"พืชสมุนไพร" เหล่านี้มีลักษณะลำต้น ยอด ใบ ดอก ที่แตกต่างกันไป
ตามสายพันธุ์ แต่ส่วนต่างๆ ก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกัน
"
พืชสมุนไพร"
โดยทั่วไปนั้น แบ่งออกเป็น 5
ส่วนสำคัญด้วยกัน
คือ
1.รา
2.ลำต้น 3.ใบ
4.ดอก
5.ผล
"
พืชสมุนไพร" เหล่านี้มีลักษณะลำต้น ยอด ใบ ดอก
ที่แตกต่างกันไปตามสายพันธุ์ แต่ส่วนต่างๆ
ก็ทำหน้าที่เช่นเดียวกัน
เช่นรากก็ทำหน้าที่ดูดอาหารมาเลี้ยงลำต้นกิ่งก้านต่างๆและใบกับส่วนต่างๆนั่นเองใบก็ทำหน้าที่ปรุงอาหารดูดออกซิเจน
คายคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา ดอก ผล เมล็ด
ก็ทำหน้าที่สืบพันธุ์กันต่อไป
เพื่อทำให้พืชพันธุ์นี้แพร่กระจายออกไปเรื่อยๆไม่มีที่สิ้นสุด
ส่วนต่างๆของพืชที่ใช้เป็นพืชสมุนไพร
1.ราก
รากของพืชมีมากมายหลายชนิดเอามาเป็นยาสมุนไพรได้อย่างดี
เช่น กระชายขมิ้นชัน ขิง ข่า
เร่งขมิ้นอ้อย
เป็นต้นรูปร่างและลักษณะของราก
แบ่งออกเป็น 2
ชนิด คือ
1.1รากแก้ว
ต้นพืชมากมายหลายชนิดมีรากแก้วอยู่
นับว่าเป็นรากที่สำคัญมากงอกออกจาลำต้นส่วนปลาย
รูปร่างยาวใหญ่เป็นรูปกรวยด้านข้างของรากแก้วจะ
แตกแยกออกเป็นรากเล็กรากน้อยและรากฝอยออกมาเป็นจำนวนมากเพื่อทำการดูดซึมอาหารในดินไปบำรุงเลี้ยงส่วนต่างๆของต้นพืชที่มีรากแก้วได้แก่
ต้นขี้เหล็ก ต้นคูน เป็นต้น
1.2รากฝอย
รากฝอยเป็นส่วนที่งอกมาจากลำต้นของพืชที่ส่วนปลายงอกออกมาเป็นรากฝอยจำนวนมากลักษณะรากจะกลมยาวมีขนาดเท่าๆกันต้นพืชที่มีใบเลี้ยงเดี่ยวจะมีรากฝอย
เช่น หญ้าคา ตะไคร้ เป็นต้น
2.ลำต้น
นับว่าเป็นโครงสร้างที่สำคัญของต้นพืชทั้งหงายที่มีอยู่สามารถค้ำยันเอาไว้ได้ไม่ให้โค่นล้มลง
โดยปกติแล้วลำต้นจะอยู่บนดินแต่บางส่วนจะอยู่ใต้ดินพอสมควร
รูปร่างของลำต้นนั้นแบ่งออกได้เป็น 3
ส่วนด้วยกัน คือ ตา ข้อ ปล้อง
บริเวณเหล่านี้จะมีกิ่งก้าน ใบ
ดอกเกิดขึ้นอีกด้วย
ซึ่งจะทำให้พืชมีลักษณะที่แตกต่างกันออกไปชนิดของลำต้นพืช
แบ่งตามลักษณะภายนอกของลำต้นได้เป็น
1.ประเภทไม้ยืนต้น
2.
ประเภทไม้พุ่ม
3.
ประเภทหญ้า
4.
ประเภทไม้เลื้อย
3.ใบ
ใบเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของต้นพืชทั่วไป
มีหน้าที่ทำการสังเคราะห์แสง
ผลิตอาหารและเป็นส่วนที่แลกเปลี่ยนน้ำและอากาศให้ต้นพืช
ใบเกิดจากการงอกของกิ่งและตาใบไม้โดยทั่วไปจะมีสีเขียว
(
สีเขียวเกิดจากสารที่มีชื่อว่า"คอลโรฟิลล์"อยู่ในใบของพืช)ใบของพืชหลายชนิดใช้เป็นยาสมุนไพรได้ดีมาก
รูปร่างและลักษณะของใบนั้นใบที่สมบูรณ์มีส่วนประกอบรวม
3
ส่วนด้วยกันคือ
1.
ตัวใบ
2.
ก้านใบ
3.
หูใบ
ชนิดของใบ แบ่งออกได้เป็น 2
ชนิด
คือ
1.ชนิดใบเลี้ยงเดี่ยว หมายถึงก้านใบอันหนึ่ง
มีเพียงใบเดียว เช่น กานพลู ขลู่ ยอ กระวาน
2.
ชนิดใบประกอบ หมายถึงตั้งแต่ 2
ใบขึ้นไปที่เกิดขึ้นก้านใบอันเดียว มี
มะขามแขกแคบ้าน ขี้เหล็ก มะขาม
เป็นต้น
4. ดอก
ส่วนจองดอกเป็นส่วนที่สำคัญของพืชเพื่อเป็นการแพร่พันธุ์ของพืช
เป็นลักษณะเด่นพิเศษของต้นไม้แต่ละชนิด
ส่วนประกอบของดอกมีความแตกต่างกันตามชนิดของพันธุ์ไม้และลักษณะที่แตกต่างกันนี้เป็นข้อมูลสำคัญในการจำแนกประเภทของต้นไม้
รูปร่างลักษณะของดอก
ดอกจะต้องมีส่วนประกอบที่สำคัญ 5
ส่วนคือ
1.ก้านดอก
2.
กลีบรอง
3.
กลีบดอก
4.
เกสรตัวผู้
5.
เกสรตัวเมีย
5.ผล
ผลคือส่วนหนึ่งของพืชที่เกิดจากการผสมเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอกเดียวกันหรือคนละดอกก็ได้
มีลักษณะรูปร่างที่แตกต่างกันออกไปตามประเภทและสายพันธุ์รูปร่างลักษณะของผลมีหลายอย่าง
ตามชนิดของต้นไม้ที่แตกต่างกัน แบ่งตามลักษณะ
ของการเกิดได้รวม 3
แบบ
1.
ผลเดี่ยว หมายถึง ผลที่เกิดจากรังไข่อันเดียวกัน
2.
ผลกลุ่ม หมายถึง
ผลที่เกิดจากปลายช่อของรังไข่ในดอกเดียวกัน เช่น
น้อยหน่า
3.
ผลรวม หมายถึง ผลที่เกิดมาจากดอกหลายดอก เช่น
สับปะรด
มีการแบ่งผลออกเป็น 3
ลักษณะคือ
1.
ผลเนื้อ
2.
ผลแห้งชนิดแตก
3.ผลแห้งชนิดไม่แตก
"พืชสมุนไพร" นั้นมีสรรพคุณทางยาดีมาก
คนโบราณใช้ทำการรักษาโรคกันมานานแล้วควรอนุรักษ์เอาไว้ให้ดี
ในวงการแพทย์ก็มองเห็นความสำคัญของพืชที่มีประโยชน์ในทางยานี้มากเช่นเดียวกัน
มีการนำเอา "พืชสมุนไพร"
ไปสะกัดเอาสารสำคัญที่มีอยู่ในส่วนต่างๆ
ของพืชสมุนไพรทำประโยชน์กันมากในชนบทที่ห่างไกลก็ใช้
"พืชสมุนไพร" นี้เองช่วยในการบำบัดรักษาโรค
และอาการเจ็บไข้ได้ป่วย
ซึ่งก็นับว่าได้ผลดีมากเช่น
1. ใช้ชุมเห็ดเทศเป็นยาถ่าย
ยาระบาย
2. ใช้บัวบกเป็นยาแก้เจ็บคอ
แก้ร้อนใน
3.
ใช้มะนาวเป็นยาแก้เลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิด
4. ใช้มะระเป็นยาขมเจริญอาหาร
5. ใช้กะเพราเป็นยาเพิ่มน้ำนมในสตรีหลังคลอด
6.
ใช้ไพลเป็นยารักษาโรคหืด
7. ใช้ตำลึงรักษาโรคเบาหวาน
สิ่งเหล่านี้เป็นความสามารถของแพทย์แผนโบราณที่ยึดเอา
"
พืชสมุนไพร"เป็นหลักในการักษาโรคที่เกิดขึ้นกับคนเรามานับร้อยนับพันปีมาแล้ว