เช้าวันเดียวกันหลังจากที่ประทับใจไปกับฝูงนกลูนในทะเลสาป พวกเราเดินทางขึ้นเขา Hike ไปอีกมุมนึงของทะเลสาป
หวังไว้ว่าจะได้ไปเห็นนกอินทรีย์ใกล้ๆ เพราะมีรังของมันอยู่บนต้นไม้บนยอดเขา
ลินดาเดินนำลิ่ว เชี่ยวชาญทางมากเพราะเค้ามาทุกปีเป็นเวลา 30 ปีิแล้ว
อึมูส (Moose) สดๆเลยค่ะ มันคงอยู่ไม่ไกลพวกเราเท่าไหร่ แต่เราเดินกันเสียงเท้าดัง มันจะไม่กล้ามาให้เห็น
ซากไม้ที่โดนบีเวอร์ (Beaver) กัดแทะเพื่อนำไปสร้างรัง
ลูกเบอร์รี่ชนืดหนึ่ง
ใบ Aspen เป็นโรคอะไรซักอย่าง
พอปีนขึ้นไปถึงยอดเราก็เห็นรังนกอินทรีย์ แต่ว่าไม่เห็นตัวนก
...
...
...
ระหว่างที่พักเหนื่อย ยืนหอบกันอยู่ ชันและเบนจามินก็บอกพวกเราว่า เงียบๆๆ เดินเบาๆ นกอินทรีย์อยู่ตรงนี้เอง
พอเราเดินเข้าไปใกล้ๆ ก็เห็นลูกนกยืนอยู่บนขอนไม้บนพื้น พวกเราทำตัวให้เงียบที่สุด แทบไม่อยากเชื่อสิ่งที่เห็น
ลินดาพูดเบาๆไม่หยุดว่า "this is a miracle"
เค้า hike มาตรงนี้ 30 ปีแล้วไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้เลย
...
...
...
...
...
...
แล้ว....ลูกนกอินทรีย์อีกตัวก็ขยับตัวให้เห็น!
ตอนแรกเห็นแค่ตัวเดียว
ขณะที่ย้ายมุมถ่ายรูปกันอยู่นั้น ผู้เขียนก็พูดว่า เหม็นอ่ะ ขี้มันเหรอ
แต่แล้วชันก็พบคำตอบ มันคือกลิ่นซากนกลูนนั่นเอง!
ลูกนกอินทรีย์สองตัวนี้เพิ่งอิ่มจากอาหารที่แม่มันเอามาป้อน
เมื่อพวกเราคิดได้ว่า แม่มันบินหาอาหารอยู่แถวนี้ เราก็ตัดสินใจเดินเท้าต่อไปโดยด่วน
เพราะถ้าแม่มันมาตอนนี้มันคงไม่โปรดแน่ๆ
แล้วลูกตัวขนาดนี้ แม่จะตัวขนาดไหน!
พวกเราเห็นแม่มันบินเหนือทะเลสาปมาหลายวันแล้วเช่นกันค่ะ
ระหว่างทางกลับเราเห็นดอกไม้ป่าหลายชนิด
เห็นหินที่แตกเป็นเสี่ยงๆเพราะอากาศที่นี่ร้อนร้อนมากหนาวก็หนาวมาก
มีสตอเบอรรี่ป่าเต็มพื้นไปหมดเลยค่ะ เปรี้ยวบ้างหวานบ้าง
เจอน้องชิบมั้งด้วย
พวกเรากลับมาที่เคบิ้น ทุกคนพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า Amazing!
เป็นประสบการณ์ที่หาไม่ได้ง่ายๆเลยค่ะที่จะไปเจออะไรแบบนั้น สุดยอดจริงๆ
ปล. คิดเหมือนกันรึเปล่าคะว่าฝูงลูนมันมารวมตัวหัดบืนกันเพราะอะไร?
รวมกันลูน(อาจจะ)รอด แต่แยกกันคงเป็นเหยื่อง่ายขึ้น
ถึงแม้จะแบ่งเขตแดนกันอยู่ แต่ก็เป็นเพื่อนบ้านกัน.. ความสามัคคีมีผลจริงๆ
ทุกคนคิด(กันไปเอง)ว่าพวกลูนมันคงมาประชุมกันเรื่องที่ญาติมันหายไป 1 ตัว แล้วก็เตรียมพร้อมนกวัยรุ่นให้บินให้แข็งจะได้หนีนกอินทรีย์ทัน
จริงไม่จริงไม่ทราบเหมือนกันค่ะแต่มันก็น่าทำให้คิดไปเป็นอย่างนั้นเนอะคะ
้เจ้าของเคบิ้นเค้าก็บอกว่าแปลกมาที่มันมารวมกันทั้ง 4 ครอบครัวแบบนี้
เหอๆๆ ดีแล้วที่ไม่อยู่รอคุณแม่นก เคยดูในสารคดี เวลาพวกนี้โตเต็มที่กางปีกทีเป็นเมตรๆเชียวนา อาจจะไม่ปลอดภัยได้ แต่ภาพ candid อินทรีนี่ได้ใจอย่างแรง เป็นนกที่โครงสวยจริงๆ (แก้ชื่อนกให้ แบบนั้นมันม่ายช่ายนา อันนั้นมันเป็นสารอินทรีย์) จะบอกว่าโชคดีมหาศาลที่ได้มีโอกาสเห็น ไม่ใช่ว่าจะหาดูได้ง่ายๆ เจอเบิ้ลซะด้วย
ขอบคุณพี่ซูซานที่แก้คำผิดให้ค่ะ!
นี่เป็นไฮไลท์ของงานมากเพราะไม่ได้คาดหวังไว้เลยว่าจะเจอ