คู่มือ ... ฟันฝ่ามรสุมชีวิต

เมื่อประมาณสิบปีก่อน ดิฉันจำได้ว่าคนไทยหลายคนมี 'ความฝันอันสูงสุด' ในชีวิต และพยายามทำความฝันของตนให้เป็นจริง คนชั้นกลางส่วนใหญ่อยากได้บ้านแสนสบาย มีรถยนต์ ยิ่งกว่านั้นยังอยากมีความสุขในชีวิตแต่งงาน แต่แล้วภาวะเศรษฐกิจทั่วโลกก็ทรุดตัว ตลาดหุ้นดิ่งวูบ หายนะเข้ามาสู่วิถีชีวิตคนไทย
ดอกเบี้ยที่ทนจ่ายอยู่หลายเดือนได้เขมือบเงินที่สะสมไว้หมดเกลี้ยง เริ่มชักหน้าไม่ถึงหลัง นอนไม่หลับอยู่หลายคืน เมื่อถึงทางตัน ก็หมดหนทางว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี และวิกฤตการณ์ด้านเศรษฐกิจก็กำลังมาให้เราเผชิญเข้าอีกรอบ

ในช่วงชีวิตหนึ่ง ทุกคนต้องทรมานกับการสูญเสียครั้งยิงใหญ่ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รัก สุขภาพสมบูรณ์ ร่างกายแข็งแรง หรือหน้าที่การงาน มันเป็น'ประสบการณ์อันอ้างว้าง'ในชีวิต เป็นช่วงเวลาที่ความรู้สึกแห้งแล้งไปหมด ไม่เหลือแม้แต่ความหวัง แล้วเราจะทำอย่างไรล่ะ เพื่อช่วยให้ตัวเองผ่านพ้นวิกฤตการณ์นี้ไปได้

ระบายความเศร้าโศกออกไปเสีย เวลาแห่งความเศร้าโศกนั้นสำคัญยิ่ง ไม่มีอะไรน่าอับอาย ถ้าคุณจะร้องให้ระบายความเศร้าโศกออกมา ขอให้ระบายออกมาเถอะแล้วคุณจะดีขึ้น บางคนที่ผ่านพ้นวิกฤตการณ์นั้นมาแล้ว ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า การร้องให้ได้ปลดเปลื้องความทุกข์อันใหญ่หลวงออกจากบ่า

รู้จักความโกรธของคุณ ความโกรธเป็นเรื่องธรรมชาติ แต่สิ่งสำคัญประการหนึ่งคือ ไม่มีใครเข้าใจความโกรธได้ดีไปกว่าตัวคุณเอง หากคุณเข้าใจความโกรธอย่างถูกต้อง คุณก็จะหายจากความเศร้าโศกได้ ลองดูประสบการณ์ของดิฉันเป็นตัวอย่างก็ได้ ตอนที่ดิฉันเรียนอยู่ชั้น ม.5 ครูวิชาวิทยาศาสตร์บอกดิฉันว่า ถึงดิฉันจะอ่านหนังสือหนักแค่ไหน คะแนนวิชาวิทยาศาสตร์ก็ได้มากที่สุดแค่เกรด 3 ดิฉันไม่เชื่อเพราะดิฉันหวังเอาไว้ตอนเปิดเทอมใหม่ๆ ว่า วิชานี้นี่แหละที่ดิฉันจะได้เกรด 4 เหตุผลอันหนึ่งก็คือมีเรื่องพันธุกรรมและกฏของเมนเดลที่ดิฉันชอบรวมอยูด้วย จำได้ว่า หลังจากที่ครูท่านพูดจบ ตัวเองก็เดือดปุดๆ ไม่ยอมแพ้ ยอมแพ้ไม่ได้ กัดฟันอ่านวิทยาศาสตร์ทุกวัน จนกระทั่งวันที่ได้รับผลการเรียน ไม่ผิดหวังเลยค่ะ ได้เกรด 4 ตามที่หวังไว้เลย นี่แหล่ะค่ะประโยชน์ที่ได้รับจากการเข้าใจความโกรธของตัวเอง

อย่าวิ่งหนีปัญหา ธรรมดาของคนที่มีอารมณ์ทางลบย่อมมีความกลัวเกิดขึ้นในใจตัวเอง อย่าหลีกหนีความจริง ลุยมันเข้าไปเลยค่ะ ไม่อย่างนั้นความกลัวจะเข้ามาหลอกหลอนในจิตใจคุณเองทุกวันทุกคืน
การยอมรับความล้มเหลวเป็นเรื่องยากที่สุด แต่ก็เป็นด่านแรกที่คุณต้องฟันฝ่าไปให้ได้ ก่อนที่จะดำเนินชีวิตต่อไป

ก้าวออกไปและลงมือทำ เพียงไม่กี่สัปดาห์หลังจากการสูญเสีย คุณจะมีสภาพจิตใจที่ดีขึ้น คุณอาจจะทำกิจกรรมต่อไปนี้

หาคนคุยด้วย การคุยที่ได้ผลคือ ต้องคุยกับคนที่เผชิญเรื่องที่ทุกข์ยากแสนสาหัสมาแล้ว

อ่านหนังสือ การอ่านหนังสือโดยเฉพาะแนวช่วยตนเองและสร้างแรงบันดาลใจ จะทำให้จิตใจของคุณผ่อนคลายอย่างรวดเร็ว

จดบันทึก ลองบันทึกประสบการณ์ของตัวเองดูนะคะ

วางแผนกิจกรรม ถ้าคุณมีสิ่งต่างๆ ให้มุ่งหวังอีก เพื่อเป็นกำลังใจให้คุณฟันฝ่าคลื่นลมไปสู่อนาคตที่สดใส ก็น่าจะทำได้แล้ว

เรียนรู้ทักษะใหม่ หางานอดิเรก สมัครเรียนหลักสูตรอะไรก็ได้ที่คุณสนใจ

ให้รางวัลตัวเอง ถ้าคุณชนะใจตัวเอง แม้เป็นเพียงสิ่งเล็กน้อย ก็ลองให้รางวัลเล็กๆ น้อยๆ กับจิตใจตัวเองนะคะ

ออกกำลังกาย การออกกำลังกายทำให้คุณก้าวออกมาจากความคิดหมกมุ่นทางจิตใจ ถือได้ว่าเป็นยาบำบัดจิตใจขนานเอกทีเดียว

อดทนกับตัวเอง คุณจะต้องให้เวลากับจิตใจตัวเองด้วย มีผู้คนไม่น้อยลืมคิดไปว่า ความทรมานใจจะหายหน้าไปจากคุณได้ ก็ขึ้นกับกำลังใจของตัวคุณเองนั่นแหละ จงคิดอยูเสมอว่า คุณต้องการเวลา และระยะเวลาของคุณที่ช่วยฟื้นฟูจิตใจกับความต้องการเวลาของคนอื่นก็ไม่เหมือนกันนะคะ

เอาล่ะค่ะ ถึงงเวลาที่คุณจะต้องออกไปจัดการกับภารกิจชีวิตของตัวเองแล้ว สู้ สู้ค่ะ

แนะนำติชมมาได้ที่ [email protected]

Tip of Inspiration

[วุฒิศักดิ์ ศรีเสมาเมือง]

อุแม่เจ้า....กำลังหมดพลังแรงที่จะฝ่าฟันอุปสรรค...พออ่านแล้วเหมือนแรงบันดาลใจให้ลุกขึ้นสู้.....แม้ลีลาจะน่าฉงนสงสัย....แต่พออ่านไปแล้วจึงระลึกได้มีคนที่เจ็บปวดอีกมากมาย....และติดกับดักความคิดตนเองพออ่านแล้วเข้าใจรวดเร็วทันทีขอบคุณ...จะแวะมาเยี่ยมอีกครับ