Soil characteristics under land use types of previously shifting cultivation areas in Lower Northern, Thailand.
1. Physico-chemical
properties (surface and subsurface layers and profile of natural
forest sites)
- pH(water and
KCl) and EC
- Exchangeable cations
(Al, H, Ca, Mg, K, Na) and Exchangeable
NH4
- Available
phosphorus
- Total carbon and total
nitrogen
- Soil fraction, Soil hardness and Bulk density
2.
Mineralogical properties, charge characteristics, and sesquioxide
properties (surface and subsurface layers, after burning
practiceand and profile of natural forest sites)
surface soil and
- Alo, Feo and Si
(Ammonium oxalate extraction)
- Ald, Fed and
Si (DCB extraction)
- PZSE (Point of
zero salt effect) and sp (residual charge at
PZSE)
- Clay mineral
composition
3.
Conclusion based on land use type influence on soil
characteristics
ดินชั้นล่างมีความสำคัญต่อการศึกษาคุณสมบัติของดินด้านแร่วิทยาและการแลกเปลี่ยนประจุของสภาพพื้นที่ เนื่องจากดินชั้นล่างไม่ถูกรบกวนมากนักและยังคงสามารถเห็นสภาพดั้งเดิมของระดับการผุพังอยู่กับที่ได้พอสมควร
ซึ่งต่างจากดินชั้นบนที่เกิดการเปลี่ยนแปลงได้อย่างง่าย อันเนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ เช่น การใช้ที่ดิน สภาพภูมิอากาศ และสภาพภูมิประเทศ
ประเภทการใช้ที่ดินและการเผาพื้นที่ แทบจะไม่มีอิทธิพลต่อคุณลักษณะของดินด้าน Mineralogy และ charge characteristics เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของคุณสมบัติดังกล่าวต้องใช้เวลายาวนานมาก นับสิบๆ ปี ถึงจะเห็นการเปลี่ยนแปลงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้อุณหภูมิที่เกิดขึ้นบนผิวดินจากการเผาพื้นที่ มักจะมีระดับต่ำน้อยกว่า 500 องศาเซลเซียส ทำให้ไม่มีผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงของแร่ดินเหนียว โดยเฉพาะ Kaloine จะเกิดการเปลี่ยนแปลงก็ต่อเมื่ออุณหภูมิสูงเกือบ หนึ่งพันองศาเซลเซียส
ดังนั้นเนื้อหาของการอภิปรายควรเน้นเกี่ยวกับ การเปรียบเทียบคุณสมบัติของดินในพื้นที่ศึกษากับสภาพดินในบริเวณอื่นๆ ของประเทศไทย และดินในพื้นที่เขตร้อนของต่างประเทศ
คุณลักษณะดินทางด้านกายภาพและเคมี จะบ่งชี้เห็นรู้ถึงระดับความอุดมสมบุรณ์ของดินในสภาพปัจจุบัน เท่านั้นเอง ซึ่งสามารถนำไปเป็นข้อมูลพื้นฐาน สำหรับแผนการจัดการพื้นที่ ที่เน้นถึงศักยภาพของดินด้านการผลิต แต่เป็นเพียงแผนการจัดการพื้นที่ที่ใช้ได้เฉพาะในระยะสั้น ประมาณ สองหรือสามปี
เนื่องจากระดับความอุดมสมบูรณ์ของดินจะเปลี่ยนแปลงง่าย แม้กระทั้งในรอบการเพาะปลูกก็มีความผันแปรสูง อันขึ้นอยู่กับการจัดการพื้นที่ กิจกรรมต่างๆ ในการเพาะปลูก เช่น การไถ่พรวน การถางและเผาวัสดุบนผิวดิน การใช้ปุ๋ยเคมีหรืออินทรีย์วัตถุ เป็นต้น
ในเนื้องานเขียนควรกล่าวถึง การประเมินศักยภาพด้านการผลิตของดิน ทั้งในระยะสั้น เช่น หนึ่งหรือสองปี และในระยะยาว เช่น สิบปีขึ้นไป นอกจากนี้ควรกำหนดตัวบ่งชี้ทางตรงหรือทางอ้อม เพื่อนำมาใช้ประเมิน ศักยภาพด้านการผลิตของดินในพื้นที่
ดังนั้นชื่อเรื่องของงานควรกล่าวถึง คุณลักษณะของดิน ที่เกี่ยวกับศักยภาพด้านการผลิตของดิน
เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น
Soil Characteristics of upland Ultisols in reference to soil productivity potential: A case study of previously shifting cultivation areas in the Lower Northern Thailand
จากผลการศึกษาลักษณะของดินในพื้นที่ศึกษา สามารถกำหนดตัวบ่งชี้ถึงศักยภาพการผลิตของดินทั้งในระยะสั้นและระยะยาวได้ดังนี้
1. การประเมินศักยภาพฯ ในระยะสั้น จะใช้ตัวชี้เหล่านี้พิจารณา คือ
"pH ของดิน ปริมาณอินทรีย์วัตถุ (คาร์บอนทั้งหมด) ฟอสฟอรัสที่เป็นประโยชน์ และแอมโมเนียมที่แลกเปลี่ยนไป"
ซึ่งตัวชี้เหล่านี้จะเปลี่ยนแปลงในรอบฤดูเพาะปลูก โดยเฉพาะความเป็นกรดด่างของดินจะเปลี่ยนแปลงอย่างมากจากการเผาพื้นที่เพาะปลูก
2. ตัวชี้ในการประเมินศักยภาพฯ ในระยะยาว คือ ชนิดแร่ดินเหนียวที่อยู่ในขั้นเริ่มต้นของ weathering stage โดยเฉพาะแร่ Chlorite และ Illite หรือ Hydroxy-interlayered vermiculite oนอกจากนี้สามารถใช้ค่า Zigma p ที่ใช้แสดงถึงปริมาณของ permanent nagative charge
ซึ่งการเปลี่ยนแปลงถ้าปริมาณหรือการแปลงสภาพของตัวชี้เหล่านี้ จะใช้ระยะเวลายาวนานมาก การจัดการพื้นที่ เช่น การเผาพื้นที่ มักจะไม่ส่งผลกระทบต่อตัวชี้วัดเหล่านี้มากนัก
นอกจากว่าระยะเวลาในการเผาจะนาน หรืออุณหภูมิระหว่างการเผาแปลงสูงมากกว่าปกติ เช่น ประมาณ 500 ถึง 700 องศาเซลเซียส ซึ่งก็สามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของแร่ดินเหนียวบางชนิดได้
เนื้อหาที่เพิ่มเติมในตัวรายงาน
1. Change in mineralogical properties and charge characteristics affected by burning practice.
Discussion on
1. Soil properties readily affected by land use
2. Mineralogical properties and charge characteristics referring to soil productivity potential