ตามที่มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ได้มีการลงนามจัดทำบันทึกข้อตกลงเครือข่ายจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย ซึ่งมีมหาวิทยาลัยและสถาบันในเครือข่าย จำนวน 8 สถาบัน ประกอบด้วย มหาวิทยาลัยมหิดล มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยมหาสารคาม มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ มหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม มหาวิทยาลัยนเรศวร และสถาบันส่งเสริมการจัดการความรู้เพื่อสังคม (สคส.) เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดการความความรู้ในมหาวิทยาลัย แลกเปลี่ยนข้อมูล ความรู้ ประสบการณ์ ในหัวข้อต่างๆ ที่สมาชิกเครือข่ายการจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัย (UKM) สถาบันกำหนดขึ้น โดยหมุนเวียนกันเป็นเจ้าภาพจัดการเสวนาฯ เป็นประจำทุกปี
สำหรับการจัดเสวนาเครือข่ายจัดการความรู้ระหว่างมหาวิทยาลัยครั้งที่ 13 มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ได้รับมอบหมายเป็นเจ้าภาพ โดยกำหนดหัวข้อการเสวนาคือ “การนำผลงานวิจัยไปใช้ประโยชน์ (Utilization of Research Work)” ในวันศุกร์ที่ 1 – วันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2551 ณ โรงแรมมาริไทม์ ปาร์ค แอนด์ สปา รีสอร์ท จังหวัดกระบี่ ซึ่งสอดคล้องกับภารกิจของมหาวิทยาลัยที่มุ่งเน้นให้มีการดำเนินการศึกษา ค้นคว้า วิจัยและพัฒนาองค์ความรู้ใหม่ให้สามารถนำไปใช้ในการผลิตให้มีคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อความสามารถในการพึ่งตนเองและการแข่งขันในระดับนานาชาติ เพื่อเป็นการกระตุ้น สนับสนุนให้พนักงานมีการพัฒนางานประจำสู่งานวิจัย (Routine to Research) และพัฒนางานวิจัยสู่งานประจำ (Research to Routine) บรรลุผลตามที่กำหนดไว้ มหาวิทยาลัยจึงสนับสนุนให้ผู้บริหารและพนักงาน จำนวน 14 ท่าน เดินทางเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว รายชื่อดังนี้
1 ดร.กีร์รัตน์ สงวนไทร รองอธิการบดีฝ่ายวางแผนและพัฒนา (CKO)
2 ผศ.ดร.หมุดตอเล็บ หนิสอ อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์ สาขาฟิสิกส์
เป็นนักวิจัยด้านพลาม่าฟิสิกส์
3 ดร.จิตบรรจง ตั้งปอง อาจารย์ประจำสำนักสหเวชศาสตร์และสาธารณสุขศาสตร์
4 นางสาวสุดธิดา สังข์พุ่ม อาจารย์ประจำสำนักวิชาวิทยาศาสตร์
5 นายนิรันดร์ จินดานาค ห้วหน้าหน่วยพัฒนาองค์กร
6 นางสาวยุพเรศน์ พัลพัฒน์ นักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์
7 นางกาญจุรีย์ ว่องไวรัตนกุล นักวิทยาศาสตร์ ศูนย์เครื่องมือวิทยาศาสตร์
8 นายนำชัย แซ่หลี ศูนย์บริการการศึกษา
9 นายโองการ กุลสมบัติ ศูนย์บริการการศึกษา
10 นางไพจิตรา สุวรรณ ศูนย์บริการการศึกษา
11 นางสาวสุวิมล จันทร์แท่น สถาบันวิจัยและพัฒนา
12 นางอัมพร เสนาคำ ส่วนกิจการนักศึกษา
13 นายชาญชัย ตันติวัฒโนดม ส่วนแผนงาน
14 นางสาวปิติกานต์ จันทร์แย้ม หน่วยพัฒนาองค์กร
ภายหลังการเข้าร่วม ในวันเสาร์ที่ 2 สิงหาคม 2551 พวกเราได้ร่วมทบทวนบทเรียน (AAR) การเข้าร่วมเสวนาในครั้งนี้ทันที ที่ Lobby ของโรงแรม ใช้เวลา 13.00-14.30 น.มีดังนี้
ความรู้สึกที่เกิดขึ้นภายหลังการเข้าร่วมเสวนาฯ ครั้งนี้
• ดีใจที่ได้เข้าร่วม / ดีใจที่ได้มาเล่าประสบการณ์
• เกิดความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนพนักงานของมหาวิทยาลัยที่เดินทางร่วมกิจกรรมเองและได้รู้จักเพื่อนใหม่ต่างสถาบัน เช่น ฝ่ายสนับสนุนการเรียนการสอนจาก มอ. มข. และ มมส. ทำให้สามารถสร้างเครือข่ายการทำงานในอนาคต
• ได้ฟังคนที่คิดเหมือนและคิดมากกว่าเรา ได้เจอ พูดคุยกับคนที่ทำวิจัยมามาก ซึ่งเราเพียงเพิ่งเริ่มต้น
• รู้สึกมั่นใจในความคิดของตนเองมากขึ้น
• รู้สึกสิ่งที่ได้รับเกินกว่าที่ความคาดหมายที่วางไว้
แรงบันดาลใจ / การเรียนรู้ที่เกิดขึ้น
• อยากกลับมาทำงานวิจัยสักชิ้น
• การเข้าร่วมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้ทำให้เราได้เรียนรู้ทางลัด ไม่ต้องลองผิดลองถูก ซึ่งถือเป็นหนังสือเล่มใหญ่ที่มีค่ามาก
• ทำอะไรได้ดีเราต้องทำด้วยใจ
• บางครั้งเราคิดว่าเราทำดีแล้วแต่เพื่อนทำได้ดีกว่า
• เห็นความสำคัญของการทำวิจัย การเก็บรวบรวมข้อมูลมากขึ้น
• เดิมรู้สึกว่าวิจัยทำยาก แต่การได้เข้าร่วมเสวนาครั้งนี้ทำให้รู้สึกว่า “เราทำได้” หากมีคนช่วยเสริมด้านนี้
อัศจรรย์ใจมาก...ว่าไหมคะ กับความรู้สึกและแรงบันดาลใจที่เกิดขึ้นในพวกเรา การได้ทบทวนบทเรียนในครั้งนั้นมีพลังมาก ทำให้สัมผัสได้ถึง...ใจที่พร้อมมุ่งมั่นพัฒนา มีใจดวงเดียวกัน ที่จะทุ่มเท พัฒนางานให้ดีขึ้น ทำให้เองรู้สึกคุ้มค่ากับการได้มาร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้และสร้างกัลยาณมิตรการพัฒนางานสู่งานประจำ แบบ "มองตาก็รู้ใจ"
ตนเองรู้สึกดีใจมากคะที่ได้มีส่วนในปรับเปลี่ยนให้มีการ AAR ทันทีหลังจากการเข้าร่วมเสวนาฯ ในครั้งนี้ ซึ่งเดิม เราก็มีการทำ AAR ทุกครั้ง แต่ไม่ได้ AAR ทันทีจะกลับมา AAR เมื่อกลับมามหาวิทยาลัย ซึ่งหลายท่านก็ลืมและไม่สามารถเข้าร่วม AAR ได้ และรู้สึกว่า AAR แบบนั้นไม่มีพลัง ทำให้ตนเองเรียนรู้กับการเป็นผู้ประสานงานในครั้งนี้ว่า "ไม่ว่าเราจะทำอะไร งานเล็ก งานน้อย หรือไม่ต้องใช้งบประมาณมาก หากเราพิถีพิถันกับกระบวนการ สิ่งที่เกิดขึ้นย่อมมีพลังการเปลี่ยนแปลงมากทีเดียว"
ขอบคุณคะ
ปิติกานต์ จันทร์แย้ม
สวัสดีครับ น้องเมย์ เป็นการสรุป UKM13 ที่ได้ใจความสำหรับคนที่ที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรม ประโยคสำคัญ ที่ว่า การนำงานประจำไปสู่การวิจัย(Routine to Research) และพัฒนางานวิจัยสู่งานประจำ (Research to Routine) น่าจะเป็นแรงบันดาลใจสำหรับคนมหาวิทยาลัยทุกส่วนงาน ในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ประถม และมัธยมศึกษา) ครูเขาก็มีการทำงานวิจัยในงานประจำเรียก ที่ว่า งานวิจัยหน้าเดียว ไม่ต้องทำ 5 บท เหมือนงานวิจัยทั่วไป ให้ยุ่งยาก นำปัญหาที่เกิดขึ้น จากการเรียนการสอน มาหาวิธีแก้ปัญหา มีการเก็บข้อมูล ทดลอง ทดสอบ แก้ไขปัญหา และสรุปผลอยู่ในหน้าเดียว A4 ส่วนการทำ AAR หลังเสร็จการประชุม ทันทีเห็นด้วยอย่างยิ่งครับ ความคิดยัง อุ่น ครุกรุ่น ดีครับ..
อ้อ ลืม Cheer และลืมชวน โครงการสหกิจศึกษา เป็นหน่วยวิจัย R2R กับเราด้วย สนใจร่วมขบวนกับเราติดต่อมาที่หน่วยพัฒนาองค์กรได้เลยนะคะ รับไม่อั้น
ตอนนี้มหาวิทยาลัยกำลังสนับสนันเรื่องนี้อยู่ เชื่อมั่นคะ ว่าพี่ๆ สหกิจทุกคนสามารถเป็นนักวิจัยได้เพราะผู้ปฏิบัติที่อยู่หน้างานจะเป็นนักวิจัยชั้นยอดได้...เพียงมาด้วยใจเต็มร้อยและต้องการพัฒนางานเดิมให้ดีขึ้นเรื่อยๆ อยากให้ผู้ใช้บริการเกิดความพอใจ และจะรู้ว่างาน Routine ที่เราทำมีค่าและสามารถสร้างความรู้ได้
ขอบคุณคะ
น้องเม
ขอแสดงความชื่นชมกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ทุกท่าน
รายงานแบบละเอียด..ยิบ เลยครับ เยี่ยมมากครับ
มาสร้างกำลังใจ เสริมใยเหล็ก พอน้องเมบอกว่าเราทำได้ ก็สำเร็จไปครึ่งทางแล้วค่ะ
ขอบคุณ คุณผจญ คุณสายน้ำ และพี่ใบบุญ ที่เข้ามาทักทายและเป็นแรงใจให้ และขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านด้วยนะคะ
ขอบคุณมากคะ
สวัสดีค่ะ
แอบเห็นทีมของม.วลัยลักษณ์ นั่งคุยกันที่ Lobby ก่อนที่ทีม ม.อ. จะเดินทางกลับ
การแลกเปลี่ยนครั้งนี้ทำให้เห็นความสำคัญในการทำงานเพื่อพัฒนางาน โดยใช้การวิจัยมาเป็นเครื่องมือช่วยไปพร้อมๆ กับ KM นะคะ
ขอฝากกำลังใจให้ทางทีม ม.วลัยลักษณ์ด้วยนะคะ
ขอบคุณ ...คุณมะปรางเปรี้ยวมากที่เป็นกำลังใจให้นะคะ และจะเป็นกำลังใจให้คุณมะปรางเปรี้ยวเช่นกันนะคะด
ตามมาชมภาพ มีภาพทะเลรึเปล่าคะ
สวัสดีคะ พี่ใบบุญ
ภาพทะเลไม่มีคะ ไม่ได้ไป เนื่องจากกลัวกลับถึงมหาวิทยาลัยค่ำ มีแต่ภาพกิจกรรมที่ทำร่วมกันและสถานที่ที่เราแวะระหว่างทาง พรุ่งนี้จะลงรูปให้พี่ใบบุญดูอีกครั้งนะคะ