บทเรียนจากการปั่นจักรยาน


ไม่ว่ามนุษย์จะเข้าไปรับรู้ธรรมชาติ หรือไม่ ธรรมชาติก็เป็นธรรมชาติอยู่วันยังค่ำ

วันนี้ข้าพเจ้า ปั่นจักรยาน มุ่งสู่สวนเกษตร มข เช่นเคยเพื่อออกกำลังกาย ระหว่างเส้นทาง การปั่นจักรยาน มีการเลี้ยงสัตว์ต่าง ๆ มีกลิ่นปฏิกูลโชยมา ทำให้เข้าถึงได้ว่า อันที่จริง สิ่งที่ดี ไม่ดี หอมไม่หอม ไม่ว่าเราจะเข้าไปรับรู้ หรือไม่มันก็มีอยู่แล้วโดยธรรมชาติ แต่มนุษย์ ไปสร้างสัญญาขึ้นมาเองว่า สิ่ง ๆ นี้เป็นของหอม สิ่ง ๆ นี้เป็นของเน่า 

 



   พอมองเข้ามาใจ-กายนี้ กลับพบสัจจธรรมว่า สิ่งให้ทำให้เกิดการตั้งอยู่ของลมหายใจ ก็เป็นการบริโภค ซากพืช ซากสัตว์ เหล่านี้ แล้วสิ่งเหล่านี้ก็เปลี่ยนเป็นพลังงาน สุดท้ายคงเหลือเพียงของเน่าจนกายนี้ไม่สามารถเก็บกักไว้ได้จนต้องกำจัดออกมาตามทวารต่าง ๆ มนุษย์ใช้บรรทัดฐานของตนไปพิพากษาคนอื่น หรือสิ่งมีชีวิตอื่น ว่าดี ว่าชั่ว ว่าสูง ว่าต่ำ  ทั้ง ๆ ที่สิ่งเหล่านั้นเป็นเพียงสิ่งสมมุติ เป็นเพียงภาพลวงตา ที่ทำให้หลงไหลในวังวนแห่งความทุกข์ แทนที่จะน้อมกายใจ ให้สำนึกในการสละชีพของสัพพสัตว์ นับพันชีวิต เพื่อให้กายดำรงอยู่ด้วยเหตุและปัจจัย หลายครั้งที่มีเรื่องเล่าของวิญญาณอาฆาตเจ็บป่วยแพทย์รักษาไม่หาย แต่พอไปทำบุญแล้วหาย สืบเนื่องจากไปบริโภคสัตว์ที่ มีจิตอาฆาตเข้าให้

ถึงอย่างไรก็ตาม ธรรมชาติก็เป็นธรรมชาติ เราไม่อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้ เพียงแค่น้อมรับสิ่ง ที่มากระทบด้วยใจเบา ๆ และ ขออุทิศบุญที่ข้าพเจ้าได้กระทำแล้วแก่สัพสัตว์ทั้งหลายที่สละชีพเพื่อการดำรงอยู่แห่งกายนี้ หากท่านเป็นทุกข์ขอให้ท่านพ้นทุกข์ หากท่านมีสุขขอให้สุขยิ่ง ๆ ขึ้นไป สาธุ

     ห่างจาก ณ จุดนั้นไม่นานผ่านโซนสัตว์ปีก ติดป้ายห้ามเข้า ทำให้หวนถึงโรคไข้หวัดนก ที่กำลังมีปัญหาระบาด ด้วยอุปทานของมนุษย์ หวั่นเกรงภัยในตน จนกระทั่งทำให้เกิดการปลิดวิญญาณไก่ และสัตว์ปีกนับพัน โอ้หนอ ทั้ง ๆ ที่เขาเหล่านั้นหาได้รู้เรื่องไม่ กับการทำลายกันทั้งทางตรงและทางอ้อมเช่นนี้ จะส่งผลให้เกิดการจองเวรกันอีกนานเพียงใด อนิจจา

     ย้อนเข้ามามองในตน กับงานประจำและงานวิจัยที่ข้าพเจ้าทำอยู่เป็นเรื่องของการศึกษาธรรมชาติโดยส่วนใหญ่ เพราะเป็นการศึกษาองค์ประกอบเคมีในสมุนไพร ไม่ว่าจะมีการรายงานสารสำคัญในสมุนไพรชนิดนั้น ๆ หรือไม่ก็หาได้เป็นการศึกษาสิ่งอื่นที่เหนือธรรมชาติไม่ เพราะไม่ว่ามนุษย์เข้าไปรู้หรือไม่ สิ่งเหล่านั้นก็ยังดำเนินอยู่ตามกฏของธรรมชาติ แม้กระทั่งชีวิตแห่งมนุษย์เอง เป็นสิ่งดีที่งานไม่ได้เป็นการเบียดเบียนชีวิตเพื่อนเกิด แก่ เจ็บ ตาย

ระหว่างเส้นทางธรรมชาตินี้ มีแสงอาทิตย์ที่กำลังลับขอบฟ้าอย่างสวยงามช่างเป็นความมหัศจรรย์แห่งธรรมชาติโดยแท้ ที่มนุษย์มิอาจสรรสร้างได้ การดำรงอยู่คงจะสงบขึ้นหากมนุษย์เรียนรู้ที่จะอิงอาศัยธรรมชาติโดยปราศจากการเอาเปรียบแม้กระทั่งกายนี้

    ดังนั้นการดำเนินชีวิตอยู่จึงควรสำนึกว่า มีสัพพสัตว์ได้สละชีวิต เพื่อให้กายดำรงอยู่ จึงใช้ชีวิตที่มีอยู่อย่างเมตตากับตนเองและผู้อื่น พากายนี้ ใจนี้ไปออกกำลังกายบ้างเป็นการขอบคุณเขา ที่ไม่ทำให้เราทุกข์เพราะป่วยไข้ ให้เป็นเสบียงที่ดีในการเดินทางต่อไป

หมายเลขบันทึก: 222173เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2008 13:20 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:50 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

สวัสดีครับ

เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง นอกจากพืช สัตว์ มนุษย์แล้วเรายังมีสิ่งมีชีวิตเล็ก ๆ ที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า ที่ทำคุณประโยชน์ให้กับธรรมชาติอีกมากมาย ดังนั้นเราจึงไม่ควรเบียดเบียนกัน ควรหาทางอยู่ร่วมกัน ช่วยเหลือกันเพื่อให้ระบบสิ่งแวดล้อมไม่กลับมาทำลายล้างกัน

ขอบคุณ คุณ ไทใต้ มากค่ะ ตอนนี้พยายามเรียนรู้อยู่กับธรรมชาติ

และมีความตื่นเต้น ก็คือ มีต่อมาขออาศัยที่บ้านด้วย

แต่เค้าก็ ไม่ได้รบกวนอะไร แต่เราก็หมั่นไปบอกเขาว่า อยู่ร่วมกันอย่างสงบสันตินะคะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท