GotoKnow

2 ปี 1 เดือน 10 วัน

Genuine
เขียนเมื่อ 11 พฤศจิกายน 2551 05:57 น. ()
แก้ไขเมื่อ 15 พฤษภาคม 2555 16:23 น. ()
แพ้ชนะ ทุกข์หรือสุข มันเป็นเช่นไร คนหนึ่งคนกว่าจะเข้าใจ ต้องรู้ต้องเจอด้วยตัวเอง ไม่มีใครสอนให้มองเห็น ล้มเองรับเองแพ้เองรู้เองถึงจะเข้าใจ ถ้าหากไม่ปล่อยให้เรียนรู้ในวันนี้ แล้วจะมีวันที่เข้าใจมั้ย ปล่อยมันให้ล้มบ้างก็ได้ ปล่อยมันให้แพ้บ้างก็ได้ ก็แค่หกล้มแล้วลุกขึ้นยืนใหม่ แพ้ก็แค่ต้องเข้าใจ ล้มบ้างก็ได้และเธอจะแพ้บ้างก็ได้ ชนะนั้นคงไม่ยิ่งใหญ่ถ้าคำว่าแพ้นั้นยังไม่เข้าใจ (บอย โกสิยพงษ์)

วันนี้เราส่งรายงานความก้าวหน้าสำหรับการศึกษาในระดับปริญญาเอก ผ่านมา 2 ปีกับอีก 1 เดือน ลองนึกย้อนกลับไปดูก็พบความล้มเหลวและความสำเร็จเดินทางมาพร้อม ๆ กับเรา

 

ปีแรกของปริญญาเอกเป็นปีที่เราทำอะไรไม่ได้เรื่องไม่ได้ราวเอาไว้เยอะ เป็นนักศึกษาที่ไม่มีผลงานเป็นชิ้นเป็นอัน ใครถามอะไรก็ตอบไม่ได้ จะให้ตอบได้ยังไงในเมื่อตัวเองยังไม่เข้าใจเลย โดนอาจารย์ที่ปรึกษาตำหนิไปหลายครั้ง ทางภาควิชาจดชื่อไว้เป็นนักศึกษาที่อาจจะถูกให้ออก จนอาจารย์พูดกับเราว่า

 

Nich, you are not silly! เราอึ้ง ไม่ให้อึ้งได้ยังไง ชีวิตนี้เกิดมายังไม่เคยถูกใครด่าว่าโง่ ...

วันนั้นเหมือนโดนดาบแทงจึ๊กเข้าที่หัวใจ เดินกลับบ้านไม่ถูก คิดเพียงแต่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเรา ประโยคนี้เหมือนปลุกเราขึ้นมาจากอะไรสักอย่าง วันนั้นเราทิ้งทุกอย่าง งานการไม่ทำ กลับมาอยู่กับตัวเองอีกครั้ง นี่เรากำลังทำอะไรอยู่ กำลังทำอะไร ทำอะไร ทำไมถึงทำตัวเองให้เป็นแบบนี้ เรา่ไม่เคยเป็นอย่างนี้ เกิดอะไรขึ้น

 

หลังจากนั้นเราใช้เวลาเกือบ 3 เดือนไปกับการอ่านหนังสือ อ่านงานวิจัย ช่วงนั้นเราไม่ทำงานทำการอะไรเลย เก็บการทดลองทั้งหมดเข้ากุ แล้วก็อ่าน อ่าน อ่าน คิด คิด คิด และตามหาเราคนเดิมกลับมา .... ประโยคนั้นเป็นประโยคสุดท้ายที่อาจารย์ตำหนิเรา ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณอาจารย์ที่ปรึกษาที่ให้โอกาสเราพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง

 

เมื่อเดินทางมาถึงปีสองของปริญญาเอก เหมือนหนังคนละม้วน เราอธิบายงานได้เป็นฉาก ๆ เราคิดงาน หาคำตอบหาเหตุผล วางแผนการทดลอง คิดวิเคราะห์ผลการทดลอง เราไปคุยกับอาจารย์เพื่อเสนองานที่เราคิดที่เราจะทำ อาจารย์ที่ปรึกษาส่งไปฝึกการทดลองที่มหาวิทยาลัยอื่น

 

มีการทดลอง หนึ่งที่เราเริ่มต้นจากศูนย์ ถามใครในแล็บก็ไม่ได้เพราะไม่มีใครเคยทำ ทุกอย่างเราต้องคิด ต้องหาคำตอบ ต้องทดลอง ล้มเหลวไปหลายครั้ง หาวิธีแก้ปัญหา ทดลองใหม่ เริ่มต้นใหม่ด้วยตัวเอง ใช้เวลาไปไม่น้อยเพราะเดินหน้าบ้าง ถอยหลังบ้าง หลงทางบ้าง กว่าจะไปทุกจุดหมาย แต่สิ่งที่ได้รับคุ้มค่านัก ไม่ใช่ผลการทดลองที่คุ้มค่า แต่หมายถึงความรู้และประสบการณ์ที่เราได้ลองผิดลองถูกนั้นหาที่ไหนไม่ได้เลยถ้าเราไม่ลงมือทำเองกับมือ

 

ปลายปีสองเรา เริ่มทำงานด้านเขียนโปรแกรมและวิเคราะห์ข้อมูลมากกว่าทำงานกับสารเคมี ปัญหาก็เกิด คอมพิวเตอร์กับเด็กชีวะเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยกินเส้นกันสักเท่าไหร่ ถึงเราจะเคยเรียนมาบ้างแต่ความรู้มีน้อยกว่าหางอึ่ง แรก ๆ ก็ให้คนสนิทเขียนโปรแกรมให้ อยากได้อะไรก็แค่บอกไป

วันดีคืนดีเกิดความคิดขึ้นมาว่า เราจะยืมจมูกคนอื่นหายใจตลอดไปแบบนี้เหรอ จบไปแล้วอายคนอื่นมั้ยเนี่ย

เราลุกขึ้นมาอ่านและศึกษาเขียนโปรแกรม ภาษา Perl ด้วยตัวเอง อาศัยความรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่มี อ่านหนังสือ Perl หัดเขียนหัดทำ หลายครั้งที่คิดว่าจะเลิกเรียน Perl แต่เรามองดูหลายคนที่เป็นทั้งนักชีวะและนักเขียนโปรแกรม คนเหล่านี้ก็เริ่มต้นเหมือน ๆ กับเรา เขายังผ่านไปได้ เราบอกกับตัวเอง เอาน่า ลองดูกันสักตั้ง ไม่ได้ให้มันรู้ไป  ถึงตอนนี้แม้เราไม่ใช่นักเขียนโปรแกรมตัวยง แต่อย่างน้อยเราก็ทำได้ด้วยตัวเอง

 

ถึงแม้สองปีที่ผ่านมาเราจะเจอเรื่องยาก ๆ มาบ้าง แต่นั่นก็ท้าทายและทำให้เรารู้สึกว่าชีวิตมันมีชีวา เมื่ออาทิตย์ที่แล้วมีคนถามเราว่าเป้าหมายปริญญาเอกของเราคืออะไร คำตอบจากคนอื่นอาจหลากหลายกันไป แต่สำหรับเรา เราตอบไปว่าเราไม่มีเป้าหมายยิ่งใหญ่อะไร แค่เรามีความสุขในงานที่เราทำในแต่ละวัน แค่นี้เราก็พอใจแล้ว

 

แล้วเราก็เดินเข้าสู่ปีสามของการเรียนปริญญาเอก มันคงไม่มีอะไรง่ายอีกเช่นเดิม แต่อย่างน้อยเรามีความพร้อมทั้งกายและใจ......


"Success is the ability to go from one failure to another with no loss of enthusiasm." (Sir Winston Churchill)

 


ความเห็น


พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย