โทษพระพุทธเจ้าโน่น


โทษคนอื่นมองเห็นเท่าภูเขา โทษของเรามองไม่เห็นแม้เส้นขน...

ชีพจรลงเท้าตามที่ตั้งใจไว้ตอนเช้าว่า วันนี้ต้องออกไปห้างเพื่อใส่กรอบให้กับหนังตลุงที่ซื้อมาจากพัทลุงเมื่อต้นเดือน ใจหนึ่งก็ไม่อยากจะออกไปไหน มีความรู้สึกว่า ที่ที่ไปนั้นวุ่นวายหนอ วุ่นวายหนอ บ่ายแก่ๆ จึงปั่นจักรยานไปฝากไว้ที่สโมสรข้าราชการและอาจารย์ ขึ้นรถสายลพบุรี - กรุงเทพฯ ขึ้นไปปุ๊ป โอ้โห นี่คุณๆ ทั้งหลายนั่งมาจากลพบุรีหรือนี่ เย็นเจี๊ยบจนเหงื่อโทรมกาย ให้นึกในใจว่า นั่งมาได้อย่างไร ร้อนแสงแดดดีกว่าความอึดอัดแน่นขนัดไร้อากาศหายใจเหมือนอยู่ในขวดโหลเช่นนี้ เมื่อขึ้นมาแล้วก็ต้องนั่งไปนั่นแหละ ไม่นานกระเป๋ารถก็เดินทางมาเก็บเงินค่าโดยสาร ผมให้เขาไปเป็นเหรียญสิบบาทจำนวน ๒ เหรียญ เขารับเงินแล้วเดินผ่านไปเก็บผู้โดยสารคนอื่น ผมก็คิดว่า เอ ทำไมไม่ทอนให้ผมห้าบาท ปกติค่าโดยสารจาก พระอินทร์-รังสิต เป็นจำนวนเงิน ๑๕ บาท หรือว่า เขาไปหาเหรียญห้าบาทก่อน ก็ไม่เป็นไร รอไปก่อน เมื่อเขาเดินกลับมา ผมนึกว่าเขาจะทอนเงินให้ แต่เปล่าเลย ก็รออีก ต่อมาถึง นวนคร มีคนขึ้น กระเป๋ารถเดินมาเก็บตังค์ และเดินกลับ แต่เขาก็ไม่ทอนผม จริงๆแล้วก็แค่ห้าบาทเท่านั้น แต่ห้าบาทนี้สำคัญนัก ผมเฝ้าเถียงกรัชกาย

กรัชกาย : แหม ห้าบาท ให้เขาไปเถอะ เขาไม่ทอนก็ช่างเขาสิ

ผม : ให้ได้ไงกัน นี่ถ้าหากผมมีสิบบาท ขาดอีกห้าบาทครบสิบห้า เขาจะให้ผมขึ้นรถโดยสารนี้หรือไม่ คงไม่ต้องตอบหรอกนะ

กรัชกาย : พระพุทธเจ้าบอกว่า สิ่งใดที่เขายืมไป หากเขาไม่ให้ก็ไม่ควรทวง ถ้าเขาให้ก็รับ

ผม : ได้ไงกัน วันก่อนผมมีเศษเหรียญอยู่ ๑๔ บาท จะขึ้นรถจากรังสิตมาประตูน้ำพระอินทร์ ผมเฝ้าคิดแล้วคิดอีก ว่ามีอีกเหรียญไหมเพื่อให้ครบห้าบาท ตรวจดูในกระเป๋าทุกใบ ก็ไม่มีสักเหรียญ ยืนคิดอยู่พักใหญ่ ครั้นจะให้แบงค์ ๕๐๐ เพื่อให้ค่าโดยสาร ๑๕ บาท มันไม่ควรอย่างยิ่ง จะไปแลกใครที่ไหนได้เนี่ย เพราะฉะนั้น เพียงบาทเดียวก็มีค่ามากในยามขัดสน

กรัชกาย : ให้เขาไปเถอะ เงินทองไม่ใช่ของเราสักหน่อย ได้มาก็สละไป จะไปคิดอะไรมากมาย จำไม่ได้หรือ ที่นายทำอยู่เป็นประจำ ซื้อของก็ไม่ต่อราคา บอกมาเท่าไรก็ซื้อเท่านั้น และคิดว่าให้เขาไป ให้เขาไป อยู่ตลอด รู้สึกดีไม่ใช่หรือเมื่อคิดสิ่งดีๆ

ผม : ไม่ได้ ที่ใครทีมัน เดี๋ยวผมค่อยทวงตอนลงจากรถละกัน สะดวกดี

เมื่อรถถึงรังสิต ผมจึงเดินลงจากรถ เห็นหน้าตาของกระเป๋ารถแล้วให้นึกหวาดกลัว ไม่รู้ว่าโจรหรือกระเป๋ารถกันแน่ แต่ก็...เอ้อ อย่าไปทวงเลย ให้ให้เขาไปเถอะ ถ้าจะจนเพราะการให้ก็ขอให้จน การให้สบายใจกว่าการรับ ในที่สุดเจ้ากรัชกายก็ชนะใจผมอีกตามเคย..พระพุทธเจ้าหนอพระพุทธเจ้า

คำสำคัญ (Tags): #ศาสนาและปรัชญา
หมายเลขบันทึก: 22012เขียนเมื่อ 31 มีนาคม 2006 17:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 ตุลาคม 2015 10:38 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

ไม่อนุญาตให้แสดงความเห็น
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท