แม่จากเราไปสองปีแล้ว...แต่คติธรรม ของแม่เรายังจดจำไว้เสมอ เป็นสำนวนพื้นบ้านว่า
“ไผว่าบ่ยินฮ้าย ไผว่าบ่ยินดี”
ส่วนปรัชญาในการดำเนินชีวิตแม่เล่าให้พี่ดอกไม้พี่เราว่า
1. ขยัน อดทน
2. คบคนดี
3. มีความซื่อสัตย์
4. เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
5. รู้จักปล่อยวาง ว่าง สงบ
เราเองทำงานส่งเสริมปศุสัตว์อินทรีย์มาก็ย้อนนึกถึงกิจกรรมที่แม่ทำช่างมีความรอบคอบเกี่ยวโยงกับธรรมชาติเหลือเกิน แม่เก็บผักขายก็ใช้แรงงานในครอบครัว พี่น้องเราทุกคนได้เก็บผักร่วมกับแม่ไปขาย ได้รดนำผักร่วมกัน ของที่ใช้บรรจุก็ทำจากใบตอง ไม้ไผ่บ้าง และที่เราจำแม่นมากคือหลังจากเราไปเรียนหนังสือกลับมาแม่จะหาผลไม่หรือของกนที่มีในสวนตามฤดูกาลมาให้เรากินแก้หิวก่อนจะถึงมื้อเย็นไม่ต้องชื้อขนมให้เปลืองตังค์เหมือนยุคนี้.เราจบดื้อด้วยกลอนของพี่ดอกไม้ ปานพาน..แทนความกึ๊ดเติงหาแม่.
แด่แม่ผู้จากไป
เคยใกล้ชิดทุกวันมั่นใจหมาย
เป็นย่ายายลูกหลานนานนานหนอ
อนิจจาลาไกลไม่รั้งรอ
อยากจะพ้อโชคชะตาว่าทำไม
แม่คนดีที่หนึ่งซึ้งใจลูก
จะผิดถูกแม่ไม่ด่าว่าผลักไส
แม่ยินดีรับได้ทุกสิ่งไป
ขอเพียงให้ลูกนี้มีสุขพอ
แม่จากไปไกลตาชีพลาลับ
ขอแม่หลับอย่าอาลัยใจจดจ่อ
ต่อแต่นี้พักผ่อนอย่ารีรอ
เพื่อเกิดก่อกายใหม่ในที่ดี
คืนเศร้าเหงาบ้านเราไร้เงาแม่
ที่คอยแต่ปลอบใจในทุกที่
ขอวิญญานสงบภพใหม่มี
ให้เรานี้พานพบจนจบกาล
รักใดเล่าเท่าแม่รัก อุ่นไหนจักเท่าตักแม่
แต่น้อยเฝ้าดูแล ทุกอย่างแก้ให้ถูกทาง
คิดถึงแม่เหมือนกัน
เพราะแม่สุดยอดมาก ทุกอย่าง
แม่ทำเกษตรผสมผสานมานานแล้ว
แม่อายุยืน 80 ปีเพราะอยู่กับการเกษตรที่ไม่ใชสารพิษ แต่พ่ออายุน้อย 67 ปีเพราะในวัยทำงานสูบบุหรี่ และใช้สารเคมีในไร่ยาสูบ พ่อมาสนใจปลอดสารและเลิกบุหรี่อายุ45ปีแต่ก็ช้าไปมันคงสะสมมากแล้ว คิดดูเท่าที่ผมจำได้ตอนเด็กๆ ชั้นประถมผมเห็น ขวดดีดีที ขวดฟูลิดอล มีมากตามข้างๆไร่ยาสูบ สมัยนี้เขาห้ามใช้แล้ว
ก็อย่างนี้นี่เองผมจึงสนใจและส่งเสริมให้ชาวบ้านเลิกใช้สารเคมี มาใช้ปุ๋ยคอกที่มาจากปศุสัตว์หมู เป็ดไก่ วัว ควาย หรือปุ๋ยน้ำจากขยะสดของเหลือใช้
วันก่อนประชุมนั่งข้างๆท่านพัฒนาชุมชนท่านหยิบกระดาษที่พิมพ์มาจากเน็ทให้อ่านแล้วสะเทือนใจดีเขาเล่าเรื่องที่กำเนอเพลงลิงทะโมนของพงษ์เทพ กระโดนชำนาญ ว่าก่อนนั้นอาหมูเป็นนักล่าสัตวป่ามาวันหนึ่งเห็นลิงอยู่บนต้นไม้ก็เลยยิงมันถูกยิงแต่มันไม่ยอมขยับไปไหนเพราะกำลังให้นมลูกพอมันให้นมลูกเสร็จมันก็ร้องโหยหวนให้เพื่อนลิงมารับลูกมันไปแล้วมันถึงยอมตกมาตาย อ่านมาจำได้ย่อๆแค่นี้ นั่นลิงนะครับ แล้วแม่ของเราทุกคนละครับ คงยิ่งกว่าไหนๆหาคำบรรยายครับ
๒๓ กันยายน ๒๕๕๑
ไปร่วมการประเมินศูนย์เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง แวะรักษาสุนัขให้เครือข่ายของศูนย์ฯและถือโอกาสเชิญร่วมกิจกรรมที่จะมีการประเมินด้วย เราได้รับไอแห่งการสร้างสรรเพราะตั้แต่ริมรั้วบ้านข้างนอกก็ปลูกผักหลากหลายชนิดกำลังออกใบสวยงามไม่ว่าจะเป็นพริก มะเขือเปราะ มะแว้ง มะเขือเทศพื้นเมือง ผักต่างๆ ฯลฯ
พอเดินเข้าในบ้านเมือเจ้าของบ้านน้องยุพิน ออกมาเปิดประตูและกันเจ้าตูบสองตัวที่ท่าทางเอาเรื่อง มองเห็นทั้งไก่ เป็ด หมู พืชสวนครัวอีกหลายชนิด ถั่ว ถั่วฟู ขิง ข่า ตะไคร้ แตงกวา มะกรูด ผักชะอม มะรุม มะพร้าว ลำใย ลิ้นจี่ ชมพู่ ฯลฯ เท่าที่จะมีที่ปลูกแม้จะมีบริเวณไม่มากเลย สอบถาม น้องเขาบอกว่านอกจากไม่ต้องไปชื้อแล้วเหลือก็ได้ขายบ้างแบ่งให้คนคุ้นเคยผู้มาเยี่ยมเป็นของฝากก็ได้ น้องยุพินบอกว่าน้องปกติรดน้ำไม่ได้ปลูกคนปลูกเป็นแม่ที่อยู่บ้านประจำคอยดูแลพ่อที่ไม่สบายเดินไม่ได้ พอว่างแม่ก็จะหาที่ว่างปลูกทดแทนกันตลอด ไม่อดเลย
อยากให้ทุกครอบครัวที่มีที่ว่างทำให้หมดเราคงสบายกันยิ่งขึ้น
เหมือนพ่อแม่เราสมัยเราเป็นเด็กเลย