เรามาเตรียมนำเสนอด้านผลการสอนและการพัฒนาผู้เรียนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์
1) รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนในระดับชั้นที่สอน ทุกหน่วยงาน ได้แก่ ผลการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษา (มาตรฐานที่ 5) ผลการประเมินคุณภาพภายนอก (มาตรฐานที่ 5) ผลการสอบระดับชาติ (O-Net, A-net, NT) ทั้งระดับชั้นเรียน และรายบุคคล อย่างน้อย 2 ปีการศึกษา
อย่าลืม วิเคราะห์ เปรียบเทียบ และพยายามจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ โดยการใช้สื่อเสริม ให้ผู้เรียนฝึกปฏิบัติการทดลองโดยฝึกออกแบบการทดลองด้วยตนเอง และใช้ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รวมทั้งใช้ การวัดและประเมินผลวิทยาศาสตร์แนวใหม่ .............ในครั้งต่อไป...........ครูวิทยาศาสตร์จะได้เรียนรู้ร่วมกันเกี่ยวกับการวัดผลที่ไม่เน้นความรู้ความจำ...............อีกต่อไป
2) จัดทำรายงานการศึกษาค้นคว้า หรือ รายงานการวิจัยเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์ และนำผลที่ได้ไปใช้ในการพัฒนาการเรียนการสอน/ผู้เรียนแล้ว อย่างน้อย 1 ชิ้น (ไม่ควรทำเกิน 1 ชิ้น เพราะคะแนนที่ได้จะนำไปรวมกันแล้วหาค่าเฉลี่ย)
3) ผลงานอื่นที่เกี่ยวข้อง (ถ้ามี) ไม่ต้องมีก็ได้นะคะ
ตัวอย่าง : ผลงานทางวิชาการที่เป็นการศึกษาค้นคว้า หรือวิจัยที่ครูวิทยาศาสตร์ควรนำไปใช้
ยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้สูงขึ้น และรายงานผลการใช้
จากประสบการณ์การเป็นผู้ประเมินครูวิทยาศาสตร์ / ศึกษานิเทศก์ชำนาญการพิเศษ
1. ชุดฝึก / แบบฝึก กิจกรรมเสริมทักษะกระบวนการคิดวิเคราะห์ หรือคิดสังเคราะห์ หรือคิดวิจารณญาณ หรือคิดแก้ปัญหา ระดับชั้นละประมาณ 7 - 9 ชุด/เล่ม (อย่าลืม เลข 9 นำโชค) เลือกทักษะกระบวนการคิดเพียงอย่างเดียว (ทำให้ลึก) การทำชุดฝึกเป็นการให้ความรู้ หรือสถานการณ์ หรือภาพสวย ๆ ประกอบ แล้วตั้งคำถามให้ผู้เรียนคิดหาคำตอบ พร้อมทั้งฝึกให้เขียนตอบโดยใช้เหตุผลประกอบ ใช้รูปการ์ตูนที่มีสีสรรน่าอ่านเหมาะสมตามวัย
2. แบบทดสอบก่อนเรียน / หลังเรียน หรือแบบทดสอบหลังเรียนเมื่อเทียบกับเกณฑ์ที่กำหนด เป็นแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการคิดที่เราเลือกพัฒนา การสร้างแบบทดสอบวัดทักษะกระบวนการคิดกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์.................โปรดติดตาม..........
3. คู่มือชุดฝึก / แบบฝึก และแผนการเรียนรู้ประกอบการใช้นวัตกรรมชุดฝึก / แบบฝึก ทั้ง 9 เล่มที่เราทำขึ้น อย่างน้อยน่าจะ ประมาณ 20 ชั่วโมงขึ้นไป เพื่อให้เกิดผลกับผู้เรียนตามวัตถุประสงค์ที่เราตั้งไว้
4. รายงานผลการใช้ชุดฝึก / แบบฝึก อาจใช้รูปแบบรายงานการวิจัย 5 บท คล้าย ๆ กับวิทยานิพนธ์ของนักศึกษา ระดับปริญญาโท มีการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติที่ไม่ซับซ้อน ถ้าท่านเรียนจบระดับปริญญาตรี แต่ถ้าท่านเรียนจบระดับปริญญาโท ก็ต้องแสดงความสามารถหน่อยล่ะค่ะ.................ถ้าเป็นระดัยชำนาญการพิเศษ.........อย่าลืม..........ภาคผนวกนอกจากจะระบุ...........รายนามผู้เชี่ยวชาญ, แบบทดสอบพร้อมเฉลย, ตัวอย่างนวัตกรรมเพียง 1 ชุด , Print out การวิเคราะห์ข้อมูลจากคอมพิเวเตอร์ การหาประสิทธิภาพของชุดฝึก / แบบฝึก, การหาคุณภาพของแบบทดสอบ .............สิ่งที่จะลืมไม่ได้เด็ดขาด.......ท้ายสุดของรายงาน ควรนำเสนอผลงานผู้เรียนที่เกิดจากการเรียนรู้จาก ชุดฝึก / แบบฝึก............
"การสร้างชุดฝึก / แบบฝึก บางสถานการณ์อาจจัดทำเป็นสื่อเทคโนโลยี เช่น CD การฝึกทักษะกระบวนการคิดระดับสูงด้วยตนเองประกอบบ้างพื่อเพิ่มความน่าสนใจ นอกจากเรียนรู้จากเอกสารแต่เพียงอย่างเดียว...............
...........ขอให้ครูวิทยาศาสตร์มีกำลังใจ มุ่งมั่นในการพัฒนาผู้เรียน ตามสภาพปัญหาในการเรียนรู้......... โดยใช้สื่อ/นวัตกรรมที่สร้างขึ้นด้วยตนเอง และปรับปรุงแก้ไขตามที่ผู้เชี่ยวชาญเสนอแนะ.........นำไปทดลองใช้ หาคุณภาพ ปรับปรุง.........แล้วนำไปใช้จริง สามารถแก้ปัญหาผู้เรียนได้ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนสูงขึ้น............ผลพลอยได้ คือ ครูชำนาญการพิเศษวิทยาศาสตร์ ที่สง่างาม
โชคดีนะคะ...........ฉบับหน้าเราจะพบกับ " การวัดและประเมินผลวิทยาศาสตร์แนวใหม่.............เพื่อพัฒนาผู้เรียน..............
เรียน อาจารย์นราวัลย์ กาญจนะประโชติ
ผมสงสัยครับว่า แบบฝึก กับ ชุกฝึก ต่างกันอย่างไรครับ
ขอบคุณมาก ๆ สำหรับข้อความที่อ่าน วิชาวิทย์เป็นวิชาที่มีผลสัมฤทธิ์ต่ำ และพัฒนาได้ยาก ครูวิทย์น่าจะจับกลุ่มแลกเปลี่ยนนวัตกรรมกัน
...จริงๆ ..คะแนนมาตรฐาน จาก NT สำคัญต่อการยกระดับคุณภาพผลสัมฤทธิ์มาก ๆ ในฐานะการเป็นครูที่พัฒนาให้เด็กที่มีความสามารถพิเศษ ใช้คะแนนนี้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณามานานมาก...แม้ไม่สามารถทำให้ตนเองประสบความสำเร็จในการเป็นครูชำนาญการพิเศษใน 3 รุ่นที่ผ่านมา เนื่องจากมีความคิดว่า ครู..ขู่...กรรมการ หรือผลสัมฤทธิ์จากงานที่ส่งไม่มีมาตรฐาน
......แอบภูมิใจลึกๆ กับเกณฑ์ใหม่ที่เฟ้นคน..และเฟ้นครู.....
เป็นประโยชน์มากๆ เพราะสามารถนำไป apply กับการสอนวิชาคณิตศาสตร์ที่สอนได้...แม้จะช้า แต่ sure และหยิ่ง ในความรู้และวิทยายุทธที่ได้ฝึกปรือมา
พัชรา จันทรา