โค้ชส้ม Citrus
Miss. ปรีดิ์ฤทัย โค้ชส้ม ตั้งจิตญาณพัฒน์

กิจกรรม Team Work Camp มิใช่ยาครอบจักรวาล


บริษัทจำนวนมาก คิดว่าการจัด Team work camp เป็นยาขนานเอกที่จะใช้แก้ปัญหาการทำงานของพนักงาน คำตอบคงรู้กันแล้ว ว่าเป็นอย่างไร

 

          ครั้งนี้เป็นรุ่น 3 แล้ว เลื่อนมาจากรุ่น 2 ถ้าไม่เข้าครั้งนี้ก็หมดโอกาส เพราะเป็นรุ่นสุดท้าย  จำได้ว่าตอนย้ายงานมากลุ่มธุรกิจเคมีภัณฑ์  ได้ สามวัน ก็ต้องมาเข้า ค่ายสร้างเสริมวัฒนธรรมองค์กร ตอนนั้นไม่รู้จักใครเลยจริงๆ ทำให้ตื่นเต้นเพราะต้องมาร่วมกิจกรรมกับคนที่ไม่เคยรู้จัก แต่พวกเขารู้จักกันอยู่ก่อนแล้ว ผลที่ออกมาสำหรับตัวเอง ก็คือ ทำให้มีโอกาสรู้จักคนมากขึ้น และสะดวกต่อการทำงานในระยะเวลาต่อมา

        สำหรับครั้งนี้ นับเป็นเวลาที่ผ่านมาเกือบห้าปีแล้ว และคนที่ไปค่ายรุ่นนี้ ดูจากรายชื่อก็รู้จักกันเกือบหมดแล้ว พูดอย่างตรงไปตรงมากับหัวหน้าว่าไม่อยากไปเลย ไป ก็คงไม่ได้อะไรที่มีสาระ  แต่ก็ไม่ได้รับการอนุมัติให้ยกเลิกได้  เหตุที่ไม่อยากไปเพราะคิดว่า ไปก็คงไม่ได้อะไรใหม่ และไม่ชอบการทำกิจกรรมตามฐาน ที่ตัวเองเคยเป็นวิทยากรหลักสูตรประเภทนี้มานับครั้งไม่ถ้วน เมื่อต้องมาเป็นผู้เข้าอบรมก็เลยไม่ตื่นเต้นอยากรู้อยากเห็นอะไรอีก

        ไปถึงวันแรกที่นครนายก มีคนไปร่วมกิจกรรมจากบางซื่อประมาณ 40 คน อีก 10 คนมาจากฝั่งระยอง กิจกรรมวันแรกมีการเน้นไปที่การฟอร์มทีม การรู้จักกัน เป็นส่วนใหญ่ ที่มันน่าอึดอัดมากก็คือ ตัวเองอายุมากที่สุด เพิ่งมารู้วันสุดท้ายจากน้องคนหนึ่งที่สนิทกันว่า เขาเองก็ไม่ชอบแสดงออก ต้องออกมาเต้นทำท่าอะไรประหลาดๆ ที่ชีวิตปกติทุกวันนี้ไม่เคยทำ แต่พอเห็นพี่สาวใหญ่ (คำที่บรรดาวิทยากรเรียกเรา) (ยัง) กล้าทำ เขาจึงตัดสินใจว่าจะไม่ทำได้ยังไง ขนาดพี่ เขายังกล้าเลย  เฮ้อ! ฟังแล้วคิดบวก ก็น่าภูมิใจดีนะ จริงๆ อยากบอกว่าไม่มีโอกาสแบบนี้บ่อยนักหรอก เมื่อมีก็ต้องรีบฉกฉวยไว้ก่อน

        ช่วงกลางคืนวันแรกฝนตกหนักมาก พวกเราเขียนกราฟชีวิต ซึ่งต้องเล่าให้ทุกคนในกลุ่มฟังโดยอาศัยกราฟที่วาดเป็นสื่อในการเล่าเรื่อง โดยแบ่งช่วงอายุเป็น 4 ช่วง 0-15, 15-30, 30-45, 45-60 ปี  เมื่อถึงช่วงให้เล่า จึงเสนอกลุ่มว่า กลุ่มมีตั้ง 10 คน เปิดโอกาสให้น้องอายุน้อยที่สุดเล่าก่อนดีกว่า เพราะหากให้พี่ๆ เล่าก่อนเรื่องมันยาวจะทำให้เบื่อ แทบไม่น่าเชื่อว่า ระหว่างที่เราทำกิจกรรมกันนั้น ฟ้าคะนองไฟดับๆ ติดๆ ตลอดเวลา จนดับไปในที่สุด ทำให้ต้องจุดเทียน นั่งล้อมวงกันอย่างใกล้ชิด เพื่อให้มองเห็นกราฟ และได้ยินเสียงพูดของผู้เล่า จากกิจกรรมนี้เอง ทำให้สมาชิกรู้จักกันมากขึ้น สนิทกันง่ายขึ้น และทุกคนตั้งใจฟังเรื่องเล่าอย่างไม่เบื่อ เรียกว่า บรรยากาศเป็นใจอย่างไม่น่าเชื่อ  เมื่อวิทยากรให้สัญญาณหมดเวลา ทำให้ตัวเรากับเพื่อนร่วมกลุ่มอาวุโสน้อยกว่านิดหนึ่งยังไม่ทันได้เล่า น้องๆ บ่นเสียดาย อดฟัง แถมบอกว่าอยากฟังเรื่องของพี่ๆ คิดว่าต้องผ่านอะไรมาเยอะ และมีเรื่องที่น่าสนใจ (แอบปลื้ม)

        วันที่สองกิจกรรมเริ่มโหดขึ้น อ้อ! ลืมบอกว่า แต่ละกลุ่มได้รับมอบหมายงานต่างกันไป เช่น เป็นพิธีกร เล่าเรื่องซุบซิบคนในค่าย  เล่นละครไทย  ศิลปะวัฒนธรรมไทย นำออกกำลังกาย เล่นคอนเสิร์ต  กลุ่มของเรา วันแรกต้องเล่นคอนเสิร์ต ขลุกขลักพอสมควร เพราะเพลงที่เลือกมา ถ้าเป็นเพลงวัยดึก เด็กก็ร้องไม่ได้ พอเลือกเพลงลูกทุ่ง น้องๆ ก็ร้องไม่ได้ ในที่สุด ก็ไปหาเพลงในโทรศัพท์มือถือบางคน ออกมาเปิดประกอบการร้อง ใครร้องไม่ได้ก็เต้น หรือจะทั้งร้องทั้งเต้น  วันที่สองกลุ่มเราต้องนำออกกำลังกาย ปรากฏว่าสมาชิกในกลุ่มเราไม่มีใครตื่น  ดิฉันก็เลยตกกระไดพลอยโจนเป็นผู้นำออกกำลังกาย  ..ให้ทำท่าโยคะที่ฝีกมาใหม่ กับท่าอุ่นเครื่องก่อนการหัวเราะบำบัด กับท่าก่อนรำไท้เก็ก รวมทั้ง Brain Gym วิทยากรบอกว่า ไม่เคยทำท่าแบบนี้มาก่อน เล่นเอาเส้นตึงยืดไม่ออกกันเป็นแถวๆ แถมติดใจอยากให้ทำอีกในช่วงต่อๆ มา

        ยอมรับว่ากิจกรรมที่วิทยากรกลุ่มนี้เอามาให้เล่น สนุกดี กระชากความจำว่าตัวเองอายุเท่าไร สังเกตว่าน้องๆ บางคนวันแรกก็ขัดเขิน (ไม่กล้าออกจากไข่แดง)  แต่พอเริ่มคุ้นกัน ก็เปิดเผยตัวตนมากขึ้นจนเป็นธรรมชาติ การเล่นละคร หรือการแสดงรอบกองไฟตอนกลางคืนทำให้หัวเราะกันจนกรามค้าง ความสามารถพิเศษของสมาชิกแต่ละทีมทำให้สนุกกันมากจริงๆ 
    
ตอนบ่ายกิจกรรม
team work ต้องวิ่งไปตามฐาน เป็นกิจกรรมที่ต้องร่วมมือ เสียสละ และวางแผนแก้ปัญหาแทบทุกฐาน ด้วยเวลาที่จำกัด ทำให้เราไม่มีเวลาคิดมากนัก ส่วนใหญ่คิดคร่าวๆ แล้วลองเลยว่าจะทำได้ไหม ด่านที่ขลุกขลักและเหนื่อยที่สุด คือให้คนในกลุ่ม 10 คนขึ้นไปยืนบนผ้าพลาสติกขนาดใหญ่ แล้วต้องเดินหน้าไปพร้อมกัน ไกลราวๆ 20 เมตร

        ตกเย็นแต่ละกลุ่มประกวดทำอาหาร ด้วยทรัพยากรที่มีอยู่จำกัด ต้องทำอาหาร สามอย่าง รวมเวลาเกือบสองชั่วโมง ส่วนใหญ่จะทำเสร็จก่อนกำหนด เพราะคนเยอะ ร่วมแรงร่วมใจแบ่งหน้าที่กันตามถนัด ผลงานที่ออกมาอร่อยใช้ได้ วิทยากรบอกว่า ให้หารายได้เสริมไปร่วมกันเปิดร้านอาหารเลยท่าจะดี

        วันสุดท้ายมีเวลาครึ่งวันที่ให้ทีมคุยกันว่า ความฝันที่เราอยากเห็นบรรยากาศการทำงานของพวกเราเป็นอย่างไร เท่าที่สังเกต เด็กๆ จะคิดถึงสถานที่ สิ่งอำนวยความสะดวกในการทำงาน หรืออยากได้ผลตอบแทนมากขึ้น หรืออยากให้เจ้านายใจดี  แต่ผู้ใหญ่กว่า หลายคนก็จะเริ่มคิดถึงเรื่องของการทำงานจริงๆ เรื่องที่หลายคนพูดถึงคือ ต้องการเห็นรอยยิ้ม และบรรยากาศการทำงานที่ไม่เครียด มีความสนุกสนาน เป็นกันเองระหว่างเพื่อนร่วมงานทีมเดียวกันและต่างทีม  มีการช่วยเหลือเกื้อกูลกัน  ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ทุกคนทำได้ไม่มีข้อจำกัด ดูแล้วความสัมพันธ์ที่ดีต่างหาก ที่เราอยากเห็น ถ้าเป็นเพื่อนกัน..อะไร อะไร ก็ง่าย

        ความประทับใจจากการมาร่วมสัมมนาครั้งนี้ มีหลายฉาก หลายตอน ทั้งกับในกลุ่มเดียวกัน และจากการสังเกตพฤติกรรมของน้องหลายคนที่เคยรู้จักแบบผิวเผิน ทำให้รู้จักตัวตนของเขามากขึ้น  ท้ายสุดแต่ละคนต้องเขียนข้อความที่อยากจะทำให้บริษัทดีขึ้น ลงในกระดาษหัวใจสีแดง ผลปรากฏว่าเมื่อนำหัวใจมาติดลงหัวใจดวงใหญ่ มันไม่เต็ม เพราะจำนวนคนที่หนีกลับกันไปก่อน  เราจึงถามว่า เขียนเกิน 1 อันได้ไหม จะได้ติดให้เต็ม ดูแล้วสวยงามไม่เป็นหัวใจแหว่ง  มีน้องผู้หญิงคนหนึ่งพูดเสริมว่า งั้นพวกเรามาช่วยกันเขียน แล้วก็หันไปชวนเพื่อนบางคนที่ยังนั่งอยู่ใกล้ๆ มาร่วมทำงานชิ้นนี้จนสำเร็จออกมาเป็นหัวใจสีแดงเต็มอัน

 

          สำหรับคนที่อยู่กันจนเต็มที่เกือบสามวัน ยอมรับว่าเป็นเวลาอันมีค่าที่ได้มาใช้ชีวิตร่วมกัน มีโอกาสสัมผัสตัวตนของเพื่อนร่วมงานต่างหน่วยงานที่อาจจะแค่เคยเห็นหน้า แต่ไม่ค่อยได้คุยกัน  ถึงแม้จะปวดเมื่อยเนื้อตัว เป็นอย่างมาก แถมบาดเจ็บกันบ้างเล็กๆ น้อยๆ ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ที่ควรค่าแก่การทรงจำ แถมบางคนยังบอกว่าเหมือนบริษัทให้เงินมาเที่ยว แต่คิดว่าสิ่งที่แต่ละคนได้กลับไปแม้จะไม่เท่ากัน ก็คือ มิตรภาพและรอยยิ้มที่จะสืบสานให้เกิดมรรคผลในอนาคตอย่างแน่นอน

         

หมายเลขบันทึก: 203173เขียนเมื่อ 24 สิงหาคม 2008 15:50 น. ()แก้ไขเมื่อ 16 มิถุนายน 2012 11:34 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

โปรแกมการฝึกอบรม คณะวิทยากรออกแบบได้ดีนะครับ ฐานWalk Rally เล่าสู่กันฟังบ้างจักเป็นประโยชน์สำหรับชุมชนgotoknow

  • เห็นด้วยเลยค่ะกับประโยคนี้
  • "ถ้าเป็นเพื่อนกัน อะไร อะไรก็ง่าย"
  • ขอบคุณเรื่องราวที่เอามาเล่าสู่กันฟังค่ะ

รบกวนขอเบอร์ติดต่อบริษัทที่รับจัด Team Work Camp ด้วยค่ะ เพราะตอนนี้ที่บริษัทก็มีโครงการจะจัดเหมือนกันค่ะ ขอบคุณมากค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณสอน เล่นเล่น

เรื่องนำกิจกรรมแต่ละฐานมาเขียนลง web ก็เกรงๆ อยู่เหมือนกันค่ะ เพราะเราไม่ได้คิดเกมเอง ไม่แน่ใจว่าจะไปละเมิดสิทธิ์ของสถาบันฝึกอบรมหรือเปล่าค่ะ ถ้าเรานำมาเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาต

สวัสดี คุณหมอเจ๊ คนสวย แซ่เฮ

คุณหมอเจ๊ คนสวย ต้องเป็นเครือญาติกับพ่อครูบาด้วยใช่ไหมคะ แซ่เดียวกันเลย

เรื่อง เพื่อน อันนี้เห็นชัดค่ะ สังเกตจากหลักสูตรที่ ศูนย์อบรมส่วนกลางจัด จะมีคนจากหลากหลายบริษัทมาเข้า และได้เพื่อนเยอะมาก ถ้าเป็นหลักสูตรที่อบรมกันระยะยาว เมื่อซี้ปึ้ก กันแล้ว เวลามีเรื่องไหว้วาน ทั้งส่วนตัว หรืองาน ก็จะนึกถึงเพื่อนบริษัทอื่นๆ ที่เรารู้จัก และช่วยเหลือกันได้มากจริงๆ ค่ะ

3. Paula K.

ถ้ายังไงคุณ Paula ติดต่อ citrus ทาง e-mail ก็ได้ค่ะ จะสอบถามผู้จัดให้นะคะ ตอนนี้ citrus ยังไม่ทราบเลยค่ะ ว่าบริษัทที่มาจัดชื่ออะไร

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท