การพัฒนาตนเอง
จงพยายามพัฒนาตนเองให้ติดเป็นนิสัย เพื่อว่าชีวิตของคุณจะได้ดีขึ้นไปด้วย
สาระสำคัญที่ควรจดจำ :
ในประเทศญี่ปุ่นมีคำกล่าวอีกวลีหนึ่งว่า “อันตรายของ นักธุรกิจที่ทำงานเป็นปีที่ 3 หมายความถึงพนักงานจะเริ่ม รู้สึกท้อถอยหลังจากทำงานมาแล้ว 3 ปี และงานที่ทำ ก็จะกลายเป็นเพียงทำเป็นพิธีเท่านั้น ทำงานด้วยความ เฉื่อยชา ไม่มีแรงจูงใจในการทำงาน ทำให้พนักงานไม่มีคุณภาพ การที่จะเอาชนะอุปสรรคในลักษณะนี้หรือความ เด็ดเดี่ยวที่จะแก้ปัญหายุ่งยากนี้ ซึ่งนับวันจะยากยิ่งขึ้น เมื่อคุณก้าวสู่ตำแหน่งที่สูงขึ้น แต่สามารถกระทำได้โดยการพัฒนาตนเองอย่างสม่ำเสมอไม่หยุดนิ่ง พยายามหาความรู้ อยู่ตลอด
การพัฒนาตนเองหมายถึงการสร้างความสามารถ ของคุณเองให้มีมากขึ้นและการพัฒนาความสามารถ ที่ยังไม่ได้พัฒนาของคุณเองด้วย โดยเหตุที่มนุษย์เรามีความ ต้องการที่จะให้ตนเองเจริญก้าวหน้า (ความต้องการความเจริญก้าวหน้าส่วนตัว และการรับรู้ศักยภาพของตนเอง) ดังนั้นทุกคนจึงต้องพยายามพัฒนาตนเองเพื่อให้มีชีวิตที่ดียิ่งขึ้น
ประเด็นที่ต้องทำความเข้าใจ :
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการพัฒนาตนเองควรทำความเข้าใจกับสิ่งสำคัญดังต่อไปนี้
การกระทำในเชิงบวก
ที่สำคัญที่สุดคือสร้างแรงดลใจให้อยากแก้ปัญหาคนทำงาน หากคุณเพียงทำงานตามคำสั่ง เท่านั้นคุณจะไม่มีวันพัฒนาความสามารถของคุณเองได้
สะสมข้อมูล
หากไม่มีข้อมูลเข้า (input) แล้วจะมีผลออก (output) ได้อย่างไร การพัฒนาตนเองก็เฉกเช่นกัน การสะสมข้อมูลเพื่อให้ตนเองรอบรู้มากขึ้น จึงเป็นการช่วยพัฒนาตนเองให้รอบรู้และมีประสบการณ์ มากยิ่งขึ้น
พัฒนาความคิดริเริ่มสร้างสรรค์
การพัฒนาตนเองโดยใช้ความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ทำได้หลายวิธี เช่น
1. การระดมมันสมอง (Brainstroming) โดยวิธีการนี้ จะทำให้พนักงานทุกคนได้มีอิสระเสรีทางความคิด มีการแสดงความคิดเห็นร่วมกันในเชิงสร้างสรรค์เรื่องใดเรื่องหนึ่ง
2. รายการตรวจสอบ (Checkist) วิธีการนี้จะช่วยกระตุ้นให้คนพิจารณาในสิ่งที่อาจจะมองข้ามไปได้ ควรตรวจสอบให้ละเอียดถี่ถ้วน
กฎ 4 ข้อของการระดมมันสมองคือ
1.ห้ามตัดสินว่าความคิดเห็นนั้นดีหรือไม่ดี
2.ให้มีการวิจารณ์อย่างเสรี และไม่มีขอบเขตจำกัด
3.พยายามให้ได้ความคิดเห็นมากที่สุด
4.วิเคราะห์ความคิดเห็นที่แตกต่างกัน หาข้อสรุป แล้วนำมาแก้ไขปรับปรุงสิ่งที่ไม่ดีให้ดีขึ้น
วิธีตรวจสอบ
1.มีวิธีอื่นอีกบ้างหรือไม่ที่สามารถนำมาใช้ได้
2.มีความคิดเห็นอื่น ๆ อีกบ้างหรือไม่
3.หากคุณตัดสินใจเปลี่ยนแปลงรูปร่าง สี ระบบการเคลื่อนไหว แล้วจะเกิดอะไรขึ้น
4.หากคุณทำให้มันใหญ่ขึ้นกว่าเดิมจะเกิดอะไรขึ้น
5.หากคุณทำให้มันเล็กลงจะเกิดอะไรขึ้น
6.สามารถทดแทนกันได้หมด
7.สามารถแลกเปลี่ยนกันได้
8.สามารถกลับหัวกลับหางได้ไหม
9.ข้อตรวจสอบข้างต้นสามารถที่จะดำเนินการได้หรือไม่
ที่มา...จากหนังสือมารยาทในที่ทำงาน
ศูนย์การศึกษาทางไปรษณีย์ (สสท. – มหาวิทยาลัยซันโน) สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี(ไทย – ญี่ปุ่น)
การพัฒนาตนเอง (SELF DEVELOPMENT)
คนเราถ้าจะเก่งต้องประกอบด้วย 3 เก่งคือ
เก่งตน (Self Ability) หมายถึง เป็นผู้ที่ชอบศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ทันโลกทันคน โดยเริ่มจากการพัฒนาตนเองก่อน การพัฒนาตนเองนั้นพัฒนาได้ ๓ ทางคือ
ทางกาย องค์ประกอบที่สำคัญคือ รูปร่าง พัฒนาให้ดีขึ้นโดยใช้การแต่งกายช่วยลดจุดด้อยหรือเสริมจุดเด่น หน้าตาสดชื่นแจ่มใส สะอาดหมดจด อากัปกิริยา การแสดงออกเข้มแข็งแต่ไม่แข็งกระด้าง อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ การยืน การเดิน การนั่ง ต้องมั่นคง เรียบร้อย การแต่งกายต้องสะอาดเหมาะสมกับกาลเทศะ เหมาะสมกับรูปร่างและผิวพรรณ
ทางวาจา การพูดดีต้องมีองค์ประกอบ ๔ ประการคือ พูดแต่ดี มีประโยชน์ ผู้ฟังชอบ และทุกคนปลอดภัย ก่อนพูดทุกครั้งต้องคิดก่อนพูด คนที่พูดดี มีปิยะวาจา เป็นลมปากที่หวานหูไม่รู้หาย เป็นที่รักใคร่ชอบพอแก่ทุก ๆ ฝ่ายที่ได้ยินได้ฟัง
ทางใจ การพัฒนาทางใจก็มีองค์ประกอบหลายประการ เช่น ความมั่นใจ ถ้ามีความมั่นใจในตนเอง จะทำอะไรก็สำเร็จ ความจริงใจ คือ เป็นคนปากกับใจตรงกัน ความกระตือรือร้น กระฉับกระเฉง แจ่มใส มีชีวิตชีวา ความมานะพยายามไม่ยอมแพ้ต่ออุปสรรค ความซื่อสัตย์สุจริต ความสุขใจ ความอดกลั้น ความมีเหตุผล การมีสมรรถภาพในการจำและมีความคิดสร้างสรรค์
ที่มา:http://hospital.moph.go.th/bankhai/self%20develop.doc
สวัสดียามเช้าครับ พี่เมี้ยว