วันที่ 2 ของการเดินทาง เวลา 6.00 น.(บ้านเรา 7.00 น.) เวลาเค้าเร็วกว่าเรา 1 ชม. เราทานอาหารเช้าที่ห้องอาหารของเกนติ้ง เป็นที่ๆเราทุกคนได้รู้ว่าพวกเราอยู่สูงแค่ไหน ใช่แล้ว...พวกเราทุกคนกำลังอยู่เหนือเมฆ สุดยอด จริง ๆอยากให้คนอ่านได้อยู่กับเราด้วยจัง ความรู้สึกเกินบรรยายจริง ๆค่ะ โดยเฉพาะต้องนั่งกระเช้าลงจากเกนติ้ง โอ้โห้ ...ตื่นเต้นมากขอแนะนำว่าคนที่กลัวความสูงอย่ามองลงข้างล่างนะคะ หัวใจคุณวายแน่ เมื่อขึ้นรถเรียบร้อยเดินทางออกจากเกนติ้ง....ช่วงเช้า เวลา 10.00 น.เราเริ่มการศึกษาดูงานที่โรงเรียนอิสลามแห่งหนึ่ง ระบบการจัดการศึกษาและการวางแผนดีมาก มีนักเรียนหลายชนชาติรวมพันกว่าคน เป็นโรงเรียนที่สอน 4 ภาษา เน้นอังกฤษเป็นหลัก มีโควตาให้นักเรียนศึกษาต่อในหลาย ๆประเทศ เช่น ในตะวันออกกลาง อเมริกา เป็นต้น ภัตตาคารจีนเป็นอาหารกลางวันสำหรับพวกเรา สำหรับคนที่ชอบทานรสจัดตามแบบฉบับอาหารไทยบ้านเราคงไม่ต้องให้บอกว่าอาหารเค้าอร่อยมั้ย พวกเราทำให้กันตั้งแต่ไกด์บอกกับเราว่าที่มาเลเค้าไม่ใช่น้ำปลากับพริกในการทำอาหาร (ทนหน่อย....อีกไม่กี่มื้อก็กลับบ้านแล้ว) ช่วงบ่ายเราก็ได้เที่ยวสถานที่ ๆสำคัญในรัฐกัวลาลัมเปอร์ เช่น พุทธาจาย่า เป็นศูนย์ราชการแห่งใหม่ ,ตึกแฝดที่สูงอันดับ 3 ของโลก ,เสาธงที่สูงที่สุดในโลก , และอนุสรณ์สถาน ต่างๆ อีกหลายที่ จากที่สังเกตดูประเทศเค้าเน้นการอนุรักษ์ไม่ว่าจะเป็นตึกเก่าโบราณทรงอังกฤษ โดยเฉพาะป่าไม้และต้นไม้ อุดมสมบูรณ์ทั้งในตัวเมืองและนอกเมือง รถยนต์ที่ใช่มีแต่รถเก๋ง เท่าที่นับดูเห็นรถปิคอัพ ไม่เกิน 5 ค้น เมื่อเวลาสมควรแล้วอาหารจีนเหมือนเดิม แล้วเข้าพักที่โรงแรมบุตรี ในตัวเมืองกัวลาลัมเปอร์ ลืมบอกว่าที่ประเทศมาเล มีประชาชนอยู่ 4 กลุ่ม (มลายู/มาเล,จีน,อินเดีย,ไทย) ซอยข้าง ๆ โรงแรมนี้จะเป็นที่ช็อปปิ้งแต่เน้นของมือสองและพวกอินเดียเยอะ ถ้าใครได้มีโอกาสไปมาเลขอแนะนำว่าอย่าพักหรือเดินที่ย่านนี้เด็ดขาด (เป็นที่มาของเครื่องหมาย ? ที่ผู้เขียนใส่ไว้ในคำสำคัญ) เพราะมีพวกเราบางคนเจอเหตุการณ์ระทึกขวัญในสถานที่แห่งนี้ แต่ขอไม่พูดถึงนะคะเพราะไม่อยากจดจำในสิ่งที่ไม่ดีค่ะ
ขอบคุณ อ.ขจิต มากนะคะ ที่ตามมาดูและขอให้อ.ตามดูต่อไปด้วยนะคะ สำหรับคำชมและคำแนะนำมีประโยชน์มาก เอาไว้จะทำตามที่อ.บอกค่ะ