เรื่องที่ ๒๔ จดหมายถึงพระเจ้า
ณ หมู่บ้านยากจนแห่งหนึ่ง
ชาวนายากจนผู้หนึ่ง เป็นผู้ที่ศรัทธาในพระเจ้าเป็นอย่างยิ่ง ทุกวันเขามักจะสวดมนต์ภาวนาและอ้อนวอนต่อพระเจ้า แต่ด้วยความยากจน วันหนึ่งเขาได้ตัดสินใจเขียนจดหมายถึงพระเจ้า “พระเจ้าที่รัก ข้าพเจ้าเป็นศาสนิกชน ผู้ยึดมั่นและศรัทธาในพระองค์ ไฉนเล่าข้าพเจ้าจะต้องทนทุกข์ด้วยความลำบากยากจน หากพระองค์ต้องการที่จะให้ข้าพเจ้ารักและศรัทธาในพระองค์ตลอดไป กรุณส่งเงินมาให้ข้าพเจ้าอย่างเร่งด่วน ๕,๐๐๐ บาท” แล้วก็หย่อนจดหมายลงในตู้ไปรษณีย์
บุรุษไปรษณีย์พบจดหมายที่จ่าหน้าถึงพระเจ้า จึงเรียกเพื่อนซึ่งเป็นบุรุษไปรษณีย์ด้วยกันมาเปิดอ่านดู เหล่าไปรษณีย์ผู้ยากจน ต่างลงความเห็นว่า หากชายผู้นี้ไม่ได้รับเงินจากพระเจ้า เห็นทีศาสนาเราจะต้องเสียศาสนิกชนอันศรัทธาในพระเจ้า เป็นแน่ ดังนั้น เหล่าไปรษณีย์ที่ยากจนทั้งหลายก็รวบรวมเงินกันได้ ๓,๐๐๐ บาทและใส่ซองจดหมาย พร้อมทั้งให้นายไปรษณีย์ส่งไปยังชาวนาผู้ยากจน พร้อมทั้งเขียนว่าจดหมายจากพระเจ้า
รุ่งขึ้น มีจดหมายส่งถึงพระเจ้า จากชาวนาผู้ยากจนอีกแล้ว
เหล่าไปรษณีย์ต่างรุมแย่งกันเพื่อที่จะอ่านจดหมายถึงพระเจ้าจากชาวนาอีกครั้ง คงจะเป็นจดหมายที่มีความสุขและขอบคุณในพระเจ้าที่ชาวนาเคารพและศรัทธา
“ถึงพระเจ้าที่เคารพ เงินที่พระเจ้าส่งมาให้ข้าพเจ้า ข้าพเจ้าได้รับแล้วและขอขอบคุณพระองค์มาก แต่จะเป็นความกรุณาอย่างมาก หากคราวหน้าพระองค์จะฝากเงินมากับคนอื่นที่ไม่ใช่พวกไปรษณีย์ขี้โกง เพราะพวกนั้นขโมยเงินของข้าพเจ้าไป ๒,๐๐๐ บาท...
ชอบมากค่ะ
นิทานแบบนี้ จะได้นำไปเป็นสื่อให้เด็ก ๆ ที่บ้านนอกอีกฉบับ
คล้าย ๆ เรื่องจริงค่ะ
คะขำมากเลนทำให้นึกถึงคุณพ่อนะคะ ท่านบอกว่าเก้าอี้มีสามขาจึ่งจะไม่ล้ม วันนั้นเราคุยกันเรื่องที่เพื่อนบ้านของเราไปมีเมียน้อยคะ แสดงว่าที่ท่านพูดแบบนี้ก็บอกให้เพื่อนบ้านมีเมียน้อยเพิ่มอีกคนใช่มัยคะ
บุรษไปรษณีย์จะทำหน้าอย่างไงหน่า..อิอิ
ความจริงเรื่องนี้เป็นโศกนาฎกรรมในชีวิตมนุษย์ครับ
เราไม่เคยมองเห็นถึงความช่วยเหลือจากผู้อื่น
เรามองเห็นแต่เพียงว่าเราถูกเอารัดเอาเปรียบ
โลกนี้ แท้ที่จริง มีความพึ่งพาซึ่งกันและกันอยู่รายรอบตัวเรา
เห็นอีกแง่
ก้อตลก