เที่ยวสุพรรณ
วันสุดท้ายของการปิดภาคเรียนที่ 1พวกเรา ชาวคณะ ศิวารามได้ไปทัศนศึกษาที่จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นการไปพักผ่อน หลังจากเหน็ดเหนื่อยจากการทำงานมา 1 ภาคเรียน จังหวัดสุพรรณบุรีไม่ไกลจากอยุธยามากนัก ทุกคนตกลงกันได้ตามมติส่วนใหญ่
รถตู้ 2 คัน บรรทุกคณะของเรา 20 กว่าคนนัดหมายกันที่เวลา 8.00น คันที่ 1 ออกจากหมู่บ้าน กรุงศรี อีกคันหนึ่งออกจาก วังน้อย นัดหมายกันที่ แรก คือ วัดป่าเลไลก์ เส้นทางที่ไปจากอยุธยาใช้เส้นทางถนนป่าโมกอยุธยาเลี้ยซ้าย ข้ามสะพานป่าโมก วิ่งตรงไป ถึงทางแยกเลี้ยวซ้ายไปอำเภอผักไห่ เลี้ยว ขวา ไปอำเภอวิเศษ อ่างทอง ไปสุพรรณให้ตรงไปประมาณ 30 กว่ากิโลเมตรก็เข้าตัวจังหวัดสุพรรณบุรี เมืองสุพรรรเดี๋ยวนี้เจริญมาก ถนนหนทางดีไปหมด เมื่อสมัยก่อนเคยไปสุพรรณ ลำบากบาก ต้องนั่งรถไฟ และต้องต่อรถเครื่องหรือไม่ก็รถสองแถวกว่าจะถึงที่หมาย หัวแดง ไปด้วยฝุ่น
ถึงวัดป่าเลไลก็ เวลา 9.00 น เมื่อมาพร้อมกันแล้ว คณะของเราก็ได้เข้าไปไหว้พระองค์ใหญ่ในโบสถ์ เพื่อเป็นมงคลกับชีวิต ในส่วนตัวเอง ก็ขอพรพระให้ตนเองจะทำอะไรให้มีสติเป็นที่ตั้ง มีใจหนักแน่น ไม่หวั่นไหวต่อสิ่งยั่วยุทางอารมณ์ อันจะก่อให้เกิดความสั่นคลอนในด้านจิตใจเป็นอุปสรรค์ ต่อการดำรงค์ชีวิตที่สงบสุข และขัดขวางความตั้งใจในการปฏิบัติงานตามอุดมการณ์ที่ยึดมั่นมาตลอด
จากวัดป่าเลไลก์ คณะของเราเดินทางไปที่หมู่บ้านอนุรักษ์ความไทย ที่นี่จะมีการแสดงของควาย ดูความแสนรู้ของควาย ควายที่นี่ได้ไปแสดงภายนต์หลายเรื่อง ก่อนแสดง ก็จะบรรยายลักษณะของควายแต่ละชนิดพอสังเขป ควายที่นี่ยิ้มได้จริงๆใครที่ไม่เคยเห็นควายยิ้มได้ ไปที่หมู่บ้านอนุรักษ์ควายแล้วจะได้เห็น ใครที่ไม่เคยยิ้มให้เห็นเลย จะต้องเปลี่ยนใจ หันไปหัดยิ้มไว้มากๆ ควายที่นี่ทำตามคำสั่งได้เหมือนมันรู้ภาษาที่เจ้าของสั่ง เพลิดเพลินกับการแสดงของควายสนุกสนานทุกคนมีแต่รอยยิ้ยให้กับความแสนรู้ของควาย ในความเพลิดเพลินนั้นยังแฝงไปด้วยข้อคิดอย่างหลากหลาย ความเป็นสัตว์ที่มีผู้นำไปเปรียบ กับคน ว่าโง่เหมือนควาย มีใครเคยเปรียบเทียบเด็กว่าโง่เหมือนความสักครั้งบ้างไหม ควายเป็นสัตว์ที่คนดูถูกว่าโง่ ยังสามารถสอนให้ทำตามได้แล้วมนุษย์ทีฉลาดกว่ามากมายทำไมเล่าจะไม่สามารถพัฒนาได้เชียวหรือ
จากบ้านควายไทย คณะของเราก็เคลื่อนขบวน ไปที่บึงฉวากไปดูสัตว์น้ำ อุโมงปลา สวยงามมากเข้าไปแล้วรู้สึกเย็นสบาย เหมือนอยู่ใต้สายน้ำเย็น ขนาดว่าเป็นเหมือนสายน้ำยังรู้สึกถึงความเย็นได้ขนาดนี้ หากได้น้ำใจที่มีต่อกันก็จะมีความเย็นยิ่งกว่าน้ำ เห็นปลาหลากหลายชนิดแวกว่ายวนเวียนว่ายน้ำเล่นเย็นฉำ บางตัวนอนนิ่งไม่ไหวติง คล้ายกับนอนหลับ เหมือนปลาจะมีความสุข หากปลามีความนึกคิดเหมือนมนุษย์ และพูดได้ปลาก็คงไม่อยากอยู่ในที่จำกัดอยากอยู่อย่างอิสระตามธรรมชาติของปลา แต่ว่ามองในอีกแง่มุมหนึ่ง เมื่อปลาต้องเข้ามาอยู่ในที่จำกัด มีขอบเขตกฏกติกา ปลาก็ต้องอยู่ตามกฏระเบียบเป็นสัดส่วน เหมือนกับมนุษย์ ผู้คน ผู้คนที่เข้ามาอยู่ในขอบเขต อยู่ในองค์กร ในสถาบันในครอบครัว ก็ต้องปฏิบัติให้อยู่ในกฏระเบียบ กติกา ตามที่กำหนด การทำตามใจตนเองหรือฝืนกฏระเบียบที่ทุกคนยอมรับและปฏิบัติได้ ก็ไม่เป็นการสมควรที่จะปฏิบัติ โดยไม่ละอาย และเป็นการละเมิดกฏระเบียบปฏิติให้เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีทางสังคมอีกด้วย
จากบึงฉวากก็ไปแวะรับประทานอาหารที่ร้านก้งเป็นอาหารที่ร้านนี้ฝีมือใช้ได้ ถูกปากทุกคนเป็นส่วนใหญ่ บรรยากาศริมนำก็ดี ใครที่ผ่านมาสุพรรณถ้าหิวก็แวะไปได้ไม่ผิดหวัง หลังจากอิ่มหนำสำราญ ก่อนกลับ ก้เลยไปตลาดร้อยปี ไปละลายทรัพย์เสียหน่อย แต่อย่าเพลินซื้อจนหมดตัวละ นึกไว้เสมอว่า อะไรที่ไม่ควรซื้อก็อย่าไปพิไลซื้อ เก็บสตางค์ประหยัดไว้บ้างก้ดีที่ตลาดร้อยปีมีของเก่าๆบรรยากาศเก่าๆเหมือนสมัยก่อน ก็เป็นจุดขายเป็นแหล่งท่องเที่ยวให้กับจังหวัดได้อีกแห่งที่เดียว เสน่หืของเมืองสุพรรณอีกอย่างก็คือสำเนียงการพูด ในส่วนตัวแล้วชอบสำเนียงชาวสุพรรณพูดมาก เป็นสำเนียงเหน่อๆน่ารักๆดี เราเองเป็นคนแม่กลองก็ พูดเหน่อแต่เหน่อแบบห้วนๆ แต่สำเนียงชาวสุพรรณไพเพราะกว่า
จากตลาดร้อยปีก็เดินทางกลับอยุธยาแยกย้ายกันกลับบ้านด้วยความอิ่มสุขสนุกสนานกันอย่างถ้วนหน้ากลับไปพักผ่อนเพื่อเตรียมแรงกายแรงใจกับการเปิดภาคเรียนที่ 2ต่อไป ต้องขอขอบคุณท่าน ผอ.จุไรรัตน์ เอิบกมล ที่พาพวกเราชาวศิวารามได้มีโอกาสไปเติมเต็มประสบการณ์ให้กับทุกคนในครั้งนี้อย่างที่สุด
Ladda
ความเห็น (1)
-ตามมาเที่ยวด้วยคนค่ะ
-บึงฉวากเป็นศูนย์เรีนรู้ที่เกือบครบวงจร ระดับ 5 ดาวค่ะ
-ขอบคุณคะ