หากเทียบความก้าวหน้าของอุตสาหกรรมยางของไทย กับคู่แข่งอย่างมาเลเชีย
ที่เห็นเป็นรูปธรรม หรือออกมาเป็นแหล่งความรู้ใหม่ๆ
ไทยยังด้อยอยู่ ทั้งๆที่ไทยเป็นผู้ผลิตอันดับหนึ่ง สาเหตุ ก็คำๆเดียว "การแข่งขันทางธุรกิจ"
อะไรๆก็ความลับหมด ทำให้วิชาการที่มีในส่วนของแหล่งความรู้ต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัย
จะแตกต่างกันอย่างมาก วิจัยบอกอย่างหนึ่ง แต่ในโรงงานก็เป็นอีกอย่าง
ก็เลยทำให้คนที่ทำงานด้านนี้ งง จะเอาอันไหนเป็นเหตุผล เป็นข้อมูลสนับสนุน อีกด้าน
ไม่ได้เลย ศูนย์วิจัยยางก็ไปอีกทาง งานวิจัยที่ออกมากลับไม่ตรงจุดกับทางภาคอุตสาหกรรมต้องการ
มีอาจารย์หลายท่านเข้าไปทำวิจัยในแหล่งอุตสาหกรรมจริงๆ เจอปัญหาและวิธีแก้จริงๆ
แต่เผยแพร่ไม่ได้ "ความลับ" อย่างเคย
ทำให้ความรู้เรื่องยาง จะหยุดนิ่งอยู่ที่ใดที่หนึ่ง และที่เดียว
ให้ภาครัฐและโรงงานจับมือกันพัฒนากันอย่างจริงจัง
ตามคุณเอกว่าแหละครับ เราจะได้ไม่ด้อยกว่ามาเลเซีย
งงอีกอย่างทำไมประเทศถึงสร้างเครื่องปั่นน้ำยางเองไม่ได้
ทั้งๆที่ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีผลผลิตมากที่สุด
แต่ต้องนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประเทศ ซึ่งราคาก็ไม่น้อยเลย
เห็นด้วยอย่างยิ่งผมโหลดpaper ไม่ได้เลย