กลอนของคุณ ปิยะพันธ์ จัมปาสุต


ที่มา http://www.reurnthai.com/index.php?action=printpage;topic=2652.0



หนังสือ รวมบทกวีแห่งชีวิต "เงาสะท้อน" โดย ปิยะพันธ์ จัมปาสุต


นักกลอนมือทองอีกคนหนึ่งของจุฬา ฯ คือ ปิยะพันธ์ จัมปาสุต  เขาได้รางวัล "เกียรตินิยม"ของชุมนุมวรรณศิลป์  ๒ ครั้ง สองปีซ้อน  จากบทกลอนชื่อ "ช่วงแห่งความมืดมิด" (พ.ศ.๒๕๐๙)   และ "มัน" (พ.ศ.๒๕๑๐)

"ช่วงแห่งความมืดมิด"  : ปิยะพันธ์ จัมปาสุต แต่งไว้เมื่ออายุ ๑๘ ปี


คนดี                                            มองสิที่ฟ้าไกลเห็นไหมนั่น
ดวงดาวทั้งใหญ่น้อยนับร้อยพัน      ต่างประชันขันแข่งแสงแวววาว
เหมือนดังจะประกาศอำนาจใหญ่     ว่าดวงใจแสงเด่นเป็นจอมหาว
และมองสิช่องว่างระหว่างดาว         ม่านมืดยาวพาดฟ้ายามราตรี
อาณาเขตห้วงหาวแม้ดาวผอง         กระพริบส่องแสงสว่างอย่างเต็มที่ 
แต่ความมืดรายล้อมดาวย่อมมี        รัศมีส่งไปไม่ถึงกัน
ดาวก็เหมือนกับกมลคนทั้งหลาย      มีแต่หมายแก่งแย่งและแข่งขัน
คนอื่นอยู่อย่างไรไม่สำคัญ               ตนเท่านั้นแหละที่ดีกว่าใคร
คุณธรรมสิ้นผู้ยอมรู้จัก                   ขับความรักกระเจิงเหลิงความใคร่
ช่วงต่อของช่องว่างระหว่างใจ         ยิ่งมืดไปกว่าฟ้ายามราตรี
ความมืดระหว่างดาวต่อดาวนั้น        เมื่อถูกแรงแสงตะวันมันก็หนี
แต่ความมืดระหว่างใจนั้นไม่มี          หนทางที่ขับไล่มันได้เลย




" มัน"   ปิยะพันธ์ จัมปาสุต แต่งไว้เมื่ออายุ ๑๙ ปี


เพื่อลบความหม่นหมองที่ท้องหิว            จนหน้านิ่วแสบไส้ให้หมดสิ้น
กลับแย้มยิ้มอิ่มพีด้วยมี"กิน"                  มันจึงดิ้นรนหาอาหารไป
ครั้นความอิ่มครอบครองท้องมันแล้ว       เริ่มวางแนวชมชื่นสิ่งอื่นใหม่
อยากมีชีพรุ่งเรืองชื่อเฟื่องไกล               มันจึงหา"เกียรติ"ไว้ให้กับตน

เพียงสองอย่างที่หวังสุขยังขาด              จึงหมายมาดต่อไปใฝ่ฝันผล
หาตัวเปลื้องความใคร่ไว้เปรอปรน           ด้วยกมลมุ่งสร้างสุขทาง"กาม"
เพราะจิตมันนั้นมากด้วยอยากได้             จึงคว้าไขว่สมหวังสิ่งทั้งสาม
เพียงครั้งแรกแรกก็ยังพองาม                  เป็นไปตามปรารถนาอย่างสามัญ

แต่พอนานนานไปใจเริ่มทุกข์                  เกิดกลัวสุขสลายกลายเป็นฝัน
ด้วยแรงกลัวนี้เองเร่งผลักดัน                   ให้จิตพลันรุกข้ามความพอดี
เพื่อจะ "กิน" เรื่อยไปไม่ต้องอด                เพื่อปรากฏ "เกียรติ"อยู่ชูศักดิ์ศรี
เพื่อสุขในทาง "กาม" คงความมี              จึงผลที่สุดนั้น มันก็ "โกง"

หมายเลขบันทึก: 204167เขียนเมื่อ 29 สิงหาคม 2008 12:06 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

แวะมาชื่นชมบทกลอนอันไพเราะค่ะ

สวัสดีครับคุณ berger0123 ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท