งานส่งเสริมการตลาดแบบเครือข่ายขายตรงของคนรากหญ้า ประสบการณ์ช่วงหนึ่งของชีวิตเมื่อไปเที่ยวญี่ปุ่นฟรี(ตอนที่3)


การมีส่วนร่วมเรียนรู้เรื่องการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค

       ผู้บริโภครู้จักผลิตภัณฑ์อย่างลึกซึ้ง ผู้ผลิตเข้าใจผู้บริโภคเป็นอย่างดี จะเกิดอะไรขึ้น     

      ประสบการณ์ที่นำเสนอนี้ มีจุดมุ่งหวังเพื่อการมีส่วนร่วมเรียนรู้เรื่องการสร้างเครือข่ายผู้บริโภค    ที่วงการธุรกิจขายตรงถือเป็นยุทธศาสตร์หลัก ณ วันนี้ธุรกิจขายตรงได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสังคมไทยโดยทั่วไป  ทุกสิ่งเป็นองค์ความรู้ที่เป็นประโยชน์ยิ่ง โดยเฉพาะสาระสำคัญของธุรกิจขายตรง   หากเกิดขึ้นในภาคเกษตรของเมืองไทย โดยที่สินค้าเหล่านั้นเป็นสินค้าภาคเกษตร     วิธีคิด เพื่อจัดการผลผลิตสู่การบริโภคอย่างเป็นระบบ แน่นอนที่สุดว่าสิ่งที่เกิดขึ้น  จะช่วยทำให้ปัญหาต่างๆบรรเทาเบาบาง ไปได้อีกมากมาย  แต่พื้นฐานเหล่านี้นั้นต้องคิดกันให้ได้ว่าทำอย่างไร องค์ความรู้เหล่านี้จึงจะตกผลึกแก่คนในสังคม  สิ่งที่ต้องสร้างความรู้ให้แก่ตนเองนั้น มีหลายสิ่งหลายอย่างมากมายนัก นอกเหนือจากความคิดเรื่องการแสวงหารายได้เพียงอย่างเดียว   การนำองค์ความรู้ไปสร้างบทเรียนทั้งในโรงเรียนและในชุมชน เพื่อปลูกปัญญาให้แก่เด็กและเยาวชน  น่าจะดีที่สุดจริงหรือเปล่าครับท่านผู้ใหญ่ท่านกำนันทั้งหลาย   

     

      28 พฤษภาคม 2538 เวลา 15.00 น. คุณอูดะ นำคณะตัวแทนกลุ่มกล้วยหอมทองจากละแม ไปส่งยังท่าเรือวากายาม่า แล้วร่ำลากันที่ท่าเรือ พวกเราโดยสารเรือด่วนพิเศษ เดินทางไปยังเกาะชิโกกุ  ประมาณ 1 ชั่วโมง ก็ถึง ท่าเรือโตกุชิม่า

      ที่ท่าเทียบเรือ คุณมิสุโกะ ฮายาชิ ประธานสหกรณ์ผู้บริโภคโตกุชิและคณะ     ชูป้าย ภาษาอังกฤษ WELLCOME LAMAE HOMETHONG BANANAGROUP ต้อนรับพวกเราอย่างอบอุ่น   เราจับมือทักทายกัน ล้งๆเล้งๆ ภาษาอังกฤษผสมภาษามือ แสดงทีท่าเหมือนรู้จักกันเป็นอย่างดีมานมนานเพราะท่านประธานและผู้ไปต้อนรับเพิ่งกลับไปจากเมืองไทยไม่นานนัก ความสนิทสนมและมิตรภาพที่แสนดียังคงตราตรึงอยู่ในใจ  ท่านประธานสหกรณ์ นำเราไปพบคณะกรรมการสหกรณ์และเจ้าหน้าที่ที่รออยู่ในห้องประชุมเล็กของโรงแรมวอชิงตัน    มีผู้รอเราอยู่ในนั้นประมาณ 50 คน ประธานได้กล่าวต้อนรับพวกเราผู้ไปเยือน อย่างเป็นทางการ พร้อมทั้งกล่าวขอบคุณชาวละแมที่ได้ให้การต้อนรับคณะสหกรณ์ผู้บริโภคโตกุชิม่า  ครั้งที่เดินทางไปเยือนเมืองไทยเพื่อเยี่ยมชมการปลูกกล้วยหอมทองที่ละแมเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา หลังจากประธานกล่าวจบ  ก็เป็นการรายงานตัวต่อกันระหว่างคนกินหล้วยกับคนปลูกกล้วย  ผมดูแล้วรู้สึกสงสารคุณจุลโคยาม่า ล่ามประจำคณะ  ต้องปฏิบัติหน้าที่เป็นพระเอกตลอดเวลา คือหลังจากท่านใดพูดจบทุกคนก็ต้องหันไปดูปากคุณจุลพร้อมๆกัน  เพื่อฟังการแปลภาษาไทยเป็นญี่ปุ่น และแปลญี่ปุ่นเป็นไทย    เมื่อแนะนำตัวเสร็จก็มีการซักถามถึงเรื่องกล้วยหอมทอง และกรรมวิธีปลูกกล้วยให้ปลอดภัยจากสารพิษและสารเคมี ซึ่งหน้าที่นี้ผมถนัดอยู่แล้ว  บทบาทของนักวิชาการสาธารณสุข ซึ่งเป็นตำแหน่งในขณะนั้น ถูกนำมาใช้งานทันที  สรุปให้ผู้ฟังได้รับฟังกันอย่างเป็นการเป็นงาน  เรียกว่าใช้กึ๋นเท่าที่มีอยู่นำเสนอแบบไม่ทันตั้งตัวว่าอย่างงั้นเถอะ โดยนำสิ่งที่มีการปฏิบัติจริงที่สมาชิกผู้ปลูกกล้วยหอมทองปฏิบัติกันในขณะนั้นมาเป็นข้อมูลในการนำเสนอ เช่นการใช้มูลสัตว์ การใช้ปุ๋ยหมัก การใช้เศษวัชชพืช  กากปาล์มหรือเปลือกกาแฟที่สีเอาเมล็ดออก แล้วนำไปทำเป็นปุ๋ยหมัก หรือคลุมดินไว้บริเวณที่ปลูก แต่สิ่งที่คิดว่าสำคัญมากในการนำเสนอให้ผู้บริโภคได้ทราบก็คือมูลค่าของต้นทุนการผลิต  เพื่อให้เขาได้รับรู้ว่าการผลิตกล้วยปลอดสารเคมีนั้นเป็นเรื่องยาก  ต้องใช้แรงงานมากพอสมควร  ในขณะที่ภาคเกษตรกรทั่วไปยังขาดแรงงาน  สาเหตุจากบุตรหลานไปเรียนหนังสือมากกว่าการให้ความสนใจครอบครัวเพื่อช่วยเหลือครอบครัวในการผลิต หากจ้างแรงงานภายนอกแล้วก็จะไม่ได้กำไรอะไรเลย  และอีกอย่างหนึ่งที่สำคัญมากก็คือการปลูกกล้วยหอมทองนั้น  จะให้ได้ผลเต็มที่ผู้ปลูกต้องมีการจัดการระบบน้ำเป็นอย่างดี แต่สมาชิกผู้ปลูกกล้วยส่วนใหญ่ขาดความพร้อมในด้านนี้

      จากกึ๋นของผมเองหรือกึ๋นของล่ามก็ไม่อาจทราบได้ ทำให้คณะกรรมการและตัวแทนกลุ่มสมาชิกสหกรณ์ผู้บริโภค ลุกขึ้นกล่าวขอบคุณพวกเราที่ปลูกกล้วยให้เขาได้บริโภคด้วยความยากลำบาก และรู้สึกเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง  กรรมการและตัวแทนสมาชิกทุกคนกล่าวว่าพวกเขาจะช่วยกันทำความเข้าใจแก่สมาชิกที่ยังลังเลใจอยู่  ได้เข้าใจและบริโภคกล้วยหอมทองปลอดสารเคมีจากละแมอย่างมั่นใจ

      หลังจากขอบคุณกันอีกครั้ง คณะพวกเราก็แยกย้ายกันไปยังที่พัก โดยกลุ่มคุณโกศล โกมินทร์ คุณสมาน ใจรักษ์ และคุณจุล โคยาม่า เดินทางไปพักที่ชานเมือง ส่วนผมกับประธานกลุ่ม ไปพักที่บ้านคุณ มิสุโกะ ฮายาชิ  ไกล้ๆกับโรงเรียน เฮาดูแซท และสำนักงานโฮตะ  ที่บ้านคุณมิสุโกะ เราได้พบกับคุณแม่ของเธอ อายุประมาณ 72 ปี  และ  คุณโนบูฮิดี ฮายาชิ สามีวัย 55 ปี   ท่านทั้งสองรอต้อนรับอยู่ที่บ้าน

     การที่ไม่รู้ภาษาซึ่งกันและกันแต่ต้องอยู่ร่วมกันในช่วงเวลาแม้ไม่นานนัก แต่มันก็ทำให้เราได้ความรู้ไปอีกแบบหนึ่งที่เดียวหละ คุณฮายาชิ สีหน้าบ่งบอกถึงความเป็นคนใจดี ท่านนำนามบัตรมาให้ดูและบอกว่าทำงานเป็นรองประธานขององค์กรเกี่ยวกับด้านสวัสดิการและสังคมอยู่ที่กรุงโตเกียว เราไม่กล้าถามมาก  แม้ว่าคุณนูโบฮิดี จะนำเอาพจนานุกรมญี่ปุ่น-ไทย ที่ท่านซื้อเตรียมไว้มานั่งดูกัน ก็ใช้ประโยชน์ได้น้อยมากเพราะจะพูดสักคำ ต้องเปิดหากันว่อน สู้ใช้ภาษามือผนวกกับภาษาอังกฤษ ที่พอจะมีความรู้งูๆปลาๆทั้งเจ้าบ้านและแขกไม่ได้หรอก    สะดวกกว่ากันเยอะเลย เมื่อคุยกันไม่สนุก เจ้าบ้านก็นำเราไปยังห้องสันทนาการ ซึ่งเป็นห้องทีวีและดนตรี มีหนังต่างๆมากมาย แต่ผู้เป็นแขกง่วงมากเลยไม่มีอารมณ์สนุก ดูเหมือนเจ้าบ้านจะรู้เท่าทันจึงนำเราไปยังที่นอน พวกเราขออาบน้ำกันก่อน  ครู่หนึ่งคุณสมาน ใจรัก โทร.เข้ามาหา แกบอกว่ากำลังกินเหล้าอยู่กับเจ้าของบ้านที่แกไปพัก  มีกับแกล้มพิเศษคือผัดเผ็ดปลาไหล

     หลังอาหารมื้อเช้า คุณฮายาชิ นำพวกเราเดินดูรอบๆบริเวณบ้านที่มีเนื้อที่ว่างเพียง 20 ตารางวา แต่ก็มีผักทั้งในกระถาง และในแปลงเล็กๆ ภายใต้ร่มกีวีและต้นพลับที่กำลังออกผลเต็มต้น ผักที่ปลูกไว้ได้แก่ ผักกาด ต้นหอม มะเขือเทศ บริเวณนั้นมีสุนัขตัวเขื่องนอนอยู่ในกรง ผมกล่าวสวัสดีเป็นภาษาญี่ปุ่นว่า โอฮะโย โกซัยอิมัสซึ  มันยิ้มและกระดิกหาง

      ประมาณ 10.00 น. ของวันที่ 29 สิงหาคม พวกเราไปรวบรวมพลคนละแมกันที่ โรงแรมคลีเม้นท์   เพื่อพบปะสมาชิกสหกรณ์ในที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี  มีสมาชิกเข้าร่วมประชุม ประมาณ 1,000 คน

       คณะเราได้ถูกเชิญขึ้นไปนั่งบนเวที  เมื่อเราขึ้นไปบนเวทีต่างสอดสายตาหาที่นั่ง คุณจุลบอกว่ามีเก้าอี้อยู่ 2 ด้าน ด้านซ้ายมือเป็นที่นั่งของคณะกรรมการบริหารสหกรณ์ ส่วนด้านขวามือเป็นที่นั่งของแขกผู้มีเกียรติ ประกอบด้วยตัวแทนของบริษัท หรือตัวแทนเจ้าของผลิตภัณฑ์ที่ผลิตสินค้าให้แก่สหกรณ์  ในจำนวนนั้น มีตัวแทนผลิตภัณฑ์กล้วยหอมทองจากละแม รวมอยู่ด้วย  พิธีกรแจ้งว่าคณะเราได้ถูกเชิญให้ แนะนำตัวและกล่าวปราศรัยเป็นคณะแรก  เอาละซิภาระสำคัญด่วนชนิดไม่ทันตั้งตัว เกิดขึ้นอีกแล้ว เขาไม่เปิดโอกาสให้เราได้เตรียมตัวล่วงหน้าเลย ผมใช้เวลาอันรวดเร็ว ก้มหน้าก้มตาร่างบทวาทะให้แก่ท่านประธานกลุ่มอ่าน  และส่งให้แก่ล่ามคือคุณจุล โคยาม่า เพื่อแปล  เขากำหนดเวลาให้พวกเรา ไม่เกิน 15 นาที  พวกเรายืนขึ้นและเดินออกไปยังกลางเวที รายงานตัวทีละคน และท้ายสุดท่านประธานนิพนธ์ รักเจริญ เป็นผู้กล่าวปราศรัย ไม่รู้ว่าท่านประธานของเราตื่นเต้นมากไป หรืออยากโชว์ฟอร์มสดเหมือนที่เคยปฏิบัติเป็นประจำไม่ทราบได้   จึงพูดตามประสาที่แกคิด  ไม่เป็นไปตามบทที่เขียนส่งให้อ่านล่วงหน้า พี่แกพูดไปก็หันไปมองล่ามเพื่อให้แปลเป็นระยะๆ  ผมก็คิดว่าเฮ่ยมันคนละรื่องกับการแนะนำคุณภาพสินค้ากล้วยหอมทองกันนี่หว่า ใจเต้นต๋มต๋ำด้วยนึกไปคล้ายกับว่าผู้ฟังเป็นแขกบ้านเรา เพราะเขาฟังกันอย่างตั้งใจและเงียบเชียบดีเหลือเกิน ดีแต่แกพยายามพูดจนจบภายในเวลาที่ถูกกำหนดไว้ เมื่อคุณจุลผู้เป็นล่ามแปลประโยคสุดท้ายเสร็จสิ้น ผู้เข้าร่วมประชุมต่างปรบมือกันเกรียวกราวยาวนาน  เมื่อเรากลับเข้าไปนั่งในห้องรับรองหลังเวที  ผมกระซิบถามคุณจุลว่า เมื่อกี้คุณแปลตามที่ประธานพูดหรือเปล่า คุณจุลบอกผมว่าเปล่าหรอกครับ ผมแปลตามที่พี่เขียนไว้ให้ผมนั่นแหละ ผมได้ฟังจากปากคุณจุลแล้วรู้สึกว่าเฮ้อโล่งอกไปที  นึกขำอยู่ในใจว่า มันกลับดีเสียอีกเพราะประธานพูดได้เต็มที่ไม่พะวักพะวน คงเพราะทราบดีว่าไม่มีใครฟังรู้เรื่อง ฮาๆ

      ที่ผมเขียนบทไว้ให้ประธานพูด สรุปได้ว่า การปลูกกล้วยปลอดสารเคมี เป็นเรื่องที่ลำบาก ใช้ต้นทุนสูง ต้องต่อสู้กับภัยแล้ง แต่กลุ่มผู้ปลูกทุกคนทำด้วยอุดมการณ์ที่ดี เพื่อสร้างเสริมสภาวะสิ่งแวดล้อม และส่งเสริมสุขภาพที่ดีแก่ผู้บริโภค  ต้องขอขอบพระคุณสมาชิกทุกท่านที่ให้เกียรติส่งเสริมสินค้ากล้วยหอมทองจากพวกเรา สุดท้ายนี้พวกเราทุกคนจะพยายามอย่างดีที่สุดที่จะช่วยกันแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นทุกประการเพื่อสร้างสิ่งที่ดีๆให้แก่ทั้งสมาชิกผู้ผลิตและผู้บริโภค

    ภาระกิจช่วงเช้าเราออกจากโรงแรมไปเยี่ยมชมร้านค้าสหกรณ์ผู้บริโภคโตกุชิม่า ซึ่งตั้งอยู่ที่ชานเมือง เป็นอาคารใหญ่ขนาดศูนย์การค้าในต่างจังหวัดบ้านเรา  ภายในมีสินค้าสำหรับบริโภค อุปโภคครบครัน ประมาณ 70 เปอร์เซนต์เป็นสินค้าประเภทอาหารการกิน มีร้านขายยาโดยเภสัชกรภายในสหกรณ์ 1 ห้อง

    ผู้ช่วยผู้จัดการร้านค้า เป็นผู้ที่ได้รับมอบหน้าที่ให้เป็นผู้บรรยายให้พวกเราฟัง ได้ความว่า ร้านค้าสหกรณ์โตกุชิม่าเปิดดำเนินการเมื่อ 1 กุมภาพันธ์ 2538 มีจำนวนสมาชิก 56,000 คน เฉลี่ยผู้มาใช้บริการวันธรรมดา ประมาณ 900 คน วันเสาว์-อาทิตย์ ประมาณ 1,500 คน  กิจการร้านค้า 1 ใน 3 เป็นเงินหุ้นจากสมาชิก อีกสสองส่วนเป็นเงินกุ้จากธนาคาร สมาชิกถือหุ้นมูลค่าหุนละ 1,000 เยน คิดเป็นเงินไทย 260 บาท และสมาชิกถือหุ้นได้ไม่เกิน 1,000 หุ้นแต่ต้องไม่ต่ำกว่า 3 หุ้น

    ภายในร้านค้าเราพบโปสเตอร์ประชาสัมพันธ์กล้วยจากละแม แต่ไม่มีสินค้าวางจำหน่าย ผู้สนใจต้องสั่งจองเท่านั้น เพราะกล้วยจะมีเดือนละ 1 ครั้ง ส่วนกล้วยที่วางอยู่เป็นกล้วยจาก เอกวาดอร์ และจากฟิลิปปินส์ มีขนาดลูกโตมากโดยเฉพาะกล้วยจากเอกวาดอร์ ที่ราคาขีดละ 18 เยน แต่กล้วยจากละแมขีดละ 40 เยน แต่เมื่อลองชิมดูแล้ว  แตกต่างกัน กล้วยเอกวาดอร์ มีรสหวานน้อยกว่ากล้วยละแมมาก

    สิ่งที่น่าสนใจก็คือการบริการสมาชิก สมาชิกสหกรณ์ทุกคนมีบัตรการ์ดของร้านค้า และเมื่อจับจ่ายซื้อของเสร็จระบบก็จะจัดเก็บข้อมูลการใช้บริการของสมาชิก คุณชิโนบุเชิญพวกเราขึ้นไปที่ห้องประชุมแล้วเปิดโอกาสให้พวกเราซักถาม สรุปได้ว่าการบริหารจัดการของสหกรณ์ใช้วิธีการประเมินผลความต้องการของสมาชิกอย่างต่อเนื่องด้วยการวางระบบข้อมูล จากตู้รับฟังความคิดเห็น ทุกสัปดาห์ การประเมินข้อมูลสมาชิกถือเป็นความสำคัญเร่งด่วนอันดับแรก ข้อมูลที่สรุปแล้วส่วนหนึ่งจะนำไปขึ้นบอร์ดเพื่อให้สมาชิกได้อ่าน ทั้งสรุปข้อเสนอแนะของสมาชิก และแนวทางการปฏิบัติตามข้อเสนอแนะ อีกส่วนหนึ่งก็สรุปเป็นเอกสารให้สมาชิกอ่าน  ทางร้านค้าสหกรณ์จะมีฝ่ายประชาสัมพันธ์ เยี่ยมเยียนสมาชิกตลอดทุกระยะ โดยมีเป้าหมายที่ ครอบครัวที่ยังไม่เข้าร่วมเป็นสมาชิกเพื่อเชิญชวนให้สมัครเข้าร่วมเป็นสมาชิก ส่วนสมาชิกที่เป็นแม่บ้านวัย 25-45 ปี ก็จะได้รับการเยี่ยมเยียน เพื่อแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพอนามัยจากการเลือกซื้อเลือกบริโภคอาหารที่มีคุณค่าและมีคุณภาพ โดยเฉพาะบ้านที่มีเด็กจะเน้นให้สร้างสุขภาพในการบริโภคให้กับลูกๆในครอบครัว และ ณ วันที่เราไปเยี่ยมคุณ ชิโนบุ บอกว่า ประมาณ 1 ใน 5 ของครัวเรือน ได้เข้าเป็นสมาชิกสหกรณ์แล้ว

   เวลา 12.00 น. เรากลับไปยังโรงแรมคลีเม้นท์ ร่วมรับประทานอาหารกลางวันในงานเลี้ยงประชุมใหญ่สามัญประจำปี คณะกรรมการบริหารสหกรณ์ หลายท่านเดินมาพูดคุยกับเรา รินเหล้ารินเบียร์ให้ไม่ขาดตกบกพร่อง อาหารส่วนใหญ่เป็นอาหารทะเล และก็สดอย่าบอกใครเลยเชียว เรามีหน้าที่พยักหน้าและก็หัวเราะเฮฮากันไปตามประสา ความเป็นคนไทยนั้นมีวิธีหาความสนุกสนานได้ทุกรูปแบบอยู่แล้ว เสร็จจากงานเลี้ยงก็ร่ำลากันเพื่อเดินทางกลับไปคืนที่สหกรณ์ผู้บริโภค โยโดกาว่า   ซึ่งจะมีรายละเอียด เป็นตอนสุดท้ายสำหรับการไปญี่ปุ่นคราวนั้น พบกันใหม่ครับ

 ลิ้งค์ เพื่ออ่านต่อ

 

   

หมายเลขบันทึก: 199269เขียนเมื่อ 7 สิงหาคม 2008 05:43 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

แวะมาทักทายค่ะ

มีความสุขในการทำงาน

สุขภาพแข็งแรง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท