จากการอ่านบทความในหนังสือพิมพ์มติชนรายสัปดาห์ ในเรื่องของการปฎิรูปการศึกษา ซึ่งได้บทสรุปคือ ข้อเสนอของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กำหนดให้สำนักงานเขตพื้นที่การมัธยมศึกษาจังหวัด แยกการบริหารจัดการมัธยมศึกษาและประถมศึกษาออกจากกัน ที่เสนอต่อคณะกรรมการสภาการศึกษา วันที่ 23 กรกฎาคม 2551
เมื่อ อ.ก.ค.ศ. เขตพื้นที่การศึกษาส่วนใหญ่เป็นครูประถมศึกษา เป็นผู้แต่งตั้งโยกย้ายครูและผู้บริหารโรงเรียน จึงนำไปสู่การย้ายครูประถมศึกษาเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษา แล้วตามมาด้วยการย้ายผู้บริหารโรงเรียนประถมศึกษาเข้าโรงเรียนมัธยมศึกษา ดังนั้น เมื่อมีผู้บริหารว่างในโรงเรียนมัธยมศึกษา ผู้บริหารประถมก็จะขึ้นแทน
ยิ่งกว่านั้นคือ วัฒนธรรมการโยกย้ายของโรงเรียนมัธยมศึกษา ซึ่งเป็นการย้ายข้ามโรงเรียนประจำจังหวัด โรงเรียนประจำอำเภอพอเป็นโรงเรียนที่อยู่ในเขตพื้นที่การศึกษาต่างกันก็ไม่สามารถย้ายได้ จะย้ายติดตามคู่สมรสไปอยู่อีกเขตหนึ่งก็ลำบากมากเพราะจะต้องย้ายไปโรงเรียนมัธยมศึกษาด้วยกัน
ในการนำเอาความเคลื่อนไหวทั้งหมดมาสรุปเล่าสู่กันฟัง นอกจากต้องการสะท้อนมุมมองของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อการปฏิรูปการศึกษาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา ซึ่งพบว่ามีทั้งปัญหาที่เกิดจากระบบโครงสร้าง และพฤติกรรมของบุคคลที่ปฎิบัติไม่สอดคล้องกับระบบที่ออกแบบมา ทำให้สัมฤทธิ์ผลทางการศึกษายังไม่บรรลุถึงเด็ก ครู และผู้บริหาร จึงจำเป็นต้องทบทวนในภาพรวมเพื่อปรับปรุงแก้ไขและพัฒนาต่อไปให้ถึงเป้าหมาย
เป็นบทความที่ดีค่ะทำให้รู้ถึงการสะท้อนมุมมองของผู้เกี่ยวข้องที่มีต่อการปฏิรูปการศึกษาตลอด 9 ปีที่ผ่านมา
ให้อีกร้อยปีด้วยไม่มีทางสำเร็จ
ร่วมปฎิวัติการศึกษาเพื่อความเป็นไท