วันนี้ไปลองหัดขับเครื่องบินมา


ทำมั้ยทำไม คนญี่ปุ่นถึงได้เก่งเอ๊า เก่งเอา

 

 

ทุกคนเคยสงสัยบ้างไหมคะว่าทำมั้ยทำไม  คนญี่ปุ่นถึงได้เก่งเอ๊าเก่งเอา  ช่างประดิษฐ์  ช่างคิดค้น  เป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางเทคโลโลยีสูงสุดประทศหนึ่ง  เอ...รึว่าเขากินปลาดิบแต่ว่าหนูมะขามกินปลาร้าคะ  มันก็ไม่ใช่ (คิดถึงแล้วน้ำลายไหล  อยากกกกกกกก  กินจัง  เพื่อนๆ  พี่ ๆ  น้องๆ  อ่านแล้วก็ทานเผื่อด้วยนะคะ)  หรือว่าสมองเขาใหญ่กว่าเรา (รึเปล่า)  ก็ไม่ใช่  แต่ก่อนก็ได้แต่สงสัย  อ่านหนังสือแล้วก็ยังไม่กระจ่าง  แต่ว่าตอนนี้เริ่มจะเห็นคำตอบอยู่รางๆแล้ว  มาดูกันค่ะว่าทำไมเด็กเขาถึงได้เก่ง  เผื่อว่าเราจะได้นำไปปรับปรุงได้บ้างค่ะ

การจัดการเรียนการสอนของเขาเน้นอยู่ 2 อย่างคือ  การจัดการเรียนการสอนในห้องเรียนกับกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่เป็นกิจกรรมที่วางโครงการตลอดปีค่ะ  ที่นี่จะให้นำหนักกับกิจกรรมเสริมมาก  โดยจะมีความร่วมมือระหว่างโรงเรียนกับหน่วยงานต่างๆอย่างเป็นรูปธรรม  โดยมองจากเมืองเซ็นไดที่หนูมะขามอยู่นะคะ

อันดับแรกโรงเรียนกับหน่วยงานจะมีการแลกเปลี่ยนบุคลากรซึ่งกันและกัน  เช่นเจ้าหน้าที่ในพิพิธภัณฑ์อาจจะไปทำงานที่โรงเรียนเพื่อสอนหรือบรรยายวิชาพิเศษที่ต้องการผู้เชี่ยวชาญ  อันนี้สามารถทำได้  หรือว่าทางโรงเรียนอาจส่งบุคลากรไปทำงานในพิพิธภัณฑ์ก็สามารถทำได้  จะเห็นได้ว่าเด็กนักเรียนจะเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์เต็มๆ คือได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถโดยตรง

อันดับสองในเมืองมีพิพิธภัณฑ์ต่าง ๆมากมาย เพื่อให้นักเรียนได้รับประสบการณ์ตรงจากการเรียนรู้ด้วยตนเอง  ซึ่งโรงเรียนกับพิพิธภัณฑ์จะส่งนักเรียนมาเรียนเรื่องเฉพาะทางเป็นระยะ  เช่น  เคมี  ฟิสิกส์  หรืออื่นๆ   นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์ที่นักเรียนสามารถเข้าไปเล่นและได้ความรู้กลับมา  ซึ่งไม่เฉพาะสำหรับนักเรียนเท่านั้น  ก็ยังมีประชาชนที่สนใจเข้ามาศึกษามาก  ซึ่งหนูมะขามมองว่าเป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตคือ  เด็กสามารถจับจ้องเล่นได้ ได้ทดลอง  ประมาณว่าพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์บ้านเรานั่นแหล่ะค่ะ  แต่ว่าที่นี่มีประจำเมือง  โดยวันนี้หนูมะขามก็ไปเที่ยวมาและได้ลองหัดขับเครื่องบินกับเพื่อนๆ และคุณครูค่ะ  ผลออกมาทุกลำตกทะเลหมดเลย เหอ  เหอเหอ ของครูดีหน่อยเกือบถึงรันเวย์แต่ลงไม่ได้ก็ตกบนบก  สรุปแล้วตายหมดทุกลำ  สนุกมากค่ะ  ก็สังเกตเห็นเด็ก ๆ ที่มาเที่ยวนะคะ  บางคนผู้ปกครองพามา  บางคนมากับโรงเรียน  สีหน้าเด็กทุกคนมีความสุขมาก  ถ้าบ้านเรามีแบบนี้เยอะ ๆ ก็ดีนะคะ  เด็กๆ จะได้เรียนรู้เพิ่มขึ้น

อันดับสาม จังหวัดจะมีโครงการที่จัดตลอดปีสำหรับนักเรียนตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษา  โดยกำหนดวันเวลา  ผู้เข้าร่วม  สถานที่  ไว้เรียบร้อยซึ่งผู้ที่สนใจสามารถเข้าร่วมได้โดยเสียค่าใช้จ่ายในราคาที่ไม่แพง  มีทั้งกิจกรรมเสริมบทเรียน  หรือเป็นกิจกรรมพัฒนาทักษะชีวิต  เช่น  เข้าค่าย  ทำอาหาร  หรือว่าเป็นกิจกรรมที่กระชับความสัมพันธ์ในครอบครัว  เช่นกิจกรรมเดินป่า  กิจกรรมศึกษาธรรมชาติ  กิจกรรมดูนก  ดูผีเสื้อ  กิจกรรมนักสำรวจน้อย ๆ  กิจกรรมทางทะเล  และอื่น ๆ จากที่ดูมาทุกกิจกรรมน่าสนใจและน่าเข้าร่วมมาก  และก็ทราบว่ามีผู้สนใจร่วมกิจกรรมมาก  จะเห็นได้ว่าจังหวัดก็มีบทบาทในการส่งเสริมพัฒนาความรู้  โดยจังหวัดจะมีทีมงานวิทยากรที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง  ไม่ได้ไปเพิ่มภาระให้กับคุณครูนะคะ

อันดับสี่  แต่ละอำเภอมีห้องสมุดที่ใหญ่และทันสมัยมาก มีหนังสือน่าอ่านมากมาย  มีการบริการอินเตอร์เน็ต  มีมุมเด็ก ๆ  มีการบริการยืมสื่อ  วีดีโอ  ภาพยนตร์กลับไปดูที่บ้าน  หรือดูที่ห้องสมุดก็ได้ บางอำเภอก็มีห้องสมุดมากกว่าหนึ่งนะคะ  ที่เมืองหนูมะขามมีมากนับไม่ไหวเลยค่ะ  บรรยากาศก็โล่ง  โปร่ง  สบาย  เจ้าหน้าที่ทุก ๆ ที่ก็น่ารัก  ยิ้มแย้มแจ่มใส  เต็มใจบริการเต็มที่ 

อันดับห้า  มีแหล่งเรียนรู้นอกตำรามากมาย  เช่น หอดูดาว  ศูนย์วัฒนธรรม  อื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมาก

จากที่กล่าวมาทั้งหมดจะห็นได้ว่าเด็กจะได้รับการพัฒนาทั้งสมอง ร่างกาย ทักษะต่าง ๆไปพร้อม ๆ กัน  มีแหล่งเรียนรู้ให้เด็กได้เรียนรู้โดยตรงจากประสบการณ์ตนเอง  การศึกษาของเขาถึงได้ประสบความสำเร็จค่ะ

เป็นอย่างไรบ้างคะ  หนูมะขามอยากได้แบบนี้บ้างจัง  จะได้ผลิตบุคลากรที่มีคุณภาพออกสู่สังคมได้มากกว่านี้

 

หมายเลขบันทึก: 197050เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2008 09:02 น. ()แก้ไขเมื่อ 25 พฤษภาคม 2012 21:13 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
  • ขอดูภาพใหญ่ๆได้ไหมคะ
  • และตัวอักษรที่หนูมะขามใช้อ่านยากจังค่ะ

P

  • ขอโทษค่ะ  พอดีพึ่งจะเริ่มเป็นสมาชิกใหม่ค่ะ  คราวก่อน ๆ  โพสต์ภาพใหญ่ไป  ปรากฏว่าโหลดยากน่ะคะ  คราวนี้ก็เลยทำมาเป็นภาพเล็กนะคะ 
  • ส่วนเรื่องตัวอักษร  จะปรับปรุงต่อไปค่ะ
  • ขอบคุณค่ะสำหรับคำแนะนะค่ะ คราวหน้าจะปรับให้ดีกว่าค่ะ

ป้าทองได้อ่านแล้ว อยากให้เมืองไทยเริ่มทำอย่างจริงจังเหมือนเขา เพราะทุกวันนี้ทำแบบไฟไหม้ฟาง.. เด็กไทยบ้านเราก็จริง ๆ เลย พอให้อ่านให้ศึกษาให้มีความคิดกว้างไกลก็ไม่ค่อยจะนำพา เพราะช่วงอายุเลยการปลูกฝังมามาก "เกือบจะเหมือน ไม้แก่ดัดยาก" แล้ว แต่กับเรื่องบางเรื่องที่ไม่มีประโยชน์ รู้ก็รู้ว่าไม่ดี กลับรับได้ไว้ ไว...

ที่นี่เขาเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์โดยตรงค่ะ

มาเยี่ยมค่ะ

มารับรู้เรื่องราว

ขอบคุณมาก

คุณน้อง♀แอมป์❀●•♪.。‧:❉:

เห็นอย่างนี้แล้วอยากส่งน้องเขตต์ไปอยู่ญี่ปุ่นจัง

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท