ของแทนใจจากแม่ (ยาย)


เป็นของแทนใจจากแม่ ที่ผมภูมิใจและยังอยู่กับผมในปัจจุบัน

       เมื่อวานนี้หลังจากเขียนบันทึก ของแทนใจจากแม่ แล้วไปหารูปสร้อยทองที่คุณแม่มอบให้เพื่อมาประกอบ จึงทำให้ได้เห็นว่าตนเองมีสร้อยทองอีกเส้นที่ได้รับจากคุณแม่ แต่เป็น คุณแม่คนที่สอง คือคุณแม่ยาย สร้อยทองเส้นนี้ได้รับเป็นของขวัญในวันแต่งงาน เมื่อสามสิบกว่าปีมาแล้ว พร้อมพระเลี่ยมทอง พระองค์นี้ได้รับทราบจากคุณลูกสาวของท่านว่า เป็นสมเด็จหลวงพ่อทวด เหยียบน้ำทะเลจืด เนื้อว่านที่หาได้ยากมากในปัจจุบัน ที่คุณแม่ได้รับมาจากญาติผู้ใหญ่อีกต่อหนึ่ง เนื่องจากคุณแม่มีเชื้อสายเป็นญาติของหลวงพ่อทวดด้วย  ในช่วงที่ทำงานที่เชียงใหม่กว่า 25 ปี ผมจะสรวมสร้อยเส้นนี้พร้อมหลวงพ่อทวด ขณะทำงานอยู่ในมหาวิทยาลัย สลับกับสร้อยสแตนเลสที่มีเหรียญ หลวงปู่แหวน หลวงปู่ฝั้น และ หลวงพ่อผาง ในช่วงที่ออกไปทำงานภาคสนามเป็นประจำ สร้อยทองพร้อมหลวงปู่ทวดที่ได้รับในวันแต่งงาน ก็ยังคงเป็นของแทนใจจากแม่ ที่ผมภูมิใจและยังอยู่กับผมในปัจจุบัน แม้ว่าท่านจะจากพวกเราไปแล้ว และผมจะไม่ได้สรวมใส่บ่อยเหมือนเมื่อสมัยก่อนก็ตาม

          รายละเอียดเรื่องของ หลวงพ่อทวด หรือ หลวงปู่ทวด เยียบน้ำทะเลจืด และกิติศัพท์เล่าลือเกี่ยวกับ ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงพ่อ คงสอบถามคุณกูเกิ้ล (google) ได้ ไม่ยาก ขอนำบางส่วนมาไว้ดังนี้ครับ

          สมเด็จเจ้าพะโคะหรือหลวงพ่อทวด เป็นที่รู้จักของชาวไทยทุกภูมิภาคในฐานะพระศักดิ์สิทธิ์ที่มีอิทธิปาฏิหาริย์และอภิญญาแก่กล้าจนได้สมญาว่า "หลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" ประวัติอันพิสดารของท่านมีเล่าสืบกันมาไม่รู้จบสิ้น ยิ่งนานวันยิ่งซับซ้อนและขยายวงกว้างออกไปกลายเป็นความเชื่อความศรัทธาอย่างฝังใจ

          หลวงปู่ทวด เป็นพระภิกษุในสมัยอยุธยาในแผ่นดินของ สมเด็จพระเอกาทศรถ แต่เดิมท่านจำพรรษาอยู่ที่วัดพะโค๊ะ จึงมีอีกสมญานามหนึ่งว่า สมเด็จพะโค๊ะ
มีเรื่องเล่าว่า ตอนที่ท่านเดินทางโดยเรือผ่านอ่าวไทยเพื่อเข้ากรุงศรีอยุธยานั้น ก็เกิดคลื่นลมทะเล ปั่นป่วนขึ้น เรือไม่สามารถแล่นฝ่าคลื่นลมไปได้ ต้องทอดสมออยู่กลางทะเลถึง ๗ วัน ทำให้เสบียงอาหารและน้ำหมด บรรดาลูกเรือจึงตั้งข้อสงสัยว่าการที่เกิดอาเภทในครั้งนี้เป็นเพราะท่านที่เป็นภิกษุ จึงตกลงใจ ส่งท่านขึ้นเกาะได้นิมนต์ท่านให้ลงเรือมาด ขณะที่ท่านนั่งอยู่ในเรือมาดนั้น ท่านได้ห้อยเท้าซ้ายแช่ลงไปในน้ำทะเลได้บังเกิดอัศจรรย์ขึ้น เมื่อน้ำทะเลบริเวณนั้น เกิดประกายแวววาว โชติช่วง ท่านจึงบอกลูกเรือให้ตักน้ำขึ้นมาดื่ม เมื่อดื่มน้ำนั้นก็รู้สึกว่าเป็นน้ำจืด จึงช่วยกันตักไว้จนเพียงพอ นายสำเภาเรือจึงนิมนต์ ให้ท่าน ขึ้นเรือสำเภา อีกครั้ง ท่านจึงมีอีกหนึ่งสมญานามว่า หลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดเมื่อท่านใกล้จะมรณะภาพได้สั่งญาติโยมว่าให้นำศพท่านไปฌาปณกิจ ที่วัดช้างไห้
          ส่วนผู้สร้างพระเครื่องหลวงปู่ทวด วัดช้างไห้ ก็คือ อาจารย์ทิม (พระครูวิสัยโสภณ ทิม ธฺมมธโร ) อดีตเจ้าอาวาสวัดช้างไห้ ซึ่งปัจจุบันได้มรณภาพไปแล้วตั้งแต่ ปี พ.ศ 2512 ส่วนพระเครื่องหลวงปู่ทวดนี้เริ่มสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ 2497 โดยวัตถุประสงค์ในการสร้างเพื่อแจกให้กับญาติโยมที่มาร่วมกันสร้าง พระอุโบสถวัดช้างไห้

หมายเลขบันทึก: 198579เขียนเมื่อ 4 สิงหาคม 2008 11:14 น. ()แก้ไขเมื่อ 6 กันยายน 2013 19:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท