ไปเพิ่มพูนความรู้-ประสบการณ์หลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับกลาง( 6 )


ได้ไปเยี่ยมชมศูนย์สาธิตการเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจรและสหกรณ์โคเนื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน

เยี่ยมชมสหกรณ์โคเนื้อและศูนย์สาธิตการผลิตโคเนื้อแบบครบวงจร

มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ในช่วงบ่ายของวันที่ 3 กันยายน 2551

 

 

ในช่วงบ่าย ของวันที่ 3 กันยายน 2551 ทางคณะนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ ระดับกลางรุ่นที่38 ได้ไปเยี่ยมชม ศูนย์สาธิตการเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจร และสหกรณ์โคเนื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน ซึ่งมีอาจารย์ ปรีชา ได้เล่าให้ฟังว่า

  

                

      สหกรณ์โคเนื้อฯ เริ่มก่อตั้งเมื่อปี 2536 เริ่มจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์มีโครงการปรับปรุงพันธุกรรมและสมรรถภาพการผลิตโคพันธุ์กำแพงแสน เมื่อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ตั้งโครงการมีลูกโคทั้งเพศผู้ และเพศเมีย เพศเมียใช้เป็นแม่พันธุ์ เพศผู้มีเพียงบางส่วนที่สามารถนำมาเป็นพ่อพันธุ์ได้ โดยเฉลี่ยในเพศผู้ 100 ตัว สามารถทำเป็นพ่อพันธุ์ได้เพียง 20 ตัว เท่านั้น เลยเกิดปัญหาว่าโคที่เหลือจะไปทำอะไร ก็เป็นจุดเริ่มต้นสหกรณ์โคเนื้อมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน จำกัด ขึ้น

 
โคเนื้อพันธุ์กำแพงแสน

          โคพันธุ์กำแพงแสนเกิดจากโค 3 สายพันธุ์ คือ พันธุ์พื้นเมืองไทย พันธุ์บราห์มัน และพันธุ์ชาโลเลส์ การนำเอาโค 3 สายพันธุ์เข้ามาผสมกันก็คือการนำเอาข้อดีพันธุ์ไทยพื้นเมือง ทนร้อน เลี้ยงลูกเก่ง ให้ลูกมาก หรือเรียกง่ายๆ ว่ามีความสมบูรณ์พันธุ์ แต่ก็มีข้อเสีย คือโครงสร้างเล็กอัตราการเจริญเติบโตช้า ทางมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์จึงนำโคพันธุ์บราห์มันซึ่งมีข้อดีคือโครงสร้างใหญ่ เข้ามาปรับปรุงพันธุ์ โดยช่วงแรกการผสมใช้พันธุ์ พื้นเมืองไทย+พันธุ์บราห์มัน ลูกที่ออกมาจะเป็น 50:50 ก็จะทำการคัดเลือกตัวเมียมาแล้วผสมพันธุ์ชาโลเลส์เข้าไป ข้อดีของพันธุ์ชาโลเลส์ คือ เป็นโคที่มีอัตราการเจริญเติบโตสูง และมีลักษณะของการเป็นโคเนื้อมาก คือ มัดกล้ามเนื้อที่ดีมาก เมื่อผสมรวมกันแล้วก็จะได้โคที่มีทั้งอัตราการเจริญเติบโตที่ดีโครงสร้างที่ใหญ่ ความสมบูรณ์พันธุ์ยังดีอยู่ เหตุผลที่ไม่นำเอาพันธุ์บราห์มัน มาผสมกับพันธุ์ชาโรเลส์ เพราะว่าพันธุ์บราห์มันมีข้อเสียเป็นโคที่ค่อนข้างขี้อายและความสมบูรณ์พันธุ์ต่ำ

 

 

ขั้นตอนการดำเนินงานสหกรณ์

 

 

                   1. รับลงทะเบียนโคที่เป็นพันธุ์กำแพงแสน หรือเลือกโคเนื้อตระกูลยุโรป 50% เพศผู้เท่านั้น อายุประมาณ 10 - 24 เดือน (ฟันแท้ไม่งอก) น้ำหนัก 200 - 300 กก. ทางสหกรณ์มีอนุกรรมการฝ่ายผลิตเข้าไปสำรวจถ้าผ่านการตรวจก็ติดเบอร์ที่หูให้ภายใน 10 วัน สหกรณ์ก็จะแจ้งกลับไปยังตัวสมาชิกว่าโคตัวนี้สหกรณ์รับลงทะเบียนเข้าขุนแล้ว จากนั้นทางสหกรณ์ก็จะคำนวณอัตราการเจริญเติบโต และวันที่ส่งตลาดให้แก่สมาชิกอย่างคร่าวๆ หลังจากนั้นอีก 90 วัน ทางสหกรณ์ก็จะมีคณะอนุกรรมการออกไปตรวจแล้วก็ให้คำแนะนำอีกรอบส่วนน้ำหนักต้องอยู่ที่ประมาณ 550 กก. และต้องผ่านการขุนมา 8 - 10 เดือน เมื่อได้ตามหลักเกณฑ์ก็จะส่งเข้ามายังโรงฆ่าของศูนย์วิทยาศาสตร์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์

          2. ธุรกิจด้านการแปรรูปผลิตภัณฑ์อยู่ในรูปเนื้อแช่แข็ง แบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกส่งให้ตลาดทั่วไปก็คือ ห้าง/บริษัท สหกรณ์จะบ่มซากที่ 0 - 3 องศา ประมาณ 7 วัน ก็ส่งขาย อีกส่วนทางสหกรณ์ก็ตัดแต่งเอง โดยตัดในรูปเนื้อถาด/เนื้อแพ็คลงถาด บ่มประมาณ 14-20 วัน แล้วแต่ชิ้นส่วนก่อนการส่งขาย เหตุผลที่ต้องบ่มก่อนส่งออกขายก็เพราะโคที่ฆ่ามาใหม่ๆ จะมีการทำงานของเซลล์ยังไม่สิ้นสุดต้องการให้การทำงานเซลล์สิ้นสุดจะมีเอ็นไซส์มาย่อยสลายทำให้เนื้อนุ่มขึ้น (อายุของเนื้อขึ้นอยู่กับการเก็บรักษา) เน้นที่โคอายุน้อยประมาณ 20 - 24 เดือน น้ำหนักประมาณ 500-550 กก. และก็มีธุรกิจสินเชื่ออาหารสัตว์ใช้หลักเกณฑ์ 1 ตัว ต่อสินเชื่อ อาหารสัตว์ 5,000 บาท แต่จะปล่อยสินเชื่อเฉพาะรายย่อย (เลี้ยงไม่เกิน 10 ตัว) อัตราดอกเบี้ยที่คิด 12% ต่อปี มีทั้งการรับฝากเงินสมาชิกการถือหุ้นของสหกรณ์ 500 บาท ต่อโค 1 ตัวที่ขายให้กับสหกรณ์

 

3. สหกรณ์ให้ราคาตามคุณภาพซากที่สมาชิกทำได้ สมาชิกคนไหนเลี้ยงโคคุณภาพดี ก็ได้ราคาสูงโดยสมาชิกจะเป็นผู้ขนส่งซากโคเข้ามาที่สหกรณ์เอง สำหรับรายได้ของสหกรณ์ มาจากการขายหนังและเครื่องในที่มากับโค รายได้จากการขายเนื้อตัดแต่ง และสินเชื่ออาหารสัตว์แต่สหกรณ์ไม่เน้นกำไรเท่าไหร่นัก แต่เน้นที่สมาชิกอยู่ได้ โดยสหกรณ์เป็นคนกลางในการจัดจำหน่ายให้กับสมาชิกเท่านั้น ผลิตภัณฑ์โคเนื้อที่สหกรณ์ต่างจากที่อื่น คือ เป็นเนื้อปลอดสารพิษ สหกรณ์จะเข้มงวด ไม่ใช้ฮอร์โมนเร่งการเจริญเติบโตไม่ใช้สารเร่งเนื้อแดงในอาหาร และยาปฏิชีวนะที่มีส่วนเร่งการเจริญเติบโต

ปัจจุบันสหกรณ์โคเนื้อฯ กำลังดำเนินการไปได้ดีความต้องมีอยู่สูง แต่ลูกโคที่เข้าขุนยังมีปริมาณน้อยอยู่อยากให้เกษตรกรที่มีความสนใจที่จะเลี้ยงโคขุน

 

 

การจัดการเนื้อโคก่อนถึงมือผู้บริโภค

 

 

                   -    โคทุกตัวต้องผ่านการลงทะเบียนโคขุนก่อน โดยโคที่ลงทะเบียนต้องมีน้ำหนักตัว 350 - 400 กก. ผ่านการตอน การถ่ายพยาธิ ฉีดวัคซีน PMD เรียบร้อยแล้ว จากนั้นสมาชิกจะได้รับไมโครชิป พร้อมถ่ายรูปโคที่ลงทะเบียนส่งกลับมายังสหกรณ์ภายใน 2 สัปดาห์ หลังจากได้รับไมโครชิป

                   -    สมาชิกต้องขุนนาน 8 - 10 เดือน โดยขุนให้ได้น้ำหนักตัว 550 - 650 กก. อายุไม่เกิน 2 ปี ขุนด้วยอาหาร TMR หรืออาหารข้นก็ได้ ในระหว่างการขุน สมาชิกต้องส่งแบบฟอร์มบันทึกการขุนโค กลับมายังสหกรณ์ทุกเดือนจนกว่าจะถึงกำหนดโคเข้าฆ่า

 

 

 

การขนส่ง

                   จัดส่งเนื้อโดยการควบคุมอุณหภูมิตลอดเวลาโดยรถห้องเย็น

 

 

 

ความปลอดภัยของโคเนื้อ KU

                   สหกรณ์โคเนื้อ ได้มีระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (Traceabiltty) ของระบบการผลิตโคขุน โดยได้รับความร่วมมือจากผู้เลี้ยงทำการบันทึกการเลี้ยงโคขุน และโคทุกตัวฝังไมโครชิพเพื่อง่ายต่อการตรวจสอบและการจัดการภายในฟาร์ม ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสหกรณ์ไปให้คำแนะนำ

 

  

ประโยชน์และการนำไปปรับใช้

1.  ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่มแบบสหกรณ์ไปเผยแพร่และปรับใช้แก่เกษตรกรที่ยังไม่พร้อม

                   2.  ส่งเสริมให้เกษตรกรรวมกลุ่มทำธุรกิจแบบครบวงจร และใช้การบริหารงานแบบสหกรณ์

                   3.  ในการผลิตสินค้าต้องเน้นคุณภาพของผลผลิต และความต้องการของตลาด โดยมีการบันทึกข้อมูล และทำระบบตรวจสอบย้อนกลับเพื่อการควบคุมคุณภาพ

4.  เน้นการผลิตที่มีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาดมากกว่าปริมาณ

5.  สามารถควบคุมและจัดการฟาร์มได้ง่าย หากเกิดโรคระบาด

 

จึงนับได้เป็นการบริหารจัดการฟาร์มเลี้ยงโคเนื้อแบบครบวงจร ตามระบบสหกรณ์ที่มีความก้าวหน้า ทั้งนี้ยังเป็นการส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อพันธุ์กำแพงแสนให้ขยายแพร่หลายต่อไป ทางคณะผู้เข้ารับการฝึกอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ระดับกลางรุ่น38 ต้องขอขอบคุณทางศูนย์สาธิตผลิตโคเนื้อแบบครบวงจรและสหกรณ์การเลี้ยงโคเนื้อ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์วิทยาเขตกำแพงแสน ไว้ ณ.โอกาสนี้ด้วยครับ

 

หมายเลขบันทึก: 209738เขียนเมื่อ 18 กันยายน 2008 17:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:35 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท