คำถาม
เป็นอาจารย์สอนวิชาระเบียบวิธีวิจัย ได้แนะนำนักศึกษาให้ไปค้นหางานวิจัยในอดีตที่ดี เอามาเป็นต้นแบบวิธีการ ถามว่าผิดจริยธรรมหรือไม่
คำตอบ (วิจารณ์)
วิธีการเรียนรู้จากรายงานผลการวิจัยที่ดี ที่มีการตีพิมพ์ไว้ ถือเป็นวิธีการเรียนรู้มาตรฐาน เป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่เมื่อนำไปใช้ ต้องอ้างอิง ต้องบอกว่าได้วิธีการหรือแนวคิดมาจากไหน ถ้าไม่อ้างอิง ถือว่าผิดจริยธรรมฐานลอกเลียน หรือขโมยความคิด ที่เรียกว่า “โจรกรรมวิชาการ” (plagiarism)
คำถาม
เป็นอาจารย์คุมวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก มีอาจารย์อีกมหาวิทยาลัยหนึ่งได้อ่านวิทยานิพนธ์นั้น และเขียนจดหมายมาขอใช้ความรู้ส่วนหนึ่งของวิทยานิพนธ์นั้นในวิทยานิพนธ์ของลูกศิษย์ของตน ได้ตอบอนุญาต แต่เมื่อได้อ่านวิทยานิพนธ์ของศิษย์ของอาจารย์ท่านนั้น พบว่าได้เอาข้อความไปใช้ในวิทยานิพนธ์โดยไม่ได้อ้างอิง ถามว่าผิดจริยธรรมหรือไม่
คำตอบ (วิจารณ์)
ถือว่าผิดจริยธรรมในการวิจัยว่าด้วยการลอกเลียน (plagiarism) และน่าจะสะท้อนว่าอาจารย์ท่านนั้นไม่เข้าใจเรื่องการอ้างอิง ไม่เข้าใจจริยธรรมการวิจัยว่าด้วยการอ้างอิง
คำพูด (วิชา มหาคุณ)
วิทยานิพนธ์จำนวนมากเป็นขยะ ไม่มีความรู้ใหม่ใดๆ เลย
ความเห็น (วิจารณ์)
สภาพที่วิทยานิพนธ์เป็นขยะ เป็นการทำผิดจริยธรรมในการวิจัยโดยมหาวิทยาลัยนั้น เพราะเท่ากับเป็นการนำเอาทรัพยากรของสังคมมาใช้โดยไม่เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า
คำบอกเล่า
ไปบรรยาย ผู้ฟังมาขอดูด PowerPoint ไป พบภายหลังว่าผู้ขอ PowerPoint เอาไปใช้สอนนักศึกษา โดยทำเสมือนเป็นของตนเอง ไม่อ้างอิงว่าได้มาจากใคร
ตีความโดยวิจารณ์
นี่คือตัวอย่างของการทำผิดจริยธรรมว่าด้วยการลอกเลียน
คำบ่นกลุ้มใจ
อาจารย์อาวุโสจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงมาดักพบ และปรารภว่ามีการลอกวิทยานิพนธ์เก่า เอาไปใช้ในวิทยานิพนธ์ใหม่ของมหาวิทยาลัยอื่น โดยไม่อ้างอิงมากมาย ทำกันเป็นของธรรมดา เมื่อจะมีการจับและจะลงโทษ ก็มีคนมาบอกว่าทำไมต้องเคร่งครัดกันนัก
ตีความโดยวิจารณ์
นี่คือตัวบ่งชี้ว่า ควรมีการวิจัยเรื่องการประยุกต์ใช้ข้อกำหนดจรรยาบรรณของนักวิจัย ฉบับของ วช. ในบริบทต่างๆ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องจริยธรรมในการวิจัยในสังคมไทย
เรื่องเล่าในวงอาหารเที่ยง
อาจารย์ที่ปรึกษาวิทยานิพนธ์ของมหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่ง มีมติว่าวิทยานิพนธ์ยังไม่ได้คุณภาพ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยมาขอร้องว่าขอให้ผ่าน “ถ้าเคร่งครัดเกินไปต่อไปจะไม่มีคนมาเรียน”
ตีความโดยวิจารณ์
นี่คือตัวอย่างของการทำผิดจริยธรรมในการวิจัย โดยผู้บริหารสถาบัน
คุยกันในวงอาหารเที่ยง
มีการรับจ้างทำวิทยานิพนธ์ มีการติดป้ายโฆษณา ราคาค่าบริการที่ครบวงจรตั้งแต่คิดชื่อวิทยานิพนธ์ และเขียนรายงานให้เสร็จเรียบร้อย ๕ หมื่นบาท
ตีความโดยวิจารณ์
นี่คืออาชญากรรมทางวิชาการที่รุนแรง เป็นโทษอุกฤษณ์ ถ้าจับได้ว่ามีอาจารย์เป็นผู้รับจ้าง โทษมีอย่างเดียวคือไล่ออก นักศึกษาที่จ้างทำวิทยานิพนธ์ก็ป้องกันได้ไม่ยาก เพราะเมื่อสอบก็จะมีวิธีตรวจจับได้ไม่ยาก ถ้ามหาวิทยาลัยเคร่งครัดจริงจัง
การพัฒนาจริยธรรมที่ง่ายและน่าสนใจที่สุด ทำโดยเอาเรื่องที่ทำกับแบบลับๆ ล่อๆ เอาออกสู่ที่แจ้ง และถามความเห็นกันว่าพฤติกรรมเช่นนั้นยอมรับได้ว่าเป็นสิ่งเหมาะสมหรือไม่ เมื่อยึดถือจรรยาบรรณที่มีการกำหนดไว้
การวิจัยเรื่องจริยธรรมในการวิจัย ต้องวิจัยเข้าสู่การปฏิบัติจริงที่เป็นชีวิตจริงในสังคม
วิจารณ์ พานิช
๑๕ ก.ย. ๕๑
สวัสดีครับ ท่านอาจารย์หมอวิจารณ์ :)
ผมได้มีโอกาสเดินทางไปร่วมงาน Thailand Research Expo 2008 เช่นกันครับ ทราบว่า อาจารย์หมอเป็นวิทยากร แต่ผมจองไม่ทันจึงมิได้ฟังรายละเอียดครับ
หากแต่บันทึกนี้ สะท้อนมุมมองทางวิชาการหลายมุมมากครับ ถือเป็ฯสิ่งที่ผู้คนในวงวิชาการควรต้องคิดให้ดี ๆ ในการกระทำเรื่องราวต่าง ๆ นี้
จิตสำนึกที่ดี ที่ถูกต้อง สร้างไม่ยาก หากคนเหล่านั้นต้องการทำดี ทำถูก จริง ๆ ครับ
ขอบคุณครับอาจารย์ :)
อาจารย์ผู้ควบคุมวิทยานิพนธ์น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีแก่นิสิตในการกระทำสิ่งที่ถูกต้องครับ ชื่นชมในตัวอาจารย์มานานอ่านทุกบทความของอาจารย์ใน blog ถ้าเรียนจบอยากพบและแลกเปลี่ยนทัศนะคติกับอาจารย์ซักหน
ขอแสดงความนับถือครับ
การออกนอกระบบ และระบบการศึกษาแบบภาคพิเศษจำนวนมากในปัจจุบัน
เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดเหตุการดังที่ท่านอาจารย์ได้กล่าวมา
คิดว่าระบบการศึกษาของไทย น่าจะต้องมีการปฏิรูปกันขนานใหญ่เสียแล้วค่ะ
ขออนุญาตนำลิงก์ไปเผยแพร่ให้นิสิตปริญญาเอก
ขอบพระคุณค่ะ
กฤธยากาญจน์