สายสัมพันธ์แห่งรัก


สายสัมพันธ์ของคนเรานั้น เป็นเกลียวป่านที่ผ่านการฟั่นมาทีละเกลียวๆ สอดประสานกันเป็นเส้นเดียว ต้องใช้เวลาปั่นฝ้ายมาฟั่นทีละนิดๆ กว่าจะเป็นเชือกที่แข็งแรงสวยงาม เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ ใช้มีดแห่งอารมณ์ตัดชับทีเดียว เชือกขาดทันที และสายเกลียวเชือกนื้ก็ยากที่จะต่อให้ติดเหมือนเดิมได้ แม้จะต่อขึ้นมาได้ แต่ร่องรอยมีดก็ยังคงอยู่ หรือหากจะเริ่มไปปั่นฝ้ายมาฟั่นใหม่ก็ต้องใช้เวลาอีกมาก

 

ความโกรธ เป็นเหตุแห่งการทำลายความสัมพันธ์ของคนเรา รักกันอยู่ดีดี ทำงานร่วมกันอยู่ดีดี แต่พอเผลอแป๊บเดียว โกรธเคืองกันเสียแล้ว ยิ่งคนที่ต้องปฏิสัมพันธ์กันทุกเมื่อเชื่อวันอีกแล้วใหญ่ โอกาสที่จะปะทะกันด้วยอารมณ์นั้นย่อมมีมาก

 

เหตุหนึ่งของอารมณ์เดือดดาลนั้น เป็นเพราะเขากระทำอะไร ไม่ได้ดั่งใจเรา เราคาดหวังอย่างนั้น อยากให้เขาเป็นอย่างนั้น อยากให้เขาทำอย่างนั้น เมื่อไม่ได้ดั่งใจเรา เราก็มักพาลเดือดดาล

หากพิจารณาให้ดี เราโกรธ เพราะเราอยากให้เขาเป็นอย่างที่เราอยากให้เป็นใช่หรือไม่ คิดให้ดีๆ เรายังไม่สามารถทำตามที่ใจเราต้องการได้เสมอ ใจเราที่กระโดดไปกระโดดมา เรายังจับให้อยู่นิ่งๆ ไม่ได้ นับประสาอะไรที่จะบังคับให้คนอื่นทำอย่างที่เราต้องการได้ กลับมาดูใจของตัวเอง จับใจของตัวเองให้อยู่นิ่งๆ ให้ได้ก่อน แล้วค่อยไปคาดหวังกับคนอื่น เพราะยิ่งคาดหวังมากยิ่งมีโอกาสผิดหวังมาก แล้วคนที่เป็นทุกข์มิใช่เขา กลับเป็นเราเสียอีกที่ต้องมานั่งปวดเศียรเวียนเกล้า การทำในภาระหน้าที่ของเรา ตัวเราให้ดีที่สุด จึงเป็นสิ่งสำคัญกว่าการคาดหวังจากคนอื่น การเปลี่ยนแปลงคนอื่นนั้นยากแสนเข็ญ แต่การเปลี่ยนแปลงตัวเอง สามารถกำหนดได้ด้วยตัวเราเอง

 

เหตุอีกอย่างของอารมณ์เดือดดาลนั้นคือ ความเป็นเจ้าของ ในทรัพย์สิ่งของ ที่เราคิดว่าอันนี้เป็นของเรา อันนั้นเป็นของเรา ใครเอาของเราไปไม่ได้ เอาของเราไปใช้ได้อย่างไร ยิ่งเอาไปแล้วทำให้เกิดความเสียหาย ยิ่งไปกันใหญ่ หรือแม้แต่เขามาทำข้าวของเราเสียหาย โดยเฉพาะของรักของหวง ของสะสม หรือของโปรด อารมณ์ยิ่งเดือดดาลมากขึ้น

 

หากพิจารณาให้ดี เราโกรธ เพราะเรายึดมั่นถือมั่นในความเป็น ตัวกูของกู ใช่หรือไม่

ตัวกูของกู อันนี้พิจารณาให้ดี สิ่งที่เราคิดว่าเป็นตัวเรา เป็นของเรา แท้จริงมันไม่ได้เป็นของเรา มันมาอยู่กับเรา แล้วมันก็ไป ลองดูสิใครที่เอาร่างกายนี้ สิ่งของนี้ไปได้บ้างเมื่อวาระสุดท้ายแห่งชีวิต จริงอยู่ตอนนี้มันอาจจะมีคุณค่า มีความหมาย มีประโยชน์กับตัวเรา แต่มันก็เป็นคุณค่า ความหมาย ประโยชน์เพียงชั่วคราว

 

นึกถึงตอนเราอยากได้อะไรใหม่ๆ เช่น อยากได้รถสักคัน ตอนเราอยากได้ เราฝันถึงชีวิตที่มีรถใหม่ขับแล้ว เราก็เป็นสุขอย่างเหลือล้น พอได้รถมาจริงๆ ใหม่ๆ เราก็เห่อเฝ้าทะนุถนอม ดูแลยิ่งกว่าภรรยาเสียอีก แต่ขณะเดียวกันเราก็เริ่มเป็นทุกข์ จะไปจอดตากแดดตากฝนก็ไม่ได้ เดี๋ยวสีตก จอดทิ้งไว้ก็กลัวใครจะมาเชี่ยวชน ใครจะมาขูดขีดหรือเปล่า จะขับลุยน้ำลุยโคลนก็ก็กลัวเปรอะเปื้อน กลับกลายเป็นทุกข์เสียนี่ นานๆ ไปรถก็เริ่มเก่า ความบ้าเห่อก็ลดลงไปทีละน้อยๆ การดูแลก็จืดจางลงๆ จนกลายเป็นเฉยๆ ความเป็นเฉยๆ ก็ยังเป็นทุกข์อีก ไหนต้องมาดูแลบำรุงรักษา ซ่อมรถ ที่ผุพังไปตามกาลเวลา ยิ่งน้ำมันแพงก็ยิ่งเป็นทุกข์ จะหาเงินที่ไหนมาเติมน้ำมัน จนสุดท้ายต้องจอดรถไว้ที่บ้าน เอาไปใช้แต่จำเป็น มาถึงตอนนี้กับตอนอยากได้รถ มันช่างต่างกันเสียจริง นี่หรือของๆ เรา เดี๋ยวเบื่อมากๆ ก็ขายทิ้งไป มันก็ไม่ใช่ของเราอีกต่อไปแล้ว ไม่ใช่จริงๆ

 

บางคนเก็บของรักของหวงไว้อย่างดี อันนี้ของฉัน ห้ามใครยุ่ง ห้ามใครแตะ พอข้าวของมีอันต้องตกแตก ชำรุด สูญหาย ก็กระฟัดกระเฟียดคนที่ทำ และนำมาซึ่งความโกรธ ความสัมพันธ์ที่เคยมี ความรักที่เคยหว่านไถ มาจบลงทันทีทันใด

ถามจริงๆ เรารักสิ่งของ หรือ อะไรกันแน่

แค่ของสิ่งหนึ่งที่เราคิดว่าเป็นของเรานั้นหรือ ทำให้เราโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ และมองข้ามความรัก ความสัมพันธ์อันดีที่มีต่อกันไป เพียงแค่รักและหวงสิ่งของแค่นั้นหรือ เราถึงได้ทำร้ายความสัมพันธ์ที่เคยมีต่อกันลงไปได้

ลองนึกดูดีดี กว่าเราจะมารู้จักกัน มารักกัน มาทำงานร่วมกัน มาใช้ชีวิตร่วมกัน มันผ่านเหตุการณ์ ผ่านร้อน ผ่านหนาว ผ่านเรื่องราวมามากมาย แล้วแค่ของสิ่งหนึ่งก็ทำให้เราตัดสายสัมพันธ์กันได้เชียวหรือ

สายสัมพันธ์ของคนเรานั้น เป็นเกลียวป่านที่ผ่านการฟั่นมาทีละเกลียวๆ สอดประสานกันเป็นเส้นเดียว ต้องใช้เวลาปั่นฝ้ายมาฟั่นทีละนิดๆ กว่าจะเป็นเชือกที่แข็งแรงสวยงาม เพียงแค่อารมณ์ชั่ววูบ ใช้มีดแห่งอารมณ์ตัดชับทีเดียว เชือกขาดทันที และสายเกลียวเชือกนื้ก็ยากที่จะต่อให้ติดเหมือนเดิมได้ แม้จะต่อขึ้นมาได้ แต่ร่องรอยมีดก็ยังคงอยู่ หรือหากจะเริ่มไปปั่นฝ้ายมาฟั่นใหม่ก็ต้องใช้เวลาอีกมาก

ด้วยเหตุนี้ จงมีสติอยู่กับตนเอง ฝึกมองให้เห็นคุณค่าของการอยู่ร่วมกัน คุณค่าของกันและกัน แล้วสิ่งอื่นๆ ก็ไม่สำคัญเท่าสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน

หมายเลขบันทึก: 208037เขียนเมื่อ 12 กันยายน 2008 09:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:33 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

คนบางคนเมื่อมีอารมณ์โกรธ แต่ก็สามารถบรรเทาเบาบางความโกรธนั้นลงได้เมื่อเวลาผ่านไป แต่บางคน เมื่อโกรธ และมิได้มีพื้นฐานของความเมตตา ก็ยากนักที่จะบรรเทาความรู้สึกโกรธในใจลงได้ ความสัมพันธ์ก็ไม่มีทางได้กลับมา น่าเศร้านัก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท