วันนี้ (๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๑) เราเริ่มต้นเบิกบานกันแต่เช้าด้วยกิจกรรมการสันทนาการเตรียมความพร้อมก่อนอบรม ให้ทุกคนได้ยืดเส้นยืดสาย นำโดยคุณศุภรัตน์ เสาร์แดน ผู้ประสานงานครอบครัวเข้มแข็ง และทีมงาน
หลังจากนั้นผมได้ตั้งคำถามว่า “สิ่งที่สำคัญที่สุดของชีวิตเราคืออะไร ?”
มีคำตอบหลากหลายจากเวที เช่น เงิน, ครอบครัว, สุขภาพดี, เมีย ฯลฯ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดของชีวิตเราจริงๆ คือ “ลมหายใจ” เพราะมันแสดงให้ว่าเรายังมีชีวิตอยู่
และผมก็เชิญชวนทุกคนได้ทำสมาธิตามลมหายใจของตนเอง ด้วยเพลงดั่งดอกไม้ ของเสถียรธรรมสถาน เพื่อให้ทุกคนเบิกบานกับลมหายใจที่สดชื่นในยามเช้า
แล้วผมชวนทุกคนดูวีดิทัศน์ชุด “สังเคราะห์โครงการครอบครัวเข้มแข็ง” จัดทำโดยสถาบันครอบครัวรักลูก และสสส. เพื่อให้เห็นแนวคิด และตัวอย่างการจัดกระบวนการเรียนรู้ครอบครัวเข้มแข็งในชุมชน แล้วผมบรรยายต่อเรื่อง “แนวคิด เนื้อหา และกระบวนการเสริมสร้างการเรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็ง”
หลังพักเบรก ได้แบ่งกลุ่มย่อยรายอำเภอ เพื่อให้ร่วมกัน “ออกแบบการจัดกิจกรรมเรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งในชุมชน”
มีหัวข้อดังนี้
• ชื่อกิจกรรม...........
• วัตถุประสงค์............
• กลุ่มเป้าหมาย............
• สถานที่.............
เวลา |
กิจกรรม |
วัตถุประสงค์ |
วิธีการ/ขั้นตอน |
อุปกรณ์ |
ผู้รับผิดชอบ |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
ช่วงบ่ายเริ่มต้นกิจกรรมเตรียมความพร้อมกาย-ใจ แล้วให้แต่ละกลุ่มได้นำเสนอผลการออกการจัดเวทีเรียนรู้เพื่อครอบครัวเข้มแข็งในชุมชน และทีมวิทยากรได้เติมเต็มและแบ่งปันประสบการณ์ร่วมกัน
หลังจากนั้นคุณสุภาพ สิริบรรสพ คณะทำงานโครงการครอบครัวเข้มแข็ง ได้เปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมได้ซักถาม แลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น และได้สรุปการเรียนรู้ทั้งสองวัน
ปิดท้ายด้วยท่านพระครูพิทักษ์นันทคุณ ที่ปรึกษามูลนิธิฮักเมืองน่าน ได้มอบเกียรติบัตรให้ผู้เข้าอบรมและให้ข้อคิดแก่ผู้เข้าอบรม สรุปความว่า.....
ที่ผ่านมาเราเน้นโครงสร้างพื้นฐานมาก แต่ขาดการสร้างเรื่องใกล้ตัวคือเรื่องครอบครัว นับว่าเป็นโอกาสที่ดี
ที่ใดอ่อนแอที่นั่นมีความรุนแรง ที่ไหนเข้มแข็งที่นั่นมีความร่มเย็น (พระพรหมคุณาภรณ์)
กระทรวงสาธารณสุข สำรวจพบว่า คนไทยมีการหย่าร้างสูง ค่านิยมการมีกิ๊ก รองลงมาเรื่องเศรษฐกิจ รายได้ไม่พอใช้ในครอบครัว ต้องไปทำงานต่างถิ่น ลูกหลานไม่มีใครดูแล ละทิ้งผู้เฒ่าผู้แก่ไว้บ้าน ก่อให้เกิดปัญหา
ความขัดแย้งในสังคมสูง แบ่งข้าง เป็นตัวอย่างที่ไม่ดีให้แก่คนรุ่นหลัง เราต้องติดตามทังสองด้าน มิเช่นนั้นจะเป็นเหมือนคนตาบอดข้างเดียว
ใช้เป็นโอกาสในการศึกษาเรื่องราวเหตุการณ์ไว้เป็นบทเรียนของตนเอง
ปัญหาในปัจจุบันเหมือนกับไก่ คนชอบชนไก่ก็จะเทียวเอาไก่ไปชนตามที่ต่างๆ ไก่ก็ชนกันทั้งที่เป็นไก่เหมือนกัน เป็นพี่น้องกัน เหมือนไก่ที่พ่อค้าจับใส่เข่งไปขายในตลาดทั้งๆ ที่รู้ว่าจะถูกเชือดก็ยังจิกตีกัน เหมือนจี้กุ่งที่เขาเอาเสียบไม้ไปขายก็ยังตีปีกใส่กันพรึบพรับสุดท้ายก็ตายไปลงเป็นน้ำพริกให้เขากิน
ยอมไม่เป็นก็เย็นไม่ได้ ถ้ายอมแล้วมันจะเย็น
เราต้องยอมกันบ้าง
เปรียบสังคมไทยปัจจุบันก็เหมือนตากับตีน ถามว่าอวัยวะในร่างกายอันไหนสำคัญที่สุด คำตอบคืออะไร (ท่านพระครูได้เล่านิทานสองผัวเมีย, ตากับตีน, นกกินข้าวไร่)
คำถามครอบครัว “คนไหนครอบครัวคนไหนสำคัญที่สุด”
คำตอบ หลวงพ่อพุทธทาส สำคัญเท่ากันแต่หน้าที่แตกต่างกัน
ปัญหาต่างๆ ในสังคมเราต้องช่วยกัน สามัคคีกัน แล้วหาทางออกร่วมกัน ถ้าเราหันหน้าไปทางเดียวกันเราก็จะเห็นแสงสว่างร่วมกัน ก็จะเห็นทางออก เช่นเดียวกับครอบครัว ไม่เอาชนะคะคานกัน เคารพกฎกติกา มองกันในแง่ดี ไม่คอยจับผิดกัน
เขามีส่วนเลวบ้างช่างหัวเขา จงเลือกเอาส่วนดีเขามีอยู่
ให้มองหาแต่ส่วนดีดีมาชื่นชมกัน
ปัญหาต่างๆ จะคลี่คลายลง ถ้าครอบครัวมีความเข้มแข็ง
ขอทุกคนมีสุขภาพที่ดี เพื่ออยู่ไปช่วยกันสร้างบ้านสร้างเมืองให้ร่มเย็นเป็นสุขร่วมกัน
สาธุ
พ่อน้องซอมพอ
๒๒ ตุลาคม ๒๕๕๑
หวัดดีคะ อบรม คค.ขข.เป็นเวทีอบรมที่คนไปร่วมแล้วจะต้องได้แนวคิดดีๆกลับมาเสมอๆ คนทำงานครอบครัวก็ได้พัฒนาครอบครัวตัวเองด้วยใช่มั้ยคะ คิดถึงชาว คค.ขข.น่าน คะ
ดีมากที่ได้อ่าน มารับผิดชอบ งานครอบครัวอบอุ่น อยู่ก็มีป้าอรพิน ประธานสตรีอำเภอมาขอให้เขียนโครงการด้วยเงิน 12000 และขอให้จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้ เป้าหมาย 35 คน จาก ตำบลๆละ 2 คนในอำเภอเวียงสา ใครก็ได้ช่วย หน่อยค่ะว่าจะทำอย่างไร ในเนื้อหาและกิจกรรม หรือ
ขอให้ คุณถนัด เขียน กำหนดการและความรู้รวมถึงวิทยากร ให้ด้วย แบบที่ทำข้างบน นั้น น่าสนใจ ช่วยหน่อยนะคะ