หลาย ๆ สิ่ง ทั้งรูปธรรม และนามธรรม
กฎพื้นฐานธรรมชาติสร้างสิ่งที่ใช้ความคุมการดำเนินความเ็นไปในกลไลการจัดการทุกอย่างที่เรียกว่าความสมดุล
สังเกตดูหลายๆ สิ่งแน่นอนที่เราเรียนรู้มาจากสื่อ
จากความเป็นจริงที่เป็นสิ่งพิสูจณ์มาแล้ว เช่น
การแพ้-ชนะ
ดำ-ขาว
แสง-เงา
ร้อน-เย็น
ซึ่งมีผู้ค้นพบสัจธรรมนี้ และได้ยึดถือมาเป็นแนวทางดำเนินชีวิต และจิตใจ ก็คือ ลัทธิเต๋า นั่นเอง
หยิน-หยาง ความสมดุลเฉกที่เราศึกษาดูจะสังเกตุว่า มันแทบจะทุกสิ่ง
สังเกตุกลไกที่สัมพันธ์กันง่าย ๆ เช่น เราเดินเหนื่อยกลางแดด แผดเผาจ้า ร่างกายก็ปรับสมดุลโดยลดการเผาผลาญ ลดกิจกรรมเซลล์
เพื่อไม่ให้มีความร้อนเกิดขึ้นเพิ่ม ส่วนจิตใจก็ต้องการความเย็น ความรู้สึกเย็น
โหยหาสิ่งที่เคยทำให้เรารู้สึกเย็นกว่า ปกติ นำ้เย็น แอร์ พัดลม น้ำแข็ง อะไรก็แล้วแต่
ซึ่งถ้าเราอยู่สภาวะปกติเราคงไม่โหยหามัน
สิ่งเหล่านี้เป็นเพียงเศษเสี้ยวความสมดุลในหลาย ๆ พัน หมื่น ล้าน ๆๆ เหตุการณ์
ลองมาดูสภาวะจิตใจกันบ้าง เคล็ดลับก็คือ ถ้าเข้าใจถึงกลไก
สมดุลของธรรมชาติแล้วนั่น ก็สามารถตั้งมั่นอยู่ให้สมดุลได้
มีความเสียใจก็พึงระลึกไว้ว่าจะต้องได้สุขใจ ภายหลังจากเราคลายความเสียใจนั้น
คำว่า ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน ไม่ใช่คำพูด ลอย ๆ เลย น่าสนใจไม่น้อย
รอจังหวะสัมผัส สุข-ทุกข์
รื่นเริง-เหงา ร้อนรน-เย็นชา
เหล่านี้จะมาเหลื่อมกันอย่างไร มันก็ต้องมาควบคู่กันอยู่ดี
ภาวะจิต
ถ้าคนเข้าใจ ทำตัวสอดคล้องกับธรรมชาติได้ ปัญหาก็จะลดลงหรือหมดไป
แต่ว่า ท่านพุทธทาส เคยสอนให้เอาใจออกมาจาก "ของคู่"
ขอบคุณครับ คุณจิด้า
ผมต้องลองศึกษาแนวทางของท่าน พุทธทาสไว้เพื่อเพิ่มมุมมองบ้างแล้วครับ "ของคู่"
น่าสนใจมุมมอง ปูชนียบุคคลที่ผ่านโลกความจริง และ ความคิดมามากมาย
ขอบคุณครับ ^^