แจ่นแจ๊น อายุ ๖ ขวบเรียนชั้น ป.๑ อยู่กับพ่อแม่ที่ออสเตรเลีย แวะมาเที่ยวเมืองไทย เราทำราดหน้ากับผัดซีอิ๊วกินกันมื้อเที่ยง ทุกคนเอร็ดอร่อย มีแจ่นแจ๊นคนเดียวไปยอมกิน
คุยได้เต็มปากว่าทำราดหน้าอร่อยที่สุด แต่ทำไมแจ่นแจ้นไม่ยอมกิน หมิ่นแคลนฝีมือป้ามากไปหน่อยแล้ว
แม่พยายามเชิญชวนให้กินเท่าไหร่ก็ไม่สำเร็จ แจ่นแจ๊นมารยาทดีรอจนแม่กินอิ่มก็ลากมือแม่ออกไปไกลๆโต๊ะอาหาร ซุบซิบๆ กันสักครู่ แม่เดินยิ้มมาหาป้า
“แจ่นแจ๊นบอกว่า ไม่กล้ากินเส้นก๋วยเตี๋ยวของป้า กลัวเป็นมะเร็ง ครูสอนว่า อย่ากินอาหารไหม้ เพราะมีสารก่อมะเร็ง เป็นมะเร็งแล้วตาย”
ฮ่า...ฮ่า...ฮ่า... เป็นอย่างนี้นี่เอง เส้นก๋วยเตี๋ยวผัดด้วยซีอิ๊วดำเหมือนอาหารไหม้ ทำให้แจ่นแจ๊นไม่กล้ากิน
ป้าบอกแจ่นแจ๊นว่า จะพาแจ่นแจ๊นไปดูวิธีทำผัดซีอิ้วของป้าในครัว ถ้าไม่แน่ใจจะไม่กินก็ไม่ว่า แจ่นแจ๊นเดินตามไปอย่าว่าง่าย เพราะหิวจัด
ป้าหยิบเครื่องปรุงมาแนะนำทีละอย่าง แนะนำซีอิ๊วดำให้แจ่นแจ๊นรู้จักเป็นพิเศษ (โชคดีนะที่ป้ารู้ว่าซีอิ๊วดำทำจากถั่วหมักกับน้ำตาล-ไม่งั้นละป้าเอ๊ย เธอตกม้าตายแน่) ผัดซีอิ๊วให้เห็นกันจะ-จะ ว่าไม่มีอะไรไหม้เลย ผัดเสร็จหอมฉุย ตักใส่จานให้แจ่นแจ๊นถือเดินยิ้มหน้าบานออกไปนั่งกินหน้าบ้าน
เรื่องจบลงด้วยดี
ต้นทุนเรื่องแจ่นแจ๊นไม่กินผัดซีอิ๊วทำให้ป้าเก็บไปนั่งคิดและอภิปรายกันในที่ทำงานว่า เราจะสอนสุขศึกษาเด็กๆ ของเราอย่างไรให้เกิดเป็นพฤติกรรมสุขภาพติดตัวเขาไปแบบที่เราเห็นในตัวแจ่นแจ๊น
คิดจบแล้วได้คำตอบว่า
เราต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ (Learning Process) ที่แปลงเนื้อหาสุขภาพ (Health Knowledge) ให้ผลลัพธ์ของการสอนออกมาเป็น เจตคติ (Attitude) และเกิดเป็นทักษะ (Skills) ให้ได้
ประมาณปี ๒๕๔๗ ดร.สิริกร มณีรินทร์ เป็น รมช.กระทรวงศึกษาธิการ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ เป็น รมว. สาธารณสุข สองกระทรวงทำงานใกล้ชิดกันมาก ตอนที่ ศธ.มีนโยบายเรื่องหลักสูตรแกนกลาง-หลักสูตรท้องถิ่น ๓๐ : ๗๐ ฉันได้มาเป็นคณะทำงานกลุ่มสาระสุขศึกษาฯ งานที่ทำร่วมกันอย่างต่อเนื่องคือ ตำราเรียนสุขศึกษา ตัวอย่างแผนจัดการเรียนรู้ที่เน้นการสร้าง Heath Skills – Life Skills จนถึงปีที่กระทรวงศึกษาธิการจัดประชุมเพื่อปรับปรุงหลักสูตรการศึกษา ได้ทำงานในกลุ่มสาระนี้อีกครั้ง เราได้เสนอ Key word ๒ คำนี้เข้าไป หลังจากคณะทำงานเสนอกรอบแนวคิดหลักสูตรปรับใหม่ต่อดร.กษมา วรวรรณไปแล้ว ก็ไม่ได้ติดตามเรื่องนี้อีก แต่ก็ยังหวังที่จะเห็น Heath Skills – Life Skills แตกดอกออกผลในตัวเด็กๆ
กระทรวงสาธารณสุขทำงานเผยแพร่ความรู้เรื่องสุขภาพในวงกว้าง และตั้งรับที่ปลายทางเมื่อคนป่วยแล้ว แต่ครูมีโอกาสดีกว่าคือปลูกลงไปที่ตัวเด็กตั้งแต่ต้นทาง ซึ่งได้ผลดีที่สุด.
อังคารที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๕๑
สวัสดีค่ะ อาจารย์
แนวความคิดนี้ ประทับใจ ครูอ้อยมากเลยค่ะ..ร่วมด้วย ช่วยกันค่ะ
เป็นคุณครูได้สบายเลยนะครับ
ต้องให้ความสำคัญกับกระบวนการเรียนรู้ (Learning Process) ที่แปลงเนื้อหาสุขภาพ (Health Knowledge) ให้ผลลัพธ์ของการสอนออกมาเป็น เจตคติ (Attitude) และเกิดเป็นทักษะ (Skills) ให้ได้
ขอบคุณนะคะคุณ small man ที่แวะมาเยี่ยม
ดีใจที่ได้รู้จักครู พี่เคยทำงานใกล้ชิดกับคุณครูค่อนข้างมาก ทำให้ซึมซับมาค่ะ