชาการระดับนานาชาติ)
5. ส่งเสริม พัฒนาความสามารถของเยาวชนในการคิด วิเคราะห์ คิดสร้างสรรค์ การประดิษฐ์คิดค้นเพื่อสร้างนวัตกรรมในระดับชาติ หรือนานาชาติ
6. พัฒนากิจกรรมการเรียนรู้และระบบดูแลช่วยเหลือเด็ก ส่งเสริมศักยภาพของศูนย์สาระการเรียนรู้ สนับสนุนให้เกิดองค์ความรู้หรือนวัตกรรมในการจัดการเรียนรู้ ที่หลากหลาย ต่อเนื่อง
7. ส่งเสริมการเป็นโรงเรียนต้นแบบความเป็นเลิศเฉพาะทาง ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มในเด็ก และโรงเรียนต้นแบบนวัตกรรมการเรียนรู้ผ่านจอภาพ e-School
8. ส่งเสริมกระบวนการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วม หรือ การบริหารจัดการแบบธรรมาภิบาลในทุกองค์กร ทุกระดับ
9. พัฒนามาตรฐานการปฏิบัติงานของครู ส่งเสริมการพัฒนาเข้าสู่วิทยฐานะ และประเมินศักยภาพตามมาตรฐานวิทยฐานะ อย่างต่อเนื่อง
ตามตัวอย่างข้างต้น ในขณะนี้ การประกาศจุดเน้นพิเศษของเขตพื้นที่ยังไม่มีข้อยุติสุดท้าย คงจะต้องมีการหารืออีก 1-2 ครั้ง แล้วประกาศให้เป็นที่รับทราบตรงกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เพื่อใช้เป็นกรอบในการสนับสนุนงบประมาณ หรือกรอบในการนิเทศ ติดตาม หรือส่งเสริมเป็นพิเศษในปีการศึกษา 2552-53(กรรมการเขตพื้นที่ มีวาระในการดำรงตำแหน่ง 2 ปี)
ในการประกาศจุดเน้นบางประการ อย่างเช่น จุดเน้นพิเศษที่ 9 เรื่องมาตรฐานการปฏิบัติงานของครูและการประเมินเพื่อป้องกันวิทยฐานะ เรื่องเช่นนี้ จะต้องหารือและวางแนวปฏิบัติที่เป็นรูปธรรม ซึ่งอาจดำเนินการโดย อ.ก.ค.ศ.เขตพื้นที่การศึกษา ภายใต้หน้าที่ที่ระบุว่า “1. พิจารณากำหนดนโยบายการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการ ก.ค.ศ.ในเขตพื้นที่การศึกษา รวมทั้งการกำหนดจำนวนและอัตราตำแหน่งและเกลี่ยอัตรากำลังให้สอดคล้องกับนโยบาย การบริหารงานบุคคล ระเบียบ หลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.ค.ศ. กำหนด”
ถ้าทุกเขตพื้นที่มีจุดเน้นพิเศษที่เป็นรูปธรรม ชัดเจน มีการพัฒนาตามจุดเน้นพิเศษกันอย่างจริงจัง มีการกำกับ ติดตาม และประเมินผลกันเป็นระยะ ๆ ผมเชื่อว่า คุณภาพการจัดการศึกษาของทุกเขตพื้นที่จะมีความก้าวหน้า หรือมีพัฒนาการมากขึ้นอย่างแน่นอน
....อย่าลืม...จุดเน้นพิเศษเหล่านี้ จะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกัน จำจุดเน้นได้ และร่วมมือกันพัฒนาตามทิศทางที่เป็นจุดเน้น แบบพร้อมเพรียงกัน
สวัสดีค่ะ อาจารย์
ขอบคุณค่ะ อาจารย์
ครูอ้อย
ข้อยชอบแบบว่า ระดับ ผอ.เขตการศึกษาไม่ต้องคัดมาหรอก ก็รู้อยู่ว่า"มหาบัณฑิต" และ "ดุษฎีบัณฑิต" ล้นประเทศอยู่นี่มีแต่สายการศึกษาทั้งนั้น(เพราะลงทุนน้อยและจบง่ายแถมได้ดอกเตอร์เหมือนกัน) ให้ชาวเราเลือกเพื่อนสายงานทางการศึกษานี่แหละดีแล้ว ส่งมาให้เดี๋ยวเดียวก็เปิดดากหนีอีกแหละ งานอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันเลยหนีแล้ว จัดงานวิชาการที่อำเภอคง(โคราช)อยู่ดี ๆ ได้ยินว่า ผอ.เขตเดินทางมา หมู่ผู้บริหารทั้งหลายแย่งกันไปจนรถแทบชนกันตาย พวกข้อยนั่งทำตา"ปริบ ๆ" แล้วที่บอกให้จัดอย่างดี มันบอกหาพระแสงดาบคาบค่ายอะไรกันจ้ะ เซง ๆ ๆ ๆ จ้ะ
เรียน อ.นิรนาม