เมื่อ 15 สิงหาคม 2551 ผมไปร่วมเสวนาที่ มรภ.นครราชสีมา เรื่อง บทบาท มรภ.กับการพัฒนาอีสาน ในงานประชุมทางวิชาการเสนองานวิจัยประจำปี ผู้ร่วมเวที มี รศ.สุริชัย หวั่นแก้ว ผอ.สถาบันวิจัยสังคม จุฬาฯ, ดร.สีลาภรณ์ (ผอ.ฝ่าย4 สกว.), ดร.บัญชร แก้วส่อง, ผศ.พัชรินทร์ ดำรงกิตติกุล (สกว.) ผมสะท้อนความเห็นว่า
- ในอดีต 15-20 ปี ที่แล้ว มรภ.สมัยเป็น วค. มีบทบาทออกไปพัฒนาชุมชนโดยอาศัยตัวบุคคล(คืออาจารย์บางคนที่มีจิตสาธารณะ อาสาไปทำงานกับชุมชนเอง) ซึ่งมีแห่งละ 1-2 คน ไปทำงานกับ NGO's กับกลุ่มชาวบ้าน และปราชญ์ชาวบ้าน พระสงฆ์นักพัฒนาบางรูป
- มรภ.เพิ่งมาตื่นตัวมาทำวิจัย ทำงานพัฒนากับชุมชุมจริงๆหลังที่ตั้งเป็นสถาบันราชภัฏ และมหาวิทยาลัย ที่มีปรัชญาว่าเป็นสถาบันอุดมศึกษาเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น เมื่อ 10 ปีมานี้ โดยทาง สกว. วช. สกอ. มีส่วนมาช่วยกระตุ้นให้อาจารย์สนใจทำวิจัยเพื่อท้องถิ่น
- ในสภาพปัจจุบันการทำงานวิจัยและพัฒนาท้องถิ่น ยังอยู่ในช่วงการพัฒนาทักษะทำวิจัย และทำงานพัฒนาให้อาจารย์รุ่นใหม่ นักวิจัยรุ่นใหม่ โดยยังประสบปัญหารการโตไม่ทันของคนรุ่นใหม่ เพราะบริบททางสังคมในรั้วมหาวิทยาลัยเปลี่ยนไปมากทั้งด้านแหล่งทุน แรงจูงใจ การเสริมองค์ความรู้
- ในอนาคต คาดว่าแนวโน้มจะค่อยๆดีขึ้น ในการทำวิจัยและพัฒนาท้องถิ่นโดยเฉพาะการทำงานในรูป Matching Fund กับ จังหวัด อปท. NGO's แหล่งทุนส่วนกลาง(สกว. วช. สกอ. สสส. สวทช. ฯลฯ)
ไม่มีความเห็น