ความวุ่นวายของบ้านเมืองไม่ได้ช่วยลดปัญหาสังคมลงไปได้เลย หนำซ้ำกลับซ้ำเติมทำให้คนที่ยากไร้ในสังคมโดนผลักให้เผชิญปัญหาอย่างโดดเดี่ยวมากยิ่งขึ้น หลายองค์กร หลายหน่วยงาน ใช้ข้ออ้างจากความวุ่นวายของบ้านเมือง งดการทำงานภาคสนามในพื้นที่ใกล้เคียงกับพื้นที่ที่มีสถานการณ์ความวุ่นวายของบ้านเมือง ส่งผลให้คนด้อยโอกาสที่กระจัดกระจายอยู่ในพื้นที่ต้องเผชิญกับปัญหาเพียงลำพัง บางหน่วยงานก็เกณฑ์คนด้อยโอกาสที่ตนเองดูแลอยู่เข้าร่วมการชุมนุมไปด้วยเสียเลย
ภาพความเป็นจริงในสังคมยุคข้อมูลและการสื่อสารกับความเป็นจริงที่เกิดขึ้นมันต่างกันโดยสิ้นเชิง ใครช่วงชิงพื้นที่สื่อได้มากกว่า ก็จะสร้างความชอบธรรมให้ตัวเองได้เพิ่มมากขึ้น แม้ว่าการระทำดังกล่าวจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายบ้านเมืองก็ตามที
ในพื้นที่สนามหลวงและคลองหลอดคนด้อยโอกาสหลายคนหายไปจากพื้นที่แต่ไปปรากำตัวผ่านหน้าจอของสื่อว่าเข้าไปอยู่ในการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล หรือล่าสุดที่มีการแบกหามกันออกมาจากทำเนียบรัฐบาลเพราะความดันโลหิตสูงกำเริบ ใครที่รู้จัก เห็นเพียงไรหนวดและผมสีขาวโพลนทั้งหัว ก็จะรู้ว่า ลุงคนนั้น เป็นใครอยู่ที่ไหน ??
คำถามที่เกิดขึ้นมากมาย คือการที่องค์กรบางองค์กรนำกลุ่มเป้าหมายที่ตนเองทำงานด้วยที่เรียกเขาว่าเพื่อนพี่น้อง เข้าร่วมชุมนุมในสถานการณ์ที่ล่อแหลมเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ถูกที่ควรหรือไม่ คำตอบคงไม่มีตามมา แต่สิ่งที่ควรจะเป็นไปคือ การให้ข้อมูลข่าวสารทีปราศจากอคติ แล้วให้เขาคิดและตัดสินใจเอง ไม่ใช่การชี้นำและระดมเขาไปร่วมกิจกรรมโดยไม่รู้ว่าทำอะไรเพื่อใครและทำไปทำไม
บ้านเมืองวิกฤติแต่หลายคนกำลังซ้ำเติมและสร้างความชอบธรรมให้แก่ตนองโดยใช้เลือดเนื้อและชีวิตที่มีคุณค่าของเพื่อนร่วมชาติมาเป็นเครื่องเซ่นสังเวย โดยมุ่งมั่นแต่ชัยชนะของพวกตัวเองเท่านั้น ไม่คิดถึงความพ่ายแพ้ของแระเทศชาติเอาเสียเลย
ฝากถามผ่านไปถึงทุกคน ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องว่า คุณชนะแล้วบ้านเมืองพ่ายแพ้ แล้วคุณมีความสุขกับการกระทำของคุณเช่นนั้นหรือ
ไม่มีความเห็น