ความเครียดยุคอารยะขัดขืนทำชายไทย“นกเขาไม่ขัน”


ความเครียดยุคอารยะขัดขืนทำชายไทย“นกเขาไม่ขัน”
ความเครียดยุคอารยะขัดขืนทำชายไทย“นกเขาไม่ขัน”

ข่าววันที่ 9 กันยายน 2551 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ

 
 

 

                           

                                                                                 พจนาถ บุญฉ่ำ เรื่อง 

 

ท่ามกลางสภาวะที่เหตุการณ์ทางการเมืองตึงเครียด  ส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยเป็นวงกว้าง  ค่าครองชีพและข้าวของเครื่องใช้ดูจะมีราคาแพงขึ้นกว่าในอดีตที่ผ่านมา ผู้ชายที่เป็นหัวหน้าครอบครัวต่างคร่ำเคร่งกับการหารายได้มาดูแลครอบครัว  ขณะเดียวกันก็มุ่งหวังที่จะสร้างความสุขให้กับคนที่รัก เพื่อเติมเต็มอีกด้านหนึ่งของชีวิต แต่ด้วยความเครียดที่มีผลมาจากภาวะเศรษฐกิจและการงาน ชายกลุ่มหนึ่งอาจกำลังกังวลเรื่องน้องชายที่อาจเกิดอาการไม่เป็นใจขึ้นมาเสียดื้อ ๆ  

 

                ในเรื่องนี้ นท.ดร.นพ. สมพล เพิ่มพงศ์โกศล แพทย์ประจำหน่วยระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยกรรม โรงพยาบาลรามาธิบดี ให้ทรรศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า  ช่วงเวลาที่ผู้ชายเกิดความเครียดสูง จะด้วยเพราะเรื่องการงาน หรือการที่ต้องคิดกังวลตลอดเวลากับเรื่องการเมือง หรือเศรษฐกิจขึ้นๆ ลงๆ ในเวลานี้อาจจะส่งผลต่อ ความสัมพันธ์ทางเพศ เช่น ปัญหาน้องชายไม่สู้ หรือสู้ไม่ต่อเนื่อง ก่อให้เกิดเป็นโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือโรคอี.ดี. ซึ่งโรคดังกล่าวได้ส่งผลกระทบถึงผู้ชายหลายด้านไม่ว่าจะเป็นด้านความมั่นใจและความภาคภูมิใจในตนเอง นำไปสู่โรคซึมเศร้า และเป็นสาเหตุสำคัญในการหย่าร้างในที่สุด 

 

ชาย 43 % เป็นโรคอี.ดี.

ปัจจุบันพบโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศในผู้ชายไทยสูงถึงร้อยละ 42.18  และจะเพิ่มมากขึ้น ตามสัดส่วนอายุ โดยพบในชายที่มีอายุระหว่าง 40-49  ปี ประมาณร้อยละ 23.39  ผู้ชายที่มีอายุ 50-59 พบว่าเป็นโรคอี.ดี. ร้อยละ 47.79  และสูงถึงร้อยละ 76.95 ในอายุระหว่าง 60-70 ปี  ตามข้อมูลสถิติพบว่ามีผู้ป่วยโรคอี.ดี จำนวนร้อยละ 14.81 รู้สึกค่อนข้างไม่สะดวกที่จะที่ปรึกษาแพทย์ และจำนวนร้อยละ 13.75 รู้สึกอึดอัดกับการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ มีเพียงร้อยละ 9.7 ที่รู้สึกค่อนข้างยินดีที่จะพูดคุยกับแพทย์ 

ฉะนั้นการเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้ป่วยโรคอี.ดี.นั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก จากประสบการณ์ของคุณหมอพบว่าในปัจจุบันคู่สมรสหรือผู้หญิงจะให้ความสนใจมากขึ้นต่อปัญหานี้   สิ่งที่จะขาดเสียไม่ได้คือ การได้รับกำลังใจจากภรรยานั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก ขณะเดียวกันผู้ป่วยโรคอี.ดีมักเริ่มต้นแก้ปัญหาอาการหย่อนสมรรถภาพทางเพศด้วยการออกกำลังกายถึงร้อยละ 76.55 และมีผู้ป่วยโรคอี.ดี. จำนวนร้อยละ 17.8 ที่ใช้ยารักษา ซึ่งผู้ป่วยส่วนใหญ่นิยมใช้ยาแก้โรคอี.ดี.ชนิดรับประทานคิดเป็นร้อยละ 74.54 นอกจากนี้ผู้ป่วยมักจะจูงมือภรรยามาร่วมกันปรึกษามากขึ้น ซึ่งหากมีการร่วมใจและให้กำลังใจกันทั้งสองฝ่ายก็จะทำให้ผลการรักษาโดยการใช้ยานั้นได้ผลดียิ่งขึ้น

ซึ่งภรรยาที่มีสามีกำลังประสบปัญหาโรคอี.ดี. ควรหันมาดูแลเอาใจใส่สามี ด้วยการเปิดใจรับฟังปัญหา พูดคุย ให้กำลังใจ และจูงมือไปปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อร่วมแรงกันแก้ไขปัญหา  เพราะปัญหานี้ไม่ได้ส่งผลต่อคุณผู้ชายเพียงฝ่ายเดียว แต่จะส่งผลโดยตรงกับความสัมพันธ์และความมั่นใจของคุณผู้หญิงด้วย เมื่อร่วมมือร่วมใจเพื่อแก้ไขป้องกันอย่างมั่นเหมาะแล้ว ก็มั่นใจได้เลยว่าไม่ว่าจะเป็นปัญหาหรือวิกฤติใดๆ คุณทั้งคู่ก็จะสามารถผ่านพันไปด้วยความสัมพันธ์อันมั่นคง

 

คุณภาพชีวิตถดถอย

ด้านนายแพทย์กวิรัช  ตันติวงษ์ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์  กล่าวแนะนำวิธีการสังเกตอาการเบื้องต้นที่ทำได้ด้วยตัวเองอย่างง่ายๆ ด้วยการสังเกตุอาการต่อไปนี้  คุณผู้ชายมีอาการหรือพฤติกรรม นกเขาไม่ขัน หรือ ขันไม่จบเพลง ติดต่อกันเกิน 2 เดือน หรือมีการเกิดซ้ำ,มีรอบเอวหนาเกิน 90 ซม. มีอาการปัสสาวะบ่อยผิดปกติ แล้วต่อมาเกิดเหตุการณ์กางเกงเปียกเป็นหย่อมๆ เนื่องจากอาการปัสสาวะขัด หรือ ปัสสาวะกระปริบกระปรอย ,มีอาการซึมเศร้า หงุดหงิดง่าย ,ขี่จักรยานทางไกล หรือขี่มอเตอร์ไซด์เป็นประจำ,สูบบุหรี่ ,ดื่มแอลกอฮอล์,ออกกำลังกายน้อย,อ่อนเพลีย,อยากดื่มน้ำตลอดเวลา,รับประทานอาหารได้แต่ผอม รวมถึงมีโรคประจำตัวเรื้อรัง เช่น โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง อาจเคยผ่าตัด เช่น ผ่าตัดในอุ้งเชิงกราน ผ่าตัดท่อปัสสาวะ หรือผ่าตัดไขสันหลัง และเคยได้รับการฉายแสง 

หากพบว่า คุณผู้ชายมีปัญหาดังกล่าวข้างต้น  ข้อ 1 ร่วมกับข้ออื่นข้อใดที่เหลือ หรือ พบอาการตั้งแต่ 3 อาการขึ้นไป แสดงว่ามีความเสี่ยงต่อโรคหย่อนสมรรถภาพค่อนข้างสูง  ควรไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ หากปล่อยไว้เนิ่นนาน อาจนำไปสู่โรคร้ายแรงต่าง ๆ อาทิ โรคหลอดเลือดและหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง โรคสมองเสื่อมและโรคเบาหวาน

บางคู่อยู่กันมาจนถือไม้เท้ายอดทองกระบองยอดเพชร อายุ  60 – 70 ปี แล้ว นกเขาจะขันบ้างหรือไม่ขันเลย ก็น่าจะเรื่องธรรมดาของคนแก่ เลยไม่คิดจะมาหาหมอ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย อาจมีโรคอื่นๆ ซ่อนอยู่แต่เริ่มแสดงออกให้เห็นด้วยเรื่องนี้ก่อน ควรจะมาพบแพทย์จะดีกว่า"

                สำหรับวิธีการรักษาคู่รักที่มีปัญหาเกี่ยวกับภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ   สิ่งแรกที่ต้องทำคือไปหาหมอใกล้บ้าน เพื่อค้นหาว่าอะไรเป็นต้นตอของปัญหาของคุณผู้ชาย แล้วจึงเริ่มแก้ปัญหาไปตามลำดับ เบื้องต้นควรลดปัจจัยเสี่ยงให้น้อยที่สุด คือจะต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการดำเนินชีวิต เช่น รับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำ ลดเกลือ ลดสุรา งดบุหรี่ หรือใช้เวลาคุยปรึกษาปัญหาชีวิตซึ่งเป็นการรักษาทางด้านจิตใจในกรณีที่ปัญหา นกเขาไม่ขันโดยมีสาเหตุจากด้านจิตใจ ซึ่งแพทย์จะช่วยลดความกังวล  ที่สำคัญผู้ป่วยไม่ควรเขินอายเมื่อพบหรือสังสัยว่าตนเองเป็นโรคอี.ดี

ปัจจุบันมีแนวทางการรักษาที่สะดวกและปลอดภัย ด้วยการใช้ยาในการรักษา ซึ่งมียารับประทานประเภท Vardenafil ยาตัวใหม่ในกลุ่มพีดีอีไฟท์อินฮิบิเตอร์ที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นอกจากนี้ผู้ที่เป็นโรค อี.ดี ควรได้รับการตรวจระดับฮอร์โมนเพศชายด้วย เพราะส่งผลต่อกันและกัน หากมีภาวะพร่องฮอร์โมนเพศชายร่วมด้วย ก็จำเป็นจะต้องรักษาควบคู่กันไป ด้วยการรับฮอร์โมนเทสทอสเตอโรนทดแทน ซึ่งปัจจุบันมีหลายวิธีให้เลือก รวมทั้งประเภทการรักษาด้วยการฉีดซึ่งจะฉีดทุกๆ 3 เดือน จัดเป็นการรักษาที่เหมาะสมและปลอดภัยมากเมื่อเปรียบเทียบกับการให้ฮอร์โมนเพศชายรูปแบบอื่นๆ  

อย่างไรก็ตามโรค อี.ดี จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่ส่งผลต่อคุณภาพชีวิตโดยรวมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีการค้นพบว่าโรคอี.ดี เป็นสัญญาณของโรคร้ายแรงที่อันตรายต่อชีวิต อาทิ โรคหัวใจขาดเลือด ความดันโลหิตสูง โรคไขมันในเลือดสูง และโรคเบาหวาน ดังที่กล่าวไว้แล้วข้างต้น การมาพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพเป็นประจำจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมาก โดยภรรยามีบทบาทสำคัญเป็นอย่างยิ่ง ควรเป็นผู้ที่เข้าใจเขาที่สุดและแนะนำเขามาพบแพทย์เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีของสามีและชีวิตคู่ที่กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

แม้ว่าจะยังไม่เกิดภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือเกิดขึ้นเป็นครั้งคราว สามารถป้องกัน หรือ ลดการหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ด้วยการบริหาร น้องชายให้แข็งแรง หลีกเลี่ยงการดื่มสุรา หยุดสูบบุหรี่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ลดความเครียดและวิตกกังวล พักผ่อนให้เต็มที่ ตรวจร่างกายประจำปี

ปัญหาเกี่ยวกับเรื่องบนเตียงไม่ใช่เรื่องน่าเขินอาย และไม่ซับซ้อนอย่างที่คิด เพียงมีความเข้าใจและกล้าเปิดใจ และแก้ปัญหาอย่างถูกต้อง ไม่ควรเก็บไปเครียดเพียงลำพัง และไม่ควรซื้อยาหรือผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมารับประทานหรือใช้เอง เพราะอาจอันตรายเกินแก้ไขได้ นายแพทย์ กวิรัช กล่าวสรุป

และเพื่อจัดการกับปัญหาดังกล่าว ทางศูนย์ข้อมูลสมรรถภาพชายมีไฟ โดย บริษัท ไบเออร์ เชริง ฟาร์มา ผู้นำด้านเภสัชกรรม และผู้จำหน่ายเวชภัณฑ์เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาโรคหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ให้คำแนะนำแก่ชายที่ไม่อยากประสบปัญหาล่มปากอ่าวว่าควรจะวางแผนและมีการเตรียมรับมือกับปัญหาล่วงหน้า โดยการรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อที่จะขจัดความเครียดของทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ครอบครัวยังคงสมบูรณ์ในทุกด้าน

 

บรรยายใต้ภาพ

นท.ดร.นพ. สมพล เพิ่มพงศ์โกศล

http://www.siamrath.co.th/UIFont/NewsDetail.aspx?cid=68&nid=22193

หมายเลขบันทึก: 208938เขียนเมื่อ 15 กันยายน 2008 22:52 น. ()แก้ไขเมื่อ 12 กุมภาพันธ์ 2012 02:08 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

เป็นปัญหาระดับชาติที่ควรได้รับการแก้ไขโดยด่วน....

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท