หนังสือส่งเสริมการอ่านสำหรับเยาวชน


ลอยกระทง

 

                น้ำลดลงมากแล้ว  ถนนในหมู่บ้านแห้งสนิท  รถราพอสัญจรไปมาได้  น้าแจ๊ดที่เอาวัวไปเลี้ยงบนถนนใหญ่ต้อนวัวมาไว้ที่ถนนหน้าบ้าน  ณ เวลานี้บนถนนจึงเต็มไปด้วยฝูงวัว  ควาย เล้าเป็ด เล้าไก่ เล้าหมู จักรยาน มอเตอร์ไซค์ รถยนต์ อะไรต่อมิอะไรจิปาถะ  เพราะนอกจากบนถนนรวมถึงบ้านที่ถมให้เท่าหรือสูงกว่าถนนแล้ว  ทั่วทุกหนแห่งยังเต็มไปด้วยน้ำ  ใครมีธุระปะปังต้องออกจากบ้าน  ยังต้องพายเรือมาจอดทิ้งไว้ที่ถนน  ไม่ก็ลุยน้ำหรือบางบ้านดีหน่อยก็ทำสะพานไม้แผ่นเดียวทอดมาถึงถนนให้เดินกันได้สะดวก

                นุตเห็นรอยคราบน้ำที่เสาหน้าบ้านลดลงไปประมาณฟุตนึงได้  แม่จึงมีบัญชา

                วันนี้  เราจะทำความสะอาดประตู หน้าต่าง มุ้งลวด กระจก บานเกล็ดทุกบาน  แบ่งกันทำ ห้องใครห้องมัน ณัฐ นันท์ โตหน่อย แม่แถมห้องครัว ห้องรับแขก อีกคนละห้อง  ตกลงกันเองแล้วกันนะ ใครจะเอาห้องไหน

        นุตมาช่วยทำห้องแม่  และเช็ดบานเกล็ดทุกบานก็แล้วกันนะ  แม่สั่งอย่างนี้เพราะนุตใช้ห้องรวมกับพี่ๆ

                แม่จัดแจงเตรียมอุปกรณ์ ขันน้ำ  ถังน้ำ  ผงซักฟอก  แปรงสีฟัน  ผ้าขี้ริ้ว  กระดาษหนังสือพิมพ์  เก้าอี้พลาสติก

                พ่อกุลีกุจอปลดม่าน  ขยับของให้ห่างจากหน้าต่าง  ประตู  กันฝุ่น  และน้ำที่จะกระเด็นมาโดน

                วันเพ็ญเดือนสิบสอง        น้ำก็นองเต็มตลิ่ง

                พวกเราทั้งหลายชายหญิง...............  เสียงเพลงดังแว่วมาตามลม

                เฮ้ย!  นันท์วันนี้ลอยกระทงใช่เปล่า  พี่ณัฐหันมาถาม

                ใช่จ้ะ  พี่ณัฐ เมื่อวานหนูเห็นพี่มุกเขาเตรียมตัดต้นกล้วยที่ข้างบ้าน  พี่มุกบอกจะเอาไปทำกระทง  คนตอบกลายเป็นนุต

                รีบๆ ทำงานเข้าซิ  เดี๋ยวแม่ให้พ่อไปตัดต้นกล้วยเอามาทำกระทงมั่ง

                พ่อๆ ตัดต้นกล้วยให้หน่อย  ตัดมาเป็นท่อนๆ เลยนะ จะให้ลูกทำฐานกระทง เอามาหลายๆ ท่อน เผื่อเสีย  ตัดใบกล้วยมาด้วยล่ะ เออ...ทางมะพร้าวด้วยนะ พ่อเหลาทำเข็มกลัดเตรียมไว้เลย  แม่สั่งเป็นชุด

                แม่ไม่เคยทำกระทง  และไม่นิยมลอยกระทง  แม่บอกว่าตอนเด็กๆ ที่บ้านเกิดของแม่ซึ่งใครๆ รู้จักและเรียกว่า บ้านญวน เป็นถิ่นของคนที่นับถือคริสต์  เคร่งในศาสนามาก  ถือกันว่าการลอยกระทงเป็นพิธีกรรมของคนพุทธ  แม่จึงไม่มีความรู้เรื่องการทำกระทง

                ในคืนพระจันทร์เต็มดวง  แม่จึงได้แต่นั่งมองแสงจันทร์ ที่ส่องกระทบผิวน้ำ เป็นประกายระยิบระยับ  แม่ ไม่ได้ลอยกระทง  ได้แต่มองดูกระทงที่มีแสงเทียนริบหรี่  ลอยมาไม่ขาดสายตามลำแม่น้ำน้อย   บางครั้งได้ยินเสียงโดดน้ำ ตูม...ตูม  ของเพื่อนๆ เด็กผู้ชายข้างบ้าน ที่ว่ายน้ำไปเก็บเงินในกระทง

                เมื่อทำความสะอาดเสร็จแล้ว  พี่นิธคนรักสวย รักงาม มีฝีมือทางศิลปะ ก็หอบอุปกรณ์ไปหัดทำกระทงที่บ้านพี่มุก

                ชั่วโมงหนึ่งผ่านไป  พี่นิธกลับมาพร้อมกระทงใบย่อมๆ มีใบตองพับเป็นกลีบดอกบัวสวยงาม  พี่นันท์คนช่างคิดแต่งเติม  สู้อุตส่าห์แอบเดินลุยน้ำไปเด็ดกล้วยไม้ที่แม่รักและหวง ห่วงยิ่งกว่าลูก มาเสียบไว้บนยอดกลีบ  พี่ณัฐเอาธูปเทียนมาปัก 

                พี่นันท์ถึงกับอุทาน  พระเจ้าจอร์จ มันยอดมาก ช่างเป็นกระทงใบตองที่งดงามอะไรปานนี้

                แล้วมหกรรมทำกระทงก็เริ่มขึ้น  จาก   เป็น   เป็น    กระทงใบที่ ๔  กว่าจะเสร็จก็ค่ำพอดี  ทุกคนจึงได้ยุติ ดอกกล้วยไม้สุดหวงของแม่ก็เช่นกัน ยุติการเจริญเติบโตบนต้น มาโตบนกระทงของพวกเราแทน พี่นันท์เตี๊ยมกับทุกคนว่า ให้บอกแม่ว่า ดอกกล้วยไม้อยากสวยในกระทง เลยพร้อมใจกันร่วงลงมาให้เก็บ

        พระจันทร์สีนวลจ้าแล้ว  เราทั้ง    ปรึกษากันว่าจะเอากระทงไปลอยที่ไหนกันดี  ก็บังเอิญได้ยินเสียงเด็กๆ แว่ว มาจากที่ถนนหน้าบ้าน พ่อจึงพายเรือ  เที่ยวไปส่งพวกเรา  เราจึงไปสมทบกับคนอื่นๆ ที่อยู่แถวนั้น

                ไหนของพ่อกับแม่ล่ะ  พ่อถามขึ้นเมื่อลูก ๆ จุดธูป เทียนในกระทงของ ทั้ง  ใบแล้ว

                อีกใบนึงล่ะ นุต พี่นันท์หันมาถาม

                นุตเอาให้อาภรณ์ไปแล้ว  ก็นุตคิดว่าเหลือแล้วนี่  สงสารอาไม่มีใครทำให้  นุตก็เอาให้อาไปแล้ว  อาเลี้ยงนุตมาตั้งแต่นุตยังเดินไม่ได้  ดังนั้นมีอะไรนุตก็จะคิดถึงอาเสมอ

                ไม่เป็นไร พ่อทำใหม่เองก็ได้

                พ่อเดินหายไปพักเดียวก็กลับมาพร้อมกับกระทงกาบกล้วย  เป็นเหมือนเรือลำยาวๆ มีเทียนปักหัว ท้าย มีธูปกับดอกเข็มอยู่ตรงกลาง ไม่ใช่กระทงที่เป็นทรงกลมเหมือนของชาวบ้านเขา    พอทุกคนเห็นก็ได้ฮากันลั่น  พ่อก็เป็นอย่างนี้แหละ  ชอบคิดประยุกต์อะไรต่อมิอะไรมาใช้แทนในยามจำเป็น  แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีเสมอ  แม่เคยประชดว่า ถ้าพ่อเขาประยุกต์อะไรมาแทนแม่ได้  เขาคงทำไปนานแล้ว 

        พ่อตั้งจิตอธิษฐานอยู่พักใหญ่  แล้วก็วางกระทงกาบกล้วยลงบนผิวน้ำ ด้วยความภาคภูมิใจ  ท่ามกลางผู้คนที่คอยลุ้นว่า จะจมมั้ย  จะรอดไหมนี่

        แล้วเสียง เฮ  ก็ดังขึ้น  เมื่อกระทงกาบกล้วยของพ่อลอยน้ำได้ แม้จะเอียงนิดๆ  แต่ก็ลอยนำหน้าไปไกลกว่าใครๆ เพราะเบากว่าของคนอื่นๆ  แถมไฟก็ไม่ดับ

                เสียงพลุ  และลูกไฟที่แตกกระจายหลากหลายรูปแบบที่มองเห็นอยู่ทั้งใกล้ๆ และไกลๆ ช่างเป็นอะไรที่สวยงามเกินจะบรรยาย  

                เทียนในกระทงหลายใบที่ลอยอยู่บนผิวน้ำ ดับไปแล้ว แต่พวกเราก็ยังคงยืนพูดคุยกันอย่างมีความสุข  บางคนถึงกับนั่งลงเพราะยืนจนเมื่อย

                 คืนนี้นุตนอนหลับสนิท โดยที่ไม่ได้ฝันถึงสิ่งใด  เพราะที่ผ่านมามันเป็นความสุขที่เกิดขึ้นกับนุตจริงๆ

       

หมายเลขบันทึก: 216140เขียนเมื่อ 12 ตุลาคม 2008 21:31 น. ()แก้ไขเมื่อ 19 มิถุนายน 2012 15:17 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

บ้านกลางน้ำสนุกมากเลยคะ

บ้านกลางน้ำเป็นหนังสือที่ดีมากเลยค่ะ

ถามตามร้านหนังสือแล้วไม่มีน่ะค่ะต้องซื้อที่ไหนเหรอค่ะ..

ลงเป็นตอนในวารสารเพื่อพื่อนรักค่ะ ของสำนักพิมพ์ปีนัง รายเดือนค่ะ

พิมพ์เป็นเล่ม ให้เด็ก ๆ ใช้อ่านเป็นตัวอย่างการเขียนเรื่องเล่าจากประสบการณ์ค่ะ

ไม่ได้วางตามร้านหนังสือค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท